ฉาวไม่จบ! รวบตัวซีอีโอ Audi-คดีโกงค่าไอเสีย

กลับมาอื้อฉาวอีกครั้งคดีโกงค่าไอเสียของ Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของเยอรมัน หลังจาก Rupert Stadler ประธานบริหาร Audi แบรนด์รถหรูในเครือถูกตำรวจรวบตัว เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าววงในระบุอัยการเมืองเบียร์แอบดักฟังข้อมูลทางโทรศัพท์ทำให้ได้ข้อมูลว่าเขาอาจจะทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญที่เชื่อมโยงสู่ตัวบิ๊กๆ

การจับกุม Stadler วัย 55 ปี เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน หลังจากอัยการเมืองมิวนิค เชื่อมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจทำลายหลักฐานในคดีการติดตั้งซอฟต์แวร์หลบเลี่ยงการตรวจสอบค่าไอเสียในรถยนต์ Volkswagen ที่ถูกเปิดโปงในประเทศสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2015

“การออกหมายจับเกิดขึ้นเพราะความเสี่ยงที่จะมีการทำลายหลักฐาน” Stephan Necknig โฆษกประจำสำนักอัยการเมืองมิวนิค แถลงกับสื่อมวลชน “ระหว่างการเข้าตรวจค้นเมื่อสัปดาห์ก่อน มีสัญญาณบางอย่างแสดงออกมาให้เห็นว่าผู้ต้องสงสัยอาจปลอมแปลงหลักฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลไปถึงฝ่ายสืบสวน”

Sueddeutsche Zeitung หนังสือพิมพ์ของเยอรมัน รายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลสำคัญจากการดักฟังโทรศัพท์ โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนมีการเข้าตรวจค้นหาบ้านพักของซีอีโอ Audi ที่เมืองอิงโกสตัดท์ และทำให้เขาถูกตั้งข้อหาทุจริตปลอมแปลงข้อมูลต่อสาธารณะชนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ดีเซลที่ขายในยุโรป

ก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวว่าหน่วยงานควบคุมมลพิษทางการอากาศรัฐแคลิฟอร์เนีย ตรวจเจอซอฟต์แวร์หลบเลี่ยงการตรวจสอบค่าไอเสียคล้ายในรถยนต์ Audi ที่ขายในประเทศสหรัฐฯ เช่นเดียวกับรถยนต์ Volkswagen ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นคดีอื้อฉาว ‘Dieselgate’ เมื่อเดือนกันยายน 2015 และทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลขหนึ่งของเยอรมัน ต้องจ่ายค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 16.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 6.1 แสนล้านบาท) เพื่อรับผิดชอบความเสียหายต่อลูกค้าชาวอเมริกัน

ในขณะที่การจับกุม Stadler เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก Volkswagen ตกลงยอมจ่ายเงินค่าปรับ 1 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท) ตามคำสั่งของอัยการเมืองเบียร์ ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ว่าอาจจะมีการดำเนินคดีกับผู้บริหารคนอื่น และข้อสงสัยในความเชื่อมโยงกับแบรนด์อื่นๆ จากการที่ซีอีโอ Audi มีหน้าที่รับผิดชอบเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของเครือ รวมถึง Porsche รถสปอร์ตยอดนิยมของคนทั่วโลก

Evercore ISI analysts สำนักวิเคราะห์ธุรกิจชั้นนำของยุโรป แสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “การจับกุมผู้บริหารครั้งนี้นับเป็นจุดต่ำสุดอีกครั้งในคดีโก่งค่าไอเสียของ Volkswagen เป็นเวลานานเกือบ 3 ปีที่คดีอื้อฉาวนี้ถูกเปิดโปงกว่าที่ตำรวจจะสามารถเข้าถึงตัวประธานบริหาร Audi”

ในตอนนี้ไม่มีความชัดเจนกับสถานะของ Stadler ในตำแหน่งผู้บริหารเครือ Volkswagen แต่มีรายงานว่าเขาอาจถูกให้พักงานในตำแหน่งประธานบริหารที่ดูแลมาตั้งแต่ปี 2010 เป็นการชั่วคราว และบอร์ดบริหารเตรียมดัน Bram Schot หัวหน้าฝ่ายขาย และการตลาดของ Audi ขึ้นมากุมบังเหียนในฐานะซีอีโอ