Fast & Furious 9 หรือ F9 กำลังจะเข้าโรงฉายที่สหรัฐอเมริกาวันที่ 25 มิถุนายนนี้แล้วหลังจากที่ต้องเลื่อนการฉายเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งหลายคนที่เป็นแฟนภาพยนตร์แฟรนไซส์เรื่องนี้แล้วกังวลว่าเรื่องที่กำลังเข้าโรงนี้จะเป็นจุดสิ้นสุดของภาพยนตร์แอ็คชั่นยอดนิยมของบรรดาคนชอบรถซิ่งหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เพราะจะมีต่อไปอีก 2 เรื่อง

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพื่อโปรโมตภาพยนตร์ F9 วิน ดีเซล นักแสดงนำของ Fast & Furious มาตั้งแต่เรื่องแรกได้บอกว่าจะมีภาพยนตร์แฟรนไซส์เรื่องนี้อีก 2 เรื่อง พร้อมกับเปิดเผยว่าน่าจะมาในปี 2023 และ 2024

“ทุกเรื่องราวสมควรมีตอนจบของตัวเอง ผมรู้ว่าผู้คนกำลังรู้สึกว่ามันจะไม่มีตอนจบ แต่ผมคิดว่าทุกสิ่งที่ดีควรมี มีหลายเหตุผลสำหรับการปิดฉาก ผมคิดว่าแฟรนไซส์นี้สมควรมีมัน แฟรนไซส์นี้กำเนิดจากริมถนน จากคอนกรีต โลกยกย่องภาพยนตร์รองบ่อนนี้ไปถึงจุดที่เหนือกว่าแฟรนไซส์อื่นเรียบร้อยแล้ว แต่แฟรนไซส์ก็มีจิตวิญญาณที่ต้องหยุดพัก” วิน ดีเซลบอกเพิ่มในขณะให้สัมภาษณ์

จัสติน ลิน ผู้กำกับ F9 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยกำกับ The Fast & Furious : Tokyo Drift, Fast & Furious, Fast Five และ Fast & Furious 6 มาแล้ว รวมทั้งจะรับหน้าที่กำกับ Fast & Furious 10 และ 11 ด้วยได้บอกว่า “เรามารวมกันแล้ววินได้บอกว่า ‘ผมคิดว่าเราควรคิดเกี่ยวการปิดฉากมหากาพย์ตอนนี้ F9 เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของส่วนสุดท้าย เราปรับทุกส่วนใหม่ ดังนั้นภาพยนตร์อีก 2 เรื่องต่อไปจึงควรเป็นการปิดฉากการผจญภัยที่มหัศจรรย์นี้สำหรับตัวละครเหล่านี้”

ก่อนการเข้าโรงฉายในสหรัฐอเมริกาช่วงปลายเดือนนี้ F9 ได้เข้าโรงฉายไปก่อนหน้านี้แล้วที่ฮ่องกงและเกาหลีใต้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวฉายนอกสหรัฐอเมริกาภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้รวมไปแล้วกว่า 280 ล้านดอลล่าร์ และแม้ว่า แฟรนไซส์ Fast & Furious จะมีบทสรุปในเรื่องที่ 11 แต่ก็ยังมีภาพยนตร์เรื่องแยกของตัวละครจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาให้แฟนๆ ได้ดูกันอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นที่จะออกมาคือภาพยนตร์ที่แสดงนำโดย มิเชลล์ โรดริเกวซที่แสดงเป็นเล็ตตี้ตั้งแต่ Fast & Furious เรื่องแรก

ภาพจาก thefastsaga.com

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th