จุดเด่นที่สำคัญของเชฟโรเลต โคโลราโด นั่นคือ “ขุมพลังดีเซล ดูราแม็กซ์” (DURAMAX) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสมรรถนะ แรงม้าและแรงบิดที่เหลือล้น ซึ่งมากเพียงพอต่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะกับการบรรทุกหนักและการลากจูง แถมเครื่องยนต์รุ่นนี้ยังสร้างชื่อไปถึงบ้านเกิดของเชฟโรเลตที่อเมริกาอีกด้วย

โดย เชฟโรเลต โคโลราโด ในเวอร์ชั่นอเมริกาที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ ที่ผลิตจากศูนย์การผลิตเพาเวอร์เทรนของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ไปคว้ารางวัลรถกระบะยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 ของมอเตอร์เทรนด์ (หนึ่งในสื่อมวลชนสายยานยนต์ชั้นนำของโลกที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลก่อตั้งในปี พ.ศ.2492) ได้ถึงสองปีติดต่อกัน ซึ่งนี่เป็นการการันตีถึงเครื่องยนต์ระดับคุณภาพที่ผลิตด้วยฝีมือของแรงงานไทย

สำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ที่ติดตั้งในโคโลราโดรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีพื้นฐานเดียวกันกับเครื่องยนต์ของโคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ที่จำหน่ายในประเทศไทยและภูมิภาคนี้ ซึ่งรางวัลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณภาพการผลิตเครื่องยนต์จากประเทศไทยมีคุณภาพระดับโลก และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการจำหน่ายในตลาดรถยนต์ที่มีการแข่งขันกันสูงมากและเป็นตลาดที่มีกฎข้อบังคับด้านผลิตภัณฑ์ที่เข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย

โดยเชฟโรเลต โคโลราโด เวอร์ชั่นอเมริกามีความประหยัดน้ำมันสูงสุดในตลาดรถกระบะของสหรัฐอเมริกา มีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ประเมินโดยหน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ อยู่ที่ 31 ไมล์ต่อแกลลอน (ประมาณ 13.1 กม./ลิตร) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ พร้อมกับมีสมรรถนะในการลากจูงที่ทรงพลังที่สุดในตลาดรถกระบะขนาดกลางสูงสุดถึง 7,700 ปอนด์ (ราว 3,492 กิโลกรัม) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ เมื่อติดตั้งชุดสำหรับการลากจูง และยังมาพร้อมเทอร์โบแบบแปรผันที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมัน มีพละกำลังที่ได้รับรองโดยสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ที่ 181 แรงม้า และแรงบิด 369 ฟุต-ปอนด์ ที่ 2,000 รอบ/นาที

และอีกหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่เพิ่มสมรรถนะของขุมพลังดูราแม็กซ์ คือ ระบบเทอร์โบแปรผันหล่อเย็นด้วยน้ำและระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลที่มีแรงดันสูงสุด 2,000 บาร์ (29,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) และเครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นหนึ่งในรุ่นแรกที่ใช้ระบบควบคุมเครื่องยนต์อิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาโดยจีเอ็มอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังใช้เพลาพ่วงสมดุลซึ่งทำหน้าที่หมุนสวนทางเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลและลดเสียงดังตลอดการทำงานในทุกรอบเครื่องยนต์ ซึ่งขุมพลังดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตร ไม่เพียงทัดเทียมมาตรฐานไอเสียของสหรัฐอเมริกา แต่ยังรองรับมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และสามารถยกระดับเป็นยูโร 5 และยูโร 6 ได้ด้วย โดยศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย นั้นได้ผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตรและ 2.5 ลิตร เจนเนอเรชั่นแรกในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2554 ขณะที่ดูราแม็กซ์เจนเนอเรชั่นที่สองผลิตในปี พ.ศ. 2556

เรื่อง: พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th