ตลาดรถยนต์ไทยร่วง อีโคคาร์ดันยอดเก๋งโต 20.3% ปิกอัพไม่ฟื้นทรุดหนัก 37.9%
ตลาดรถยนต์ไทยร่วง อีโคคาร์ดันยอดเก๋งโต 20.3% ปิกอัพไม่ฟื้นทรุดหนัก 37.9%
ตลาดรถยนต์ตุลาคมสถานการณ์ไม่เปลี่ยนชะลอตัว 8.8% ขาย 58,963 คัน อีโคคาร์ยังเป็นพระเอกดันยอดเก๋งโต 20.3% ปิกอัพไม่ฟื้นทรุดหนัก 37.9%
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2566 ด้วยยอดขาย 58,963 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่รถยนต์นั่งยังเติบโตต่อเนื่องด้วยยอดขาย 22,130 คัน เติบโต 13.7% ส่วนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยยอดขาย 36,833 คัน ลดลง 18.4% โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ปิดยอดขายที่ 22,998 คัน ลดลง 35.1% ตลาดรถยนต์ไทยร่วง
ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์
ตลาดรถยนต์ตุลาคมชะลอตัวต่อเนื่องที่ 8.8% ด้วยยอดขาย 58,963 คัน
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งยังเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 13.7% ด้วยยอดขาย 22,130 คัน เป็นผลมาจากการเติบโตของเซกเมนต์อีโคคาร์ด้วยยยอดขาย 16,800 คัน เติบโตขึ้นถึง 20.3% ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 18.4% ด้วยยอดขาย 36,833 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน หดตัวถึง 35.1% ด้วยยอดจำหน่าย 22,998 คัน ปัจจัยหลักเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างลื่นไหล ผู้บริโภคยังคงชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องโดยมีอุปสรรคสำคัญก็คือความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากมีความกังวลต่อความสามารถในการผ่อนชำระของผู้รับสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกระแสการหมุนเวียนของสินเชื่อเป็นหลัก
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนมีความหวังฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
ตามฤดูกาลขาย “High season” ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อหวังกระตุ้นยอดขายและปิดตัวเลขการขายประจำปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” หรือ “Thailand International Motor Expo 2023” ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน- 11 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งลูกค้าจำนวนมากต่างเฝ้ารอรับข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปี อย่างไรก็ตามความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์ทุกเซกเมนท์อย่างปฏิเสธไม่ได้
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 58,963 คัน ลดลง 8.8%
โตโยต้า | 20,852 คัน | ลดลง 18.0 % | ส่วนแบ่งตลาด 35.4% |
อีซูซุ | 10,962 คัน | ลดลง 22.2% | ส่วนแบ่งตลาด 18.6% |
ฮอนด้า | 7,306 คัน | เพิ่มขึ้น 23.6% | ส่วนแบ่งตลาด 12.4% |
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,130 คัน เพิ่มขึ้น 13.7%
โตโยต้า | 7,165 คัน | เพิ่มขึ้น 8.3% | ส่วนแบ่งตลาด 32.4% |
ฮอนด้า | 3,462 คัน | ลดลง 36.5% | ส่วนแบ่งตลาด 15.6% |
มิตซูบิชิ | 743 คัน | ลดลง 50.1% | ส่วนแบ่งตลาด 3.4% |
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 36,833 คัน ลดลง 18.4%
โตโยต้า | 13,687 คัน | ลดลง 27.3% | ส่วนแบ่งตลาด 37.2% |
อีซูซุ | 10,962 คัน | ลดลง 22.2% | ส่วนแบ่งตลาด 29.8% |
ฮอนด้า | 3,844 คัน | เพิ่มขึ้น 44.8% | ส่วนแบ่งตลาด 10.4% |
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 22,998 คัน ลดลง 35.1%
อีซูซุ | 9,725 คัน | ลดลง 24.0% | ส่วนแบ่งตลาด 42.3% |
โตโยต้า | 9,338 คัน | ลดลง 37.8% | ส่วนแบ่งตลาด 40.6% |
ฟอร์ด | 2,539 คัน | ลดลง 49.7% | ส่วนแบ่งตลาด 11.0% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,325 คัน โตโยต้า 1,704 คัน – อีซูซุ 1,482 คัน – ฟอร์ด 848 คัน – มิตซูบิชิ 231 คัน – นิสสัน 60 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 18,673 คัน ลดลง 37.9%
อีซูซุ | 8,243 คัน | ลดลง 29.9% | ส่วนแบ่งตลาด 44.1% |
โตโยต้า | 7,634 คัน | ลดลง 39.3% | ส่วนแบ่งตลาด 40.9% |
ฟอร์ด | 1,691 คัน | ลดลง 54.6% | ส่วนแบ่งตลาด 9.1% |
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 645,833 คัน ลดลง 7.5%
โตโยต้า | 220,144 คัน | ลดลง 5.9% | ส่วนแบ่งตลาด 34.1% |
อีซูซุ | 131,256 คัน | ลดลง 26.1% | ส่วนแบ่งตลาด 20.3% |
ฮอนด้า | 77,188 คัน | เพิ่มขึ้น 14.9% | ส่วนแบ่งตลาด 12.0% |
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 241,798 คัน เพิ่มขึ้น 9.9%
โตโยต้า | 84,522 คัน | เพิ่มขึ้น 29.3% | ส่วนแบ่งตลาด 35.0% |
ฮอนด้า | 47,369 คัน | ลดลง 7.9% | ส่วนแบ่งตลาด 19.6% |
มิตซูบิชิ | 13,419 คัน | ลดลง 24.8% | ส่วนแบ่งตลาด 5.5% |
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 404,035 คัน ลดลง 15.5%
โตโยต้า | 135,622 คัน | ลดลง 19.6% | ส่วนแบ่งตลาด 33.6% |
อีซูซุ | 131,256 คัน | ลดลง 26.1% | ส่วนแบ่งตลาด 32.5% |
ฮอนด้า | 29,819 คัน | เพิ่มขึ้น 89.3% | ส่วนแบ่งตลาด 7.4% |
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 278,897 คัน ลดลง 25.7%
อีซูซุ | 117,883 คัน | ลดลง 28.1% | ส่วนแบ่งตลาด 42.3% |
โตโยต้า | 109,531 คัน | ลดลง 24.0% | ส่วนแบ่งตลาด 39.3% |
ฟอร์ด | 31,312 คัน | ลดลง 5.8% | ส่วนแบ่งตลาด 11.2% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 51,555 คัน โตโยต้า 18,896 คัน – อีซูซุ 18,031 คัน – ฟอร์ด 10,118 คัน – มิตซูบิชิ 3,524 คัน – นิสสัน 986 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 227,342 คัน ลดลง 29.8%
อีซูซุ | 99,852 คัน | ลดลง 32.9% | ส่วนแบ่งตลาด 43.9% |
โตโยต้า | 90,635 คัน | ลดลง 25.5% | ส่วนแบ่งตลาด 39.9% |
ฟอร์ด | 21,194 คัน | ลดลง 19.8% | ส่วนแบ่งตลาด 9.3% |
ตลาดรถยนต์ไทยร่วง
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th