มาทำความรู้จักกับถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS
เวลาที่เราอ่านข้อมูลระบบความปลอดภัยของรถ เรามักเห็นคำว่าถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีความสงสัยไม่มากก็น้อยว่าถุงลมชนิดนี้คืออะไร ทำงานแบบไหน เพราะส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นแบบถุงลมนิรภัยคู่หน้าเท่านั้น เรามาคลายข้อสงสัยกันดีกว่าว่าถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS มีความพิเศษอย่างไร และอยู่จุดไหนบ้าง
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS – Supplemental Restraint System ระบบป้องกันผู้โดยสารในรถเมื่อเกิดการชนถุงลมนิรภัย SRS ช่วยในการปกป้องส่วนศีรษะและหน้าอก ของผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า เพราะในกรณีเกิดอุบัติเหตุการชนด้านหน้าที่มีความรุนแรงจนอาจเกิดการบาดเจ็บ เข็มขัดนิรภัยจะรัดลำตัวเอาไว้ไม่ให้กระเด็นไปข้างหน้าหรือถูกเหวี่ยงออกนอกตัวรถ แต่ศีรษะก็มีโอกาสที่จะสะบัดไปมาอย่างรุนแรงและในส่วนของหน้าอกก็อาจจะได้รับความบาดเจ็บจากการกระแทกกับพวงมาลัย ถุงลมนิรภัยก็จะทำงานโดยอัตโนมัติในช่วงเสี้ยววินาทีเพื่อปกป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรง
โดยทั่วไปแล้วถุงลมนิรภัย SRS จะมี 6 จุดหลักที่ป้องกัน คือ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 จุด ม่านนิรภัยด้านหน้า ซ้าย-ขวา ม่านนิรภัยด้านหลัง ซ้าย-ขวา ซึ่งแต่ละจุดจะช่วยซับแรงกระแทกเพื่อให้ลดความรุนแรงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้รถรุ่นใหม่ๆ ยังได้เพิ่มจุดที่ 7 บริเวณเข่าคนขับอีกด้วย เรามาดูกันว่าแต่ละจุดทำงานกันอย่างไรบ้าง
การทำงานของถุงลมนิรภัยด้านหน้า
เมื่อมีการชนเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัยจะตรวจจับความรุนแรงของการกระแทกและเมื่อความรุนแรงเกินจากค่าที่กำหนดของชุด เซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัย ส่วนกลาง (ชุดเซ็นเซอร์ถุงลมนิรภัย) ตัวจุดชนวนในชุดประจุก๊าซจะจุดดระเบิด ระบบ SRS ถุงลมนิรภัยด้านหน้าถูกออกแบบมาให้ทำงานเมื่อมีการกระแทกด้านหน้าอย่างรุนแรง รวมถึงถุงลมเสริมความปลอดภัยบริเวณเข่า
-ถุงลมนิรภัย SRS ดานหน้าจะพองออกถ้าความรุนแรงของการกระแทกสูงกว่าระดับที่ ออกแบบไว้เปรียบเทียบได้กับการชนที่ความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. -25 กม./ชม. (12 ไมล์ /ชม. -15 ไมล์ /ชม.) เมื่อปะทะตรงๆ กับสิ่งกีดขวางที่อยู่กับที่ซึ่งไม่เคลื่อนที่หรือเสียรูป
ถ้าผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เขาจะเคลื่อนที่ต่อไปด้วยความเร็ว 50 กม./ชม. (30 ไมล์/ชม.) จนกว่าจะปะทะกับภายในของรถในตัวอย่างนี้ ผู้โดยสารจะกระแทกภายในรถด้วยความเร็วที่เท่ากับตก จากตึกสามชั้น
การทำงานของม่านนิรภัย
– ถุงลมนิรภัย SRS ด้านหน้าจะพองออกถ้าความรุนแรงของการกระแทกสูงกว่าระดับที่ ออกแบบไว้เปรียบเทียบได้ กับการชนที่ความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. -25 กม./ชม. (12 ไมล์ /ชม. -15 ไมล์ /ชม.) เมื่อปะทะตรงๆ กับสิ่งกีดขวางที่อยู่กับที่ซึ่งไม่เคลื่อนที่ หรือเสียรูป
– ถ้าความรุนแรงของการกระแทกต่ำกว่าระดับที่ออกแบบไว้ถุงลมนิรภัย SRS ด้านหน้า จะไม่พองออก
–ระดับความเร็วนี้จะสูงขึ้นมากถ้ารถชนกับวัตถุ เช่นรถที่จอดอยู่หรือเสาป้ายสัญญาณจราจร ซึ่งจะเคลื่อนที่หรือเสียรูปได้เมื่อถูกกระแทก หรือถ้าชนแบบมุดข้างใด้ (เช่น การ ชนที่ส่วนหน้าของรถมุดหรือเสียบเข้าไปข้างใต้ ท้องรถบรรทุก ฯลฯ )
ถุงลมนิรภัย SRS จะไม่พองตัว (ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
ถุงลมนิรภัย SRS ด้านข้างและม่านนิรภัยถูก ออกแบบมาไม่ให้ทำงานเมื่อมีแรง
กระแทก จากด้านหน้าหรือด้านหลังง หรือพลิกคว่ำ หรือชนด้านข้างที่ความเร็วต่ำ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th