สำหรับ Chevrolet Captiva เป็นรถ SUV ขนาดกลางที่รับความสนใจในปี 2563 ถึงแม้ว่าเชฟโรเลตประเทศไทยจะประกาศยุติการจำหน่ายไปแล้วก็ตาม แต่ยังไงรถเชฟโรเลต แค ปติ ว่า ก็ยังเป็นรถที่มีประสิทธิภาพที่ดีและดีไซน์ที่สวยงาม ซึ่งในบทความนี้จะมาเจาะลึกถึงรายละเอียดของรถคนนี้กัน ว่ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง

การออกแบบดีไซน์ Chevrolet Captiva

สำหรับการออกแบบดีไซน์โดยรวมทั้งหมดได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสวยงามลงตัวและขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป อีกทั้งดีไซน์ภายในที่ทำออกมาได้ดูดี กว้างขวาง เหมาะสมกับรถสไตล์ SUV อย่างมาก เมื่อเทียบกับรถค่ายอื่น ๆ Chevrolet Captiva เป็นรถอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

การออกแบบภายนอก

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า Chevrolet Captiva ได้รับการชื่นชมในด้านการดีไซน์เป็นอย่างมาก ซึ่งสำหรับการพัฒนารูปร่างหน้าตาให้ดูหน้าคมมากยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้า LED เส้นตรงติดตั้งบริบริเวณด้านหน้าของตัวรถและไฟ LED Projector ที่ติดตั้งบริเวณกันชนด้านหน้าพร้อมกับไฟตัดหมอกใรกรอบรูปตัว C ทำให้การมองจากทางด้านหน้าของตัวรถดูมีมิติขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ไฟ LED Projector จะติดตั้งมาให้ในรุ่น Premier เท่านั้น

ต่อมาจะเป็นส่วนของฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบมาให้มีความแบนราบและมีเส้นสายตรงกลางทำให้ในส่วนด้านหน้าดูเป็นรถทรงสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และด้านบนหลังคาตัวรถถูกติดตั้ง Panoramic Sunroof ซึ่งจะติดตั้งมาในรุ่น Premier เท่านั้น ทำให้การขับขี่ของคุณได้รับบรรยากาศจากภายนอกมากยิ่งขึ้น ดีไซน์ไฟท้ายเป็นแบบสปอร์ตขนาดใหญ่ทั้ง 3 จุดแบบ LED ทำให้การมองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน และส่วนสุดท้ายคือล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตทูโทนขนาด 17 นิ้วเสริมความเท่ดูดีมีสไตล์มากยิ่งขึ้น

การออกแบบภายใน

อีกจุดเด่นหนึ่งสำหรับ Chevrolet Captiva คือภายในห้องโดยสารที่สวยงามทันสมัยและขนาดห้องโดยสารที่กว้างขวาง ขนาด 7 ที่นั่งจำนวน 3 แถว (ยกเว้นในรุ่น LS) และระบบความบันเทิงที่ครบครันด้วยจอภาพขนาดใหญ่ 10.4 และยังสามารถควบคุมเครื่องเสียงได้ไม่ยาก ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้และรองรับระบบ Bluetooth, USB, AUX และระบบ Chevrolet Link และให้ลำโพงทั้งหมด 4 ตัว และซัปวูฟเฟอร์ 1 ตัว

ทั้งนี้ในรถ เชฟโรเลต แค ปติ ว่า ไม่มีปุ่มปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร แต่จะสามารถปรับอุณหภูมิได้ผ่านหน้าจอ ผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์ ทำให้การควบเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกที่กว้างขวางโปร่ง หลังคาสูงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาที่นั่งอยู่ในห้องโดยสาร เบาะนั่งถูกออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดี ออกแบบดีไซน์มาให้รับสรีระของผู้โดยสาร เสริมด้วยฟองน้ำทำให้มีความนุ่มสบายมากยิ่งขึ้น และในรุ่น Premier นั้นเบาะคนขับเป็นระบบปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง อำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น

พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านท้ายตัด D-Shape พร้อมติดตั้งปุ่มควบคุมแบบมัลติฟังก์ชันควบคุมเครื่องเสียงและการโทรออกหรือรับสายได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังระบบ Cruise Control ติดตั้งมาให้เฉพาะรุ่น Premier เท่านั้น ในส่วนต่อมาเป็นส่วนแถวที่ 2 นั่งสบายกว้างขวางสามารถปรับองศาการเอนได้อย่างสะดวกสบาย และในแถวที่ 3 ก็กว้างขวางเช่นเดียวกัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กสามารถนั่งในแถวที่ 3 ได้อย่างสะดวกสบาย และที่พิเศษที่สุดสำหรับช่องเสียบ USB ที่มีให้ผู้โดยสารทุกที่นั่ง ทำให้การชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือสามารถชาร์จได้อย่างง่ายดาย

ระบบช่วยเหลือที่ติดตั้งใน รถเชฟโรเลต แค ปติ ว่า

สำหรับระบบความปลอดภัยและระบบความช่วยเหลือสำหรับ Chevrolet Captiva ก็มีพร้อมมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น

• ระบบ Cruise Control
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา กล้อง Camera 4 ตำแหน่งรอบคัน ( เฉพาะในรุ่น Premier เท่านั้น )
• เซนเซอร์หน้า ( เฉพาะในรุ่น Premier เท่านั้น ) และเซ็นเซอร์หลังช่วยผู้ขับขี่ในการเข้าจอดได้อย่างสะดวกสบาย
• ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
• ระบบป้องกันการลื่นไถล และป้องกันล้อฟรี (TCS)
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติในช่วงเบรกกะทันหัน (ESS)
• ระบบเบรกไฟฟ้า (EPD)
• ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Vehicle Hold)

เครื่องยนต์ Chevrolet Captiva

ด้านพละกำลังของเครื่องยนต์ที่มีมาให้ในรถเชฟโรเลต แค ปติ ว่า นั่นให้มาแบบคุ้มค่ากับราคา โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตรเทอร์โบ DOHC 16 วาล์ว ระบบวาล์วแปรผันแบบ DVVT ให้แรงม้าสูงสุดที่ 143 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตรที่ 2,400 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ Shift Control 8 สปีด และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E10 อีกด้วย

สำหรับในส่วนของราคาที่วางจำหน่ายนั้นก็มีมาให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

Chevrolet Captiva รุ่น LS มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 999,000 บาท

Chevrolet Captiva รุ่น LT มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 1,099,000 บาท

Chevrolet Captiva รุ่น PREMIER มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 1,199,000 บาท

ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาเปิดตัวในปี 2020 ซึ่งในปัจจุบันได้จำหน่ายหมดไปเป็นที่เรียบร้อย และสำหรับในปัจจุบันสำหรับใครที่ต้องการที่จะซื้อ เชฟโรเลต แค ปติ ว่า ให้ท่านสำรวจในตลาดรถมือสองซึ่งจะมีราคาขายต่อเริ่มต้นที่ 600,000-800,000 บาท อีกทั้งในส่วนของอะไหล่และการบริการหลังการขายนั้น ก็ยังสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์ Chevrolet ทั่วประเทศ ซึ่ง Chevrolet ได้ออกมาประกาศในเรื่องของการดูแลลูกค้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะยังมีสถานที่สำหรับดูแลรถยนต์ต่อไป

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th