ทดสอบ Honda Civic 1.8 EL และ 1.5 VTEC Turbo RS ขับสนุก นุ่ม หนึบ โดนใจ
หลังจากที่ ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ได้เปิดตัวฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ซึ่งรุ่นนี้เป็นเจนเนอร์เรชั่นที่ 10 ไปไม่นาน และสามารถทำยอดขายได้ถึง 7,500 คัน ซึ่งถือว่าได้รับความสนใจมากทีเดียว วันนี้ฮอนด้าจัดให้ทดสอบอีกครั้งหลังจากครั้งที่แล้วเราไปขับเจ้า ซีวิค1.5 เทอร์โบ กันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กันที่บุรีรัมย์ ครั้งนี้ทาง Grandprix onlineได้รับเชิญจากฮอนด้าอีกครั้งให้บินเหินฟ้า
ไปขับเจ้าซีวิค ใหม่ ทั้งตัว 1.8 และ 1.5 เทอร์โบ กันที่ภูเก็ตโดยการทดสอบครั้งนี้เราจะทดสอบแบบใช้งานจริง บนเส้นทางภูเก็ต –กระบี่ –ภูเก็ต ระยะทางกว่า 270 กม. เรามาดูกันว่าเจ้าซีวิค ใหม่ทั้งสองรุ่นจะเจ๋งขนาดไหน อ่อลืมบอกไปรถทุกคันเติมแก๊สโซฮอล์ 95
มาเริ่มจากภายนอกกันก่อนเลยทั้งสองรุ่น รูปลักษณ์ภายนอกดู ล้ำสมัยโฉบเฉี่ยวและหรูหราด้วยเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด สปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าโครเมียมรูปร่างคล้ายปีกที่วางตัวเป็นแนวยาวเต็มกรอบกระจังหน้า เชื่อมต่อกับไฟหน้าสไตล์สปอร์ตพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ทั้งยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED รูปทรงมองด้านข้างมันคล้ายรถคูเป้มากเลยดูสปอร์ตสุดๆ ทั้งสองรุ่นแตกต่างกันหลักก็ตรงไฟหน้า – ไฟท้าย ที่ตัว 1.8 เป็นโปรเจคเตอร์ แต่ตัว 1.5 เทอร์โบเป็น LED กระจังหน้าของ RS จะดูสปอร์ตกว่า ล้อแม็ก1.8เป็น 16 นิ้ว และ 1.5เป็น 17นิ้ว จากที่มองๆก็สวยทั้งสองรุ่นเลยอะ
ภายในห้องโดยสาร สวยงามลงตัวทีเดียวครับ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ใช้วัสดุคุณภาพสูงมีการบุนุ่มตามจุดต่างๆ พวงมาลัยหุ้มหนังจอที่คอนโซลกลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัสทำงานได้รวดเร็วดีใช้ง่ายฉลาดกว่ารุ่นเก่า เบาะคู่หน้านั่งสบายกระฉับตัวดี ทำให้นั่งขับในระยะทางไกลๆได้โดยไม่เมื้อยล้ามากนัก พื้นที่เหนือศีรษะเพียงพอผมสูง 180 ซม.ยังนั่งได้สบายหัวไม่ติด ทีมออกแบบบอกว่าเรื่องแผงประตูข้างที่สีชอบลอกเวลาใช้ไปนานๆรุ่นนี้ไม่เป็นแล้วนะจ๊ะ (อันนี้ต้องคอยดูกัน ) พนักพิงเบาะหลังพับไม่ได้ แต่ที่ขายประเทศอื่นพับได้นะ
เรามาเริ่มทดสอบกันเลย โดยผมได้ขับ เจ้าตัว 1.8 EL ก่อนเลย เป็นเครื่อง i-VTEC 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 17.7 กก.-ม. รองรับ E85 เกียร์อัตโนมัติ CVT ออกมาจากจุดสตาร์ท วิ่งภายเมืองภูเก็ตเรื่องความคล่องตัวถือว่าดีที่เดียวครับขับง่าย ออกมานอกเมืองมุ่งหน้าสู่กระบี่ มีบางช่วงถนนโล่งเลยลองกดคันเร่งลงไป ตอนออกตัวอาจจะรู้สึกหนืดๆไปหน่อย แต่ช่วงกลางกับปลายมาดีทีเดียว การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายใจหายห่วง มี ECON Mode ให้นะแต่ผมไม่ได้เปิดใช้ ฮาฮา อัตราเร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนุ่มนวล จนไปแตะที่ความเร็ว 170 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ ลองอัตราสิ้นเปลืองซะหน่อย ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.5 กม./ลิตร เพราะใช้ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม มีการเร่งแซงบางช่วง ช่วงล่างระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังมัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง นุ่มนวลซับแรงสะเทือนการพื้นผิวของถนนที่ขรุขระได้ดี การเค้าโค้งทำได้อย่างมั่นใจ เนียนๆเลย ช่วงล่างแม้จะเซ็ตมาเน้นความนุ่มนวลแต่ยังคงหนึบแน่น ยึดเกาะถนนได้ดีแม้ใช้ความเร็วสูง ใช้ยาง 215/55 R16
ขากลับเปลี่ยนมาขับตัวแรงกับเจ้าตัว 1.5 VTEC Turbo รุ่น RS เครื่องใหม่ 1,500 ซีซี ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Dual Valve Timing Control มีกำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 22.4 กก.-ม. ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Paddle Shift การเร่งออกตัวโฮโห เหลือเฟือจริงๆครับโดนใจอะ ลองทำ 0 –100 ดูได้ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 8 วินาที ครับลองทำคลิปให้ดูผมกดเวลาช้าไปเลยออกมา 10 วินาที (เค้าขอโทด ) กดคันเร่งลงไปเครื่องยนต์ก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ อัตราเร่งมาแบบต่อเนื่อง แซงรถคันหน้าบนถนน 2 เลนสวนได้อย่างปลอดภัย จื๊ดจ๊าดทั้งการเร่งออกตัวและเร่งแซง ขับมาซักพักเกิดอยากสนุกเข้าโหมดเกียร์ S ลองเล่น Paddle Shift ขับสนุกขึ้นเยอะเลยครับควบคุมได้ดังไจต้องการ ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 14 กม./ลิตร
ช่วงล่างรในรุ่น 1.5 เทอร์โบ ะบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังมัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง แต่การเซ็ตค่าความหนืดของโช็ค และค่าเคของสปริงต่างกับรุ่น 1.8 EL ยางขนาด 215/50/17 เส้นทางที่ทดสอบมีทั้งทางเรียบ โค้งกว้าง โค้งแคบ ทางขรุขระ ทำถนน และทางตรงยาว ช่วงล่างของเจ้าซีวิค ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งนุ่มนวล และหนึบทีเดียวครับ ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ขับทางตรงด้วยความเร็วประมาณ 120-140 กม./ชม. ยังคงมีความมั่นคงและนิ่งดีครับ แต่ช่วงเค้าโค้งรู้สึกวูบวาบ โยนๆ แปลกๆ เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงทำให้ไม่มั่นใจ ผมว่าตัว 1.8 เค้าโค้งได้ดีกว่ามั่นใจกว่า ระบบเบรกหยุดรถได้อย่างมั่นใจ นุ่มนวล ตอบสนองได้ฉับไว
เจ้าซีวิค ใหม่คันนี้ผมว่าเป็นรถยนต์ที่น่าใช้มากทีเดียวครับ แถมยังมี 2 เครื่องยนต์ให้เลือกตามว่าเหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าคุณมองหารถเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ผมว่า 1.8 EL ก็เพียงพอแล้วราคาก็ถูกกว่ารุ่น 1.5 RS อยู่ถึง 240,000 บาท แต่ถ้าอยากได้แบบซิ่งๆ ปรื๊ดปร๊าดออฟชั่นมาเต็มๆจัดได้เลย 1.5 VTEC Turbo รับรองตอบโจทย์แน่นอน ราคาเริ่นต้น869,000 – 1,199,000 บาท เลือกได้ตามชอบเลยจร้า
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th