ทดสอบ MITSUBISHI XPANDER แบบใช้งานจริง ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
Xpanderหลังจากโลดแล่นบนถนนในประเทศอินโดนีเซียอยู่พักใหญ่ ก็ถึงคิวประเทศไทยแล้วครับกับ Mitsubishi XPANDER รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งจากค่ายมิตซูบิชิที่เค้าเรียกเจ้า Mitsubishi XPANDER คันนี้ว่า มินิ ครอสโอเวอร์ ไม่ใช่ MPV อย่างที่ควรจะเป็น โดยให้เหตุผลที่ว่าเจ้า Mitsubishi XPANDERคันนี้มีความสูงมากกว่ารถยนต์ในเซ็กเม้นท์เดียวกัน โดยมีความสูงจากตัวรถถึงพื้น 205 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถไปกินได้ในตลาด B SUV อย่าง ฮอนด้า CH-R และ โตโยต้า H-RV อีกด้วย สำหรับคู่แข่งโดยตรงก็จะเป็นพวก ฮอนด้า โมบิลิโอ้ โตโยต้า เซียนต้า และ ซูซูกิ เออติก้า เป็นต้น
โดยการทดสอบในครั้งนี้ทางมิตซูบิชิ ได้เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบ Mitsubishi XPANDER ก่อนการเป็นตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยโดยใช้เส้นทางจากเหนือจรดใต้ และในทริปที่2 นี้ทาง Grandprix .co.th ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบบนเส้นทาง สุโขทัย-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น บนเส้นทางที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในเมือง นอกเมือง ขึ้น-ลงเขา บอกเลยว่าครบครับงานนี้ แถมเราขับทดสอบแบบใช้งานจริงๆไม่มีปั้นตัวเลขแน่นอน
เรามารู้จักเจ้า Mitsubishi XPANDER กันก่อนเลยดีกว่า ภายนอกดีไซน์โดดเด่นมีเอกลักษณ์ กระจังหน้าโครเมี่ยม triple-slat ประกบไฟหรี่แบบ Crystal LED ที่รูปทรงโฉบเฉี่ยวอยู่ด้านบนสุด น่าเสียดายที่ไม่มีไฟ Day Light มาให้ กันชนหน้าขนาดใหญ่ติดตั้งไฟหน้าดวงใหญ่แบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ด้านล่างเป็นไฟเลี้ยว และฟตัดหมอกขนาดใหญ่ทรงกลมอยู่ล่างสุด
เพิ่มความหรูหราด้วย ล้ออัลลอยสีทูโทนที่รถสมัยใหม่นิยมใช้กัน ขนาด 16 นิ้ว และยาง 205/55 R16 ในรุ่นท็อปสุด กับขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/65 R15 ในรุ่นล่าง ด้านท้ายมาพร้อมไฟ LED รูปตัว L ขนาดใหญ่ ดีไซน์สวยดีนะผมชอบ มองผ่านๆด้านท้ายคล้ายรุ่นพี่อย่าง ปาเจโร่ สปอร์ต เหมือนกันนะ ฝากระโปรงท้ายมาพร้อมสปอยเลอร์และไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED พร้อมขนาดตัวรถที่ใหญ่ บึกบึนตั้งแต่ ความยาว 4,475 มม. ความกว้าง 1,750 มม. ความสูง 1,700 มม. ฐานล้อ 2,775 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ 205 มม.ซึ่งความสูงใต้ท้องรถนี้มันสูงใกล้เคียงกับพวกรถ B-SUV เลยนะนี่ดูแล้วลุยได้พอควรเลยทีเดียว น้ำหนัก 1,290 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร เติม E20 ได้
ภายในดูดีทีเดียวครับ กว้างขวาง สะดวกสบาย ดีครับ แถมเน้นตกแต่งด้วยโทนสีดำทำให้ดูสปอร์ตมายิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยแผงสีเงินลายเครฟล่าทั้งแผงประตูและคอนโซลกลาง สบายด้วยเบาะนั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่งหรูโล่งโปร่งสบาย เบาะคู่หน้านั่งสบายพอสมควร แต่ผมว่ามันไม่ค่อยกระฉับไหร่นัก อันนี้แล้วแต่คนชอบ แถวสองนั่งสบายดีปรับเอนได้ มาถึงแถวที่สามผมสูง 180 ซม.เข้าไปนั่งได้สบายครับ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าแถวสองไม่เอนมาเยอะนะครับ
เบาะแถวสามก็ปรับเอนได้เช่นกันครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อนของผู้โดยสารเพราะเจ้าMitsubishi XPANDER มาพร้อมมีแอร์หลังด้านบนและปรับแรงลมได้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เครื่องเล่นวิทยุ DVD พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 6.2 นิ้ว หน้าตาดูเชยไปหน่อยเปลี่ยนเป็นแบบจอเต็มจะดูหรูหรากว่านี้ พร้อมลำโพง 6 ตัว มาตรวัดเรืองแสงครบด้วยจอแสดงผลข้อมูลอัจฉริยะและกุญแจ KOS เอาใจคนชอบขนของด้วยเบาะนั่งตอน 2 พับได้แบบ 60:40 และตอน 3 พับได้แบบ 50:50 การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารยอดเยี่ยมเลยครับเงียบดีครับ
เรามาเทียบขนาดกันชัดๆเลยดีกว่า
Mitsubishi Xpander : 4,475 x 1,750 x 1,700 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น 205 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,290 กิโลกรัมHonda BR-V : 4,455 x 1,735 x 1,650 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น 201 มิลลิเมตร หนัก 1,241 กิโลกรัม
Honda Mobilio : 4,398 x 1,683 x 1,603 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น 189 มิลลิเมตร หนัก 1,173 กิโลกรัม
Suzuki Ertiga :4,265 – 4,325 x 1,695 x 1,685 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น 185 มิลลิเมตร หนัก 1,195 กิโลกรัม
Toyota Sienta : 4,235 x 1,695 x 1,695 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น 170 มิลลิเมตร หนัก 1,350 กิโลกรัม
เอาละเรารู้ข้อมูลคร่าวๆกันพอสมควรแล้วเรามาเริ่มทดสอบกันเลย บินออกจากกรุงเทพกันแต่เช้าตรูมาลงที่สนามบินสุโขทัยเดินออกมาผ่านตัวเมืองความคล่องตัวต้องบอกเลยว่า Mitsubishi XPANDER คันนี้มีความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองสูงทีเดียวครับ ลัดเลาะไปตามช่องว่างได้อย่างสบายขับง่ายมากทัศนวิสัยดีมากครับมองเห็นได้ไกล ออกมานอกเมืองถนนใหญ่หน่อยรถน้อยลองอัตราเร่งของเครื่องยนต์ เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4G91 MIVEC 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า กันหน่อยดีกว่ากดคันเร่งลงไปรถค่อยๆไต่ความเร็วขึ้นแบบต่อเนื่องช่วงออกตัวทำได้ดีทีเดียวครับ กดคันเร่งเพิ่มไปอีกความเร็วยังคงไหลขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ค่อยทันใจเท่าไหร่นัก จนไปสุดที่ประมาณ 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การใช้งานปกติบนถนนทั้งในและนอกเมืองไม่มีปัญหา
เพียงพอต่อการใช้งานแต่อาจจะไม่ทันใจวัยรุ่นเท่าไหร่นัก เค้าออกแบบมาให้เป็นรถครอบครัวเอาไปซิ่งคงไม่เหมาะเท่าไหร่ การเร่งแซงต้องคำนวณระยะ และความเร็วดีๆก็จะแซงได้แบบไม่มีปัญหา ถ้าจะแซงแบบกระชั้นชิดต้องคลิ๊กดาวน์ช่วยหน่อยก็เท่านั้น ถามว่าขึ้นเขาสูงชันได้มั้ย บอกเลยว่าได้ครับแต่เหนื่อยหน่อย มันจะหนืดๆไม่ปรู๊ดปร๊าดทันใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ไปรอดครับผ่านไปได้ อาจจะคงเป็นเพราะเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะนี่ละ เพราะเครื่องยนต์ยังไปได้อีกแต่เกียร์ลูกนี้ถูกเซ็ทมาให้เน้นความประหยัดเป็นหลัก แถมมีแค่ 4 จังหวะ การขึ้นเขาสูงชันเลยใช้รอบที่สูง และหนืดๆไปค่อยได้ดังใจเท่าไหร่นัก นี่ถ้าปรับเซ็ทเกียร์ใหม่ หรือไม่ก็เพิ่มให้มันมีซัก 6 เกียร์น่าจะวิ่งขึ้นเขาได้ดีกว่านี้เยอะครับ เพราะแรงเครื่องยังเหลือๆ ทางมิตซูบิชิเครมว่าเจ้า Mitsubishi XPANDER คันนี้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร แต่จากที่ผมทดสอบขับแบบกดคันเร่งไม่ยั้ง เอาแบบใช้งานจริงๆตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 10-11 กิโลเมตรต่อลิตร ครับ
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชั่นบีม H-Shape นี่ต้องขอชมครับ เพราะจากที่เคยทดสอบรถยนต์ประเภทนี้มา ส่วนมากช่วงล่างจะโคลงโยนเหมือยขับเรือ น่าปวดหัว แต่เจ้า Mitsubishi XPANDER มีช่วงล่างที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างดี สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวของถนนได้ดีนุมนวล มั่นคงเมื่อขับขี่ทางตรงด้วยความเร็วสูง แถมยังให้ความมั่นใจในการเค้าโค้งด้วยความเร็ว แน่น หนึบ ดีครับผมชอบเลยคือไม่แข็งกระด้างแถมยังหนึบอีก
พร้อมความปลอดภัย INC (Idle Neutral Control) ระบบควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก ระบบระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันล้อหมุนฟรี ASTC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist System และพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
รุ่นที่จำหน่ายในไทย มี 2 รุ่นทั้งรุ่น GLS-LTD และรุ่นท็อป GT มีทั้งหมด 4 สี ให้เลือกทั้ง สีดำ Jet Black Mica สีเทา Titanium Gray สีบอรนซ์เงิน Sterling Silver และสีขาวมุก Quartz White Pearl ส่วนราคานั้นต้องรอลุ้นกันวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ คาดการณ์ว่าน่าจะเปิดราคาที่ 7XX,000 – 800,000 บาท
Mitsubishi XPANDER คันนี้เหมาะมากสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก หรือไม่ก็ท่านที่ต้องการพื้นที่ในการขนสัมภาระ ขับรถเรื่อยๆไปเร็วมาก ต้องการความคล่องตัวใช้งานในเมืองเป็นหลัก ออกเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง ออกลุยเล็กน้อย ประหยัดน้ำมัน ช่วงล่างที่นุ่มนวล ผมว่าเจ้า Mitsubishi XPANDER คันนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th