ทำความรู้จัก BYD e6 ที่เพิ่งเปิดตัวใน ตลาด รถยนต์
หลายคนคงจะรู้อยู่แล้วว่า ตลาด รถยนต์ เป็นตลาดที่ใหญ่มาก เนื่องด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกันไป และไลฟ์สไตล์ที่เฉพาะตัว ซึ่งรถยนต์ในแต่ละรุ่นก็จะมีความโดดเด่น และฟังก์ชันที่ครบครัน ล่าสุดมีการเปิดตัว BYD e6 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเคลื่อนที่ได้โดยปราศจากน้ำมัน เหมาะสำหรับองค์กรเชิงพาณิชย์อย่างแท็กซี่ เนื่องด้วยดีไซน์ที่มีความโดดเด่น สามารถบรรจุสัมภาระได้เยอะ ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย บ่งบอกขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจปลอดภัยตลอดเส้นทาง
ความโดดเด่นของ BYD ในตลาดรถยนต์
ด้วยฟังก์ชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเดินทางเป็นครอบครัว สามารถทำการชาร์จไฟให้เต็มและขับไปยังจุดมุ่งหมายได้ในทันที ซึ่งการชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ไกลกว่า 320 กิโลเมตร ด้วยกำลังสูงสุด 121 แรงม้า และแรงบิดอีก 450 นิวตันเมตร สามารถขับเคลื่อนโดยไม่มีเกียร์ แต่อาศัยการเคลื่อนที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าผ่านชุดเฟืองไปยังล้อ ระยะเวลาในการชาร์จจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ขนาด คือ ขนาด 40kW ที่ใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และขนาด 7kW ใช้เวลาชาร์จประมาณ 11 ชั่วโมง
ตัวช่วยและอุปกรณ์เสริม
สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มอุปกรณ์ในการชาร์จไฟภายในบ้าน สามารถเดินระบบสายไฟที่ใช้เฉพาะการชาร์จโดยตรง ซึ่งจะอยู่ในราคาประมาณ 40,000 บาท พร้อมทั้งหม้อแปลงในการแปลงกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย
แอพพลิเคชั่นสำหรับตรวจสอบพื้นที่ในการชาร์จพลังงานรถยนต์รุ่น BYD e6 สามารถใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นที่สามารถบอกตำแหน่งจุดชาร์จพลังงานตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยทำการดำเนินการผ่านเครดิตผ่านบัตรเครดิต และสแกนคิวอาร์โค้ด ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 8-10 บาทต่อ kW
ความสวยงามที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
รถพลังงานไฟฟ้าจากสัญชาติจีนที่ได้เข้ามาบุกเบิก ตลาด รถยนต์ เส้นทางบริษัท zanotti จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ให้กับทางประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นการเน้นการให้บริการในรูปแบบของรถยนต์สาธารณะหรือแท็กซี่ ดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่น ทำให้ตัวรถค่อนข้างใหญ่ และถูกปรับ Option ตามความเหมาะสม
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เป็นแบบไฟ LED daytime Running lights
- ไฟท้ายเป็นแบบ LED ยางที่ใช้เป็นของแม็กซิส
- ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว
- ภายในตัวรถที่มีความโล่งสบายด้วยหลังคาที่สูง เพื่อให้บรรจุสัมภาระได้อย่างครบครัน ระบบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ตั้งแต่ความเร็ว ระดับการใช้พลังงาน ระบบแบตเตอรี่ ระยะทางที่วิ่งได้ ระยะทางที่ใช้ไป ตำแหน่งเกียร์ ระบบเบรกมือไฟฟ้า ที่จะมีการแบ่งสัดส่วน และบอกรายละเอียดการทำงานอย่างชัดเจน
- วิทยุแบบโมดูล ระบบเสียงแบบธรรมดาสมัยย้อนยุค ทำให้หวนรำลึกถึงช่วงเวลาในอดีต มีลำโพงเฉพาะด้านหน้า 3 จุด พวงมาลัยเรียบง่าย พร้อมทั้งระบบแอร์อัตโนมัติ
- เบาะคู่หน้าขนาดใหญ่ สามารถนั่งได้ 3 คนแบบสบาย ๆ สามารถปรับได้ตามความเหมาะสม
- พื้นที่ในการใช้สอยเยอะ มีด้านท้ายรถที่กว้างมาก แต่มีข้อเสีย คือ เบาะหลังพับไม่ได้
BYD e6 เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคแบบไหนใน ตลาด รถยนต์
สำหรับ BYD ได้ออกแบบมาให้มีความกว้าง สามารถบรรจุสัมภาระได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งการนำเข้ามายังในประเทศไทยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำมาใช้ให้บริการในรูปแบบของแท็กซี่ หรือขนส่งผู้โดยสาร ดังนั้นก็ต้องลองจับตาดูว่า อนาคตจะมีการขับเคลื่อนไปในทิศทางใด เพราะด้วยต้นทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจจะไม่ได้เหมาะต่อการ ตอบสนองต่อความต้องการของ ตลาด รถยนต์ เพราะความโดดเด่นเน้นจับตลาดองค์กรเป็นหลัก
ผลตอบรับของบุคคลที่ใช้งานจริง
สำหรับตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD มีจุดด้อยในเรื่องของฟังก์ชันความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงหรือการเชื่อมต่อสัญญาณต่าง ๆ ที่อาจจะมีฟังก์ชันที่ไม่ได้พบกันมากนัก เนื่องด้วยความต้องการของผู้จำหน่ายที่เน้นทำมาเพื่อเป็นรถที่ใช้ในการพาณิชย์ หรือรถยนต์สาธารณะ ดังนั้นฟังก์ชันดังกล่าวจึงต้องถูกตัดไป การขับขี่ก็จะมีความโดดเด่นในเรื่องของการบอกสถานะต่าง ๆ ทำให้มั่นใจตลอดเส้นทาง ระบบปลอดภัยต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยม ซึ่งสามารถอยู่ในรถยนต์ประเภทอเนกประสงค์ แบบใช้พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงใด ๆ ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่เรียกว่า มีคุณภาพและคุ้มราคา
นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้มีการการันตีถึงระยะเวลาของการใช้งานสามารถชาร์จพลังและวิ่งได้ถึง 500,000 กิโลเมตรภายใน 5 ปี ตัวเลือกของผู้ประกอบการที่อยู่ใน ตลาด รถยนต์ เชิงพาณิชย์ สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ และงบประมาณที่มีอยู่ ที่สำคัญ คือ การใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน และลดมลพิษให้แก่สิ่งแวดล้อม
BYD e6 ปรากฏการณ์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ ตลาด รถยนต์ ในเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เน้นด้านการให้บริการในรูปแบบของรถที่นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างแท็กซี่ ที่มีประโยชน์และตอบโจทย์เรื่องพื้นที่การใช้สอย มีความกว้าง ระบบความปลอดภัยที่สามารถมั่นใจได้ตลอดเส้นทาง ด้วยยุคสมัยที่เทรนการรักษ์โลกและรักสิ่งแวดล้อมกำลัง กลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลในการดำเนินชีวิต ตัวเลือกในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่ช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นแก่สิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีความน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปว่า จะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้างสำหรับประเทศไทย และความต้องการใน ตลาด รถยนต์ ของกลุ่มผู้ประกอบการนั้นจะเป็นไปในทิศทางใด
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th