Mercedes-Benz แบรนด์รถยนต์สุดหรูที่มาจากประเทศเยอรมัน เป็นแบรนด์ที่มีการก่อตั้งมานานหลายสิบปี ทำให้ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานนั้นสามารถเป็นตัวการันตีได้เลยว่า การเลือกซื้อรถจากเมอร์ซิเดสเบนซ์นั้น คุณจะได้รับรถที่มีคุณภาพไปแน่นอน ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานในการให้บริการ เบนซ์ได้มีการผลิตรถยนต์ออกมาหลากหลายรุ่น ซึ่งก็มีรุ่นที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดอยู่มากมายเลยทีเดียว ในปี 2020 นี้เอง ทางเบนซ์ได้มีการเปิดตัว Mercedes-Benz amg a200 รถยนต์สุดหรู ที่มีดีไซน์สปอร์ต และยังเป็นอีกรุ่นหนึ่งของเบนซ์ที่กำลังได้รับความนิยมมาก ๆ

ทำความรู้จัก Mercedes-Benz amg a200 รถหรู ดีไซน์สปอร์ต ที่โดนใจใครหลายคน

Mercedes-Benz amg a200 รถยนต์สุดหรูที่กำลังเป็นกระแสมาแรง โดยรถรุ่นนี้มีตัวถังมาในแบบสปอร์ตซีดาน 4 ประตู ที่มีจุดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์ที่แม้ว่าจะมีขนาดที่เล็ก แต่ก็อัดแน่นไปด้วยสมรรถนะที่เกินตัวมากทีเดียว ซึ่งตัวรถนั้นมีความยาวอยู่ที่ 4,549 มิลลิเมตร มีความกว้างอยู่ที่ 1,796 มิลลิเมตร และมีความสูงอยู่ที่ 1,425 มิลลิเมตร อีกทั้งยังมีระยะฐานล้อ 2,729 มิลลิเมตรมีที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 420 ลิตร และยังมีความจุถังน้ำมัน 43 ลิตรด้วย

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น ก็ได้ให้มาเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง รหัส M282 ขนาด 1.3 ลิตร 1,332 ซีซี. พ่วงมาด้วยเทอร์โบ กระบอกสูบ ที่มีระยะช่วงชัก 72.2 x 81.4 มิลลิเมตร มีอัตราส่วนกำลังอัด 10.6 : 1 ที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,620 – 4,000 รอบ/นาที พร้อมทั้งยังจับคู่มากับเกียร์ Dual Clutch 7G-DCT 7 จังหวะที่ทำให้หน้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้านั่นเอง

การใช้งานก็ได้มีให้มา 3 โหมด

• โหมด ECO เป็นโหมดที่มีการตอบสนองของเครื่องยนต์ และคันเร่งแบบเรื่อย ๆ ไม่กระโชกโฮกฮาก เนื่องจากจะเน้นไปในเรื่อง

ของการประหยัดน้ำมัน ซึ่งการใช้โหมดนี้ ตัวเครื่องยนต์ก็ยังคงมีกำลังเหลือพอที่จะแซงได้แบบสบาย ๆ

• โหมด Comfort เป็นโหมดที่ให้การขับขี่แบบปกติ โดยเป็นโหมดที่ถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานของรถรุ่นนี้มากที่สุด เพราะ

สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับแบบช้า หรือการขับแบบเร่งรีบ เครื่องยนต์ก็สามารถทำออกมาได้ดีแบบเหลือ ๆ เลยทีเดียว

• โหมด Sport เป็นโหมดการขับขี่ที่แรงที่สุดของรถรุ่นนี้ โดยโหมดนี้จะใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นกว่าปกติ พร้อมทั้งยังมีการ

กระแทกคันเร่งอยู่ตลอดเวลา เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ช่วยให้การขับขี่นั้นมีความสนุกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเมื่อเปลี่ยนมาใช้โหมดนี้ ระบบช่วงล่าง และพวงมาลัยจะถูกปรับให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วย

การดีไซน์ของ Mercedes-Benz amg a200

การดีไซน์ภายนอกของเบนซ์รุ่นนี้มาพร้อมกับ ไฟหน้าแบบ LED High Performance มีระบบปรับไฟสูงแบบอัตโนมัติ มีไฟ Daytime Running Light แบบ LED และมีไฟท้ายแบบ LED อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ มีกระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว มีกระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า มีกระจกมองข้าง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ และมีกระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ กุญแจที่เป็นแบบรีโมทคอนโทรล มีเสียงเครื่องยนต์ที่เป็นแบบสปอร์ต มีกันชนหน้า – หลัง แบบ AMG Bodystyling มีกระจังหน้า Diamond Grille สีเงิน พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz อีกทั้งปลายท่อไอเสียคู่ จะเป็นแบบโครเมียม ล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ยาง Runflat มีขนาด 225/45 R18 มีสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า มีช่วงล่างแบบ Lowered Comfort Suspension รวมถึงยังมีด้านหน้าแบบ McPherson Strut และด้านหลังแบบ Torsion Beam

การดีไซน์ภายในนั้นมาพร้อมกับฟังก์ชัน ECO Start / Stop มีระบบโหมดการขับขี่แบบ DYNAMIC SELECT ในส่วนของการดีไซน์ภายในส่วนอื่น ๆ ได้มีการตกแต่งแบบ AMG Interior Package ที่เบาะนั่งคู่หน้า แบบ Sport Seats มีเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO สลับ DYNAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยตะเข็บด้ายสีแดง ที่สามารถปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งด้านหลัง สามารถที่จะแยกพับได้แบบอิสระ อีกทั้งยังมีที่วางแขนที่เบาะนั่งด้านหลังด้วย

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในส่วนของพวงมาลัย Multi-function ยังเป็นแบบ Sport Steering Wheel โดยพวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง Nappa มีแป้นคันเร่ง และ เบรก แบบสปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น มีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ THERMOTRONIC แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone อีกทั้งยังมีช่องแอร์แบบ Turbine Airvents พร้อมไฟเรืองแสง มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มีไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light ที่สามารถทำการปรับได้ถึง 64 สี มีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ มีมาตรวัดแบบ Full Digital ขนาด 10.25 นิ้ว รวมถึงยังมีกล่องเก็บสัมภาระใต้เบาะนั่งคู่หน้า และพรมปูพื้น พร้อมสัญลักษณ์ AMG มาให้

รุ่น และสีของรถ Mercedes-Benz amg a200 ที่มีวางจำหน่าย

• Mercedes Benz A200 AMG Dynamic รุ่นที่มีการประกอบในต่างประเทศ มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 49 ล้านบาท
• Mercedes Benz A200 AMG Dynamic รุ่นที่มีการประกอบในต่างประเทศ มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 15 ล้านบาท
• Mercedes Benz A200 Progressive รุ่นที่มีการประกอบในต่างประเทศ มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 99 ล้านบาท

สีของรถรุ่น Mercedes-Benz amg a200 มีวางจำหน่ายด้วยกัน 6 สี คือ

• สีขาว (Polar White)
• สีขาวเซรามิก (Digital White)
• สีแดง (Jupiter Red)
• สีดำ (Cosmos Black)
• สีเงิน (Iridium Silver)
• สีเทา (Mountain Grey)

จากทั้งหมดที่ได้กล่าวไปนั้น ก็เป็นรายละเอียดบางส่วนที่สำคัญของรถ Mercedes-Benz amg a200 ที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดหรู สปอร์ต และยังอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยมากมาย ที่สำคัญแม้ว่าจะเป็นรถรุ่นที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพในการใช้งานนั้นไม่ได้น้อยตามไปเลย สิ่งนี้เองจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เบนซ์รุ่นนี้มีกระแสมาแรง และกำลังได้รับความนิยมมากในขณะนี้ หากว่าใครสนใจอยากที่จะทดลองขับ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปได้ที่โชว์รูม และตัวแทนจำหน่ายเบนซ์ทั่วประเทศเลย

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th