ทำไม Nissan ถึงมั่นใจใน All-new Terra?
เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Nissan เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางรุ่นล่าสุด All-new Terra ในประเทศไทย ท่ามกลางคำถามถึงการที่พวกเขาตัดสินใจเข้าสู่เซกเม้นต์นี้ในช่วงเวลาที่คู่แข่งรายอื่นๆ กอบโกยความสำเร็จมายาวนานหลายปี และอะไรคือเหตุผลที่ผู้บริหาร Nissan มั่นใจว่ารถรุ่นนี้จะประสบความสำเร็จในบ้านเรา?
ราว 1 เดือนหลังจาก All-new Terra เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่งานออโต้ ไชน่า 2018 Nissan เริ่มต้นโปรโมตเอสยูวีรุ่นใหม่สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญของพวกเขา โดยเลือกเมืองคล้าร์ก ซิตี้ ของประเทศฟิลิปปินส์ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาไฟเป็นสถานที่จัดงาน
Test Drive: ครั้งแรกในเมืองไทยกับการขับทดสอบ All-new Nissan Terra
Test Drive: อาเซียนพรีเมียร์ ทดสอบ Nissan Terra ขับลุยโคลนภูเขาไฟพินาตูโบ
หลังจากโชว์สมรรถนะ และแนะนำข้อมูล All-new Nissan Terra ที่จะขายในประเทศฟิลิปปินส์ สื่อมวลชนไทยมีโอกาสพูดคุยกับ Ashwani Gupta รองประธานอาวุโส Nissan กลุ่มธุรกิจโครงสร้างรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก โดยผู้เขียนมีโอกาสยิงคำถามถึงความมั่นใจของเขาว่าเอสยูวีรุ่นนี้ ไม่ได้มาช้าเกินไปสำหรับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางของบ้านเรา
“เราใช้เวลาเตรียมความพร้อมอย่างดีที่สุด ก่อนจะเปิดตัวโมเดลนี้ ไม่มีความซับซ้อนอะไร เราเคยทำได้สำเร็จกับรถกระบะ Navara ซึ่งต้องขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างมากกับโมเดลนี้” Gupta ยืนยันชัดเจน “ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะเข้าสู่ตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง โดยเราให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียดตามความต้องการของลูกค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราทุ่มเทอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า Terra ที่ขายในประเทศจีน เป็นรถยนต์ 5 ที่นั่ง แต่สำหรับฟิลิปปินส์ จะเป็นแบบ 7 ที่นั่ง เช่นเดียวกับการเปิดตัวขายในประเทศอื่นๆ จะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานให้เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละประเทศ”
Gupta พูดถึงจุดเริ่มต้นรถรุ่นนี้ว่า “All-new Terra พัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จของรถยนต์อเนกประสงค์ของ Nissan ที่ยาวนานกว่า 60 ปี เช่น Nissan Patrol ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด Nissan Terra มีความแข็งแกร่งรองรับทุกภารกิจการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมั่นใจ ขณะเดียวกันยังช่วยให้ลูกค้าของเรา สามารถปลดปล่อยความจำเจ และออกผจญภัยได้อย่างเต็มที่”
นอกจากนี้ Gupta พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มตัวเลือกเป็นรุ่นไฮบริดหรือปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในตลาดอาเซียน ตามนโยบายระดับโลกของ Nissan ในการก้าวสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าว่า “ไม่มีอะไรที่ Nissan ทำไม่ได้ เพราะเรามีความพร้อมในเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเช่นกัน รวมถึงความเหมาะสม และสิ่งสำคัญที่สุดคือราคาที่ลูกค้าต้องจ่าย”
“ในตอนนี้เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างตัวถังของรถรุ่นนี้คือการเป็นรถยนต์เพื่อการเดินทาง การเพิ่มเทคโนโลยีให้กับรถยนต์ที่พัฒนาจากโครงสร้างตัวถังนี้, การใช้งาน หรือความสามารถในการรองรับน้ำหนักบรรทุก ถ้าจะพูดให้ชัดเจนเรายังไม่มีแผนจะเพิ่มตัวเลือกเครื่องยนต์ไฮบริดกับเอสยูวีรุ่นนี้” ผู้บริหารระดับสูงของ Nissan ให้ข้อมูล
หลังจากนั้นผู้เขียน และสื่อมวลชนไทย ถูกย้ายไปสู่อีกห้องเพื่อสัมภาษณ์ Vincent Wijnen ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาดของ Nissan ประจำภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย ชายผู้ที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดว่า All-new Terra แตกต่างจากรถเอสยูวีของคู่แข่งแบรนด์อื่นที่มีอยู่ในประเทศไทยอย่างไร?
“ผมเชื่อมั่นว่าเรามีการกำหนด Terra ให้อยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับประเทศไทย เราค่อนข้างมีความได้เปรียบ ด้วยการเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว ความกว้างของห้องโดยสารที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง และการออกแบบเพื่อให้เสียงจากภายนอกเข้าสู่ห้องโดยสารน้อยที่สุด ที่สำคัญคือสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในการขับขี่ทั้งเส้นทางปกติหรือแบบออฟโรด เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยต่างๆ ทำให้จุดเด่นของ Terra คือการผสมผสานที่ลงตัวจาก Nissan”
Wijnen ขยายความเพิ่มเติมถึงเอสยูวีรุ่นใหม่ของพวกเขาว่า “All-new Terra เป็นความชาญฉลาดในการออกแบบรถยนต์เอนกประสงค์ให้มีสมรรถนะสูง มีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางไม่เป็นรองใคร เทคโนโลยีอัจฉริยะภายใต้แนวคิด Nissan Intelligent Mobility ทำให้ครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกันได้อย่างมั่นใจ”
แต่ตอนนี้อาจจะยังเร็วไปที่จะตัดสินว่า All-new Nissan Terra ประสบความสำเร็จในประเทศไทยหรือไม่ ด้วยระยะเวลาเปิดตัวที่เพิ่งผ่านพ้นมาเพียงแค่ 2 เดือนเศษๆ แต่ด้วยความมั่นใจของ 2 ผู้บริหารสำคัญ การต่อสู้ครั้งนี้คงต้องดูกันไปยาวๆ
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Nissan Motor
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th