นิสสัน ประเทศไทย มั่นใจก้าวตามวิสัยทัศน์ “M.O.V.E 2022”-ย้ำรถไฟฟ้าลีฟ ขายแน่ไม่เกินต้นปีหน้า
นิสสัน ตอกย้ำความเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับแผนระยะกลางระดับโลกของบริษัท “M.O.V.E 2022” มุ่งเน้นการรุกทำตลาด และพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำกำหนดขายรถยนต์ไฟฟ้า ลีฟ ในบ้านเราไม่เกินต้นปีหน้าแน่นอน
ในงานแถลงข่าวแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจระยะ 5 ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา อันตวน บาร์เตส ประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “เมื่อปีที่ผ่านมา นิสสัน เป็นแบรนด์ยานยนต์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทย มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 6.9 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสิ้นปีงบประมาณ (1 เมษายน 2560-31 มีนาคม 2561) และเรามีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปนับตั้งแต่วันนี้จนถึงปีพ.ศ. 2565”
วิสัยทัศน์ของนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จะสอดคล้องกับแผนระยะกลางระดับโลกของนิสสัน “M.O.V.E 2022” ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2560 ภายใต้แผนงานเพื่อการเติบโตนี้ นิสสัน คาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ปรับปรุงอันดับของนิสสัน ในด้านความพึงพอใจของลูกค้า และทำให้การผนึกกำลังพันธมิตรเกิดประโยชน์สูงสุด
บาร์เตส อฺธิบายเพิ่มเติมว่านิสสัน พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ลูกค้าเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การทำตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจนถึงการลงทุนพัฒนาผู้จำหน่าย ประเทศไทยยังมีความสำคัญมากขึ้นในฐานะที่เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสู่การเติบโตในระดับโลก พร้อมเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาค และเป็นสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของนิสสัน ซึ่งทั้งหมดช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัท
ประธานของนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ยังกล่าวเสริมว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการลงทุนมากกว่า 4.4 พันล้านบาท และส่งออกรถยนต์มากกว่า 880,000 คัน สู่กว่า 114 ประเทศในช่วง 10 ปีหลัง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพของการผลิตรถยนต์ของนิสสัน และแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่มั่นคงสำหรับอนาคต
“นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย มีแผนงานที่แข็งแกร่ง และวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต โดยวิสัยทัศน์ระยะ 5 ปีของเราสอดคล้องเป็นอย่างดีกับแผนงานของนิสสัน ในระดับโลก M.O.V.E 2022 ซึ่งให้ความสำคัญกับนวัตกรรมยานยนต์ (Mobility), ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน (Operational Excellence), การให้ความสำคัญกับลูกค้า (Value to Customers) และระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (Electrification)” บาร์เตส กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
นอกจากนี้นิสสัน ได้เปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น นิสสัน นาวารา ปี 2018 ซึ่งเป็นรถกระบะรุ่นเดียวในประเทศไทยที่มาพร้อมกล้องมองรอบทิศทาง (Around View Monitor) และจีที-อาร์ รถซูเปอร์สปอร์ตของนิสสัน พร้อมกับเตรียมเดินหน้าผนึกกำลังกับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในด้านการจัดซื้อ การขนส่ง และการบริการด้านอื่นๆ
แผนงานดังกล่าวยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมอบการบริการที่เหนือกว่าความคาดหมายของลูกค้าด้วยการลงทุนพัฒนา และปรับปรุงผู้จำหน่าย รวมถึงโชว์รูม Nissan Retail Environmental Design Initiative (NREDI) เพื่อมอบการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และเดินหน้าตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการแนะนำนิสสัน ลีฟ ภายในปีงบประมาณนี้ (1 เมษายน 2561 – 31 มีนาคม 2562)
“สำหรับการดำเนินงานในอนาคต นิสสัน คาดการณ์ว่าด้วยสภาพตลาดปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมจะมีความมั่นคง และมีอัตราเติบโตสูงขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ในปีงบประมาณ 2561 เราคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 950,000 คัน ด้วยแนวโน้มด้านบวกเช่นนี้ ผมมั่นใจว่ายอดขาย ส่วนแบ่งตลาด และจำนวนการผลิตจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” บาร์เตส แสดงความเห็นทิ้งท้าย
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th