นิสสัน พาเรียนรู้ “ความพอเพียง” ที่พัฒนาการศึกษาเด็กไทย
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสานต่อปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับเรื่องการเรียนรู้แบบบูรณาการและการเปิดประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนให้แก่นักเรียน โรงเรียนนครวิทยาคม จังหวัดเชียงราย
สำหรับการเดินทางครั้งใหม่นี้ เป็นโครงการที่นิสสันเริ่มทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา มาถึงโครงการล่าสุด “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ทั้งยังอยู่ในช่วงเวลา “วันเด็กแห่งชาติ” อีกด้วย ทางทีมงานนิสสันจึงได้พาสื่อมวลชนร่วมถ่ายทอดความรู้ในการสร้างสรรค์บทความ และงานด้านการสื่อสารออนไลน์ ไปพร้อมกับบุคคลต้นแบบ คุณครูมะนาว หรือ นายศุภวัจน์ พรมตัน เพื่อเป็นการสนับสนุนการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับเยาวชนไทย และยังได้เรียนรู้ผ่านคนทำงานตัวจริงอีกด้วย
คุณครูมะนาว หรือ นายศุภวัจน์ พรมตัน บุคคลต้นแบบคนนี้ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านครุศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครูมะนาวได้กลับมาทำหน้าที่แม่พิมพ์ของชาติ ด้วยการเป็น “คุณครู” เพื่อถ่ายทอดความรู้สู่เยาวชนที่บ้านเกิด ณ จังหวัดเชียงราย ด้วยแนวคิดที่อยากส่งเสริมให้เด็กรักการอ่าน และเข้าห้องสมุดกันเพิ่มมากขึ้น จึงได้คัดเลือกกิจกรรมที่มีชื่อว่า “เชิญมาปลุกวิญญาณ” (The Soundtrack of Book หรือ เพลงรักประกอบหนังสือ) และ “The Voice Reading หรือ อ่านจริง ไรจริง” ขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง
โดยการสอนของครูมะนาว ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นครูผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาปรับใช้ทั้งในการทำงาน และดำเนินชีวิต ให้แก่นักเรียนกว่า 220 คน ที่โรงเรียนนครวิทยาคม จ.เชียงราย
พี่ๆ นักข่าวต้องรับบทเป็นคุณครูให้ความรู้กับน้องๆ อย่างตั้งใจจริงๆ
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ครูมะนาวได้เปิดห้องเรียนต้อนรับสื่อมวลชนเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร ให้เป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำและสอนน้องในการผลิตชิ้นงานข่าวในโลกออนไลน์ที่ปัจจุบันกำลังมีบทบาทอย่างสูง ด้วยโจทย์ที่สื่อถึงการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือ สิ่งที่น่าสนใจภายในชุมชน อำเภอพาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนั่นเอง
หาข้อมูล..คิด..วางแผน..ลงมือทำ คือ การฝึกเรียนรู้ที่ทำให้น้องๆ มีความคิดสร้างสรรค์และมีกระตือรือร้นในการเรียน
ครูมะนาว มีความคิดว่า “ในยุคดิจิตอลที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สังคมไทยกำลังก้าวไปสู่สังคมแห่งภูมิปัญญา ซึ่งเทคโนโลยีการเรียนรู้จะช่วยปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของเด็กในศตวรรษที่ 21 ดังนั้นจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกดิจิตอลมากขึ้น นอกจากนี้ เชื่อว่าการช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทั้งผู้ปกครอง พี่น้องในครอบครัวจะมีส่วนร่วมในการผลักดันการศึกษาให้กับเยาวชนอีกทางหนึ่งด้วย และอีกสิ่งหนึ่งที่ยึดถือมาโดยตลอดคือการที่ได้ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 กับการเป็น “ผู้สร้างความรู้”มากกว่าจะเป็นเพียงผู้ใช้ความรู้จากในตำราเพียงอย่างเดียว การเรียนรู้วิชาจากหลายแขนงที่ทันสมัย แต่ยังคงอยู่กับปัจจุบันได้อย่างลงตัวจึงถือว่าเป็น “การศึกษาที่แท้จริง”
และเพื่อให้การเรียนรู้นอกห้องเรียนในครั้งนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น น้องๆ จากโรงเรียนนครวิทยาคม ได้เดินทางสำรวจไปกับรถยนต์ นิสสัน เอ็กซ์เทรล รุ่นเครื่องยนต์ทั่วไป และ เครื่องยนต์แบบไฮบริด รวมถึงกระบะ นาวารา ปี 2018 ใหม่ เพื่อไปปฎิบัติภารกิจที่ได้รับมอบให้สำเร็จ น้องๆ นักเรียนเมื่อได้นั่งรถออกไปปฎิบัติภารกิจ ต่างคนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นั่งอยู่ใน นิสสัน เอ็กซ์เทรลและนาวารา เพราะนี่เป็นครั้งแรก แถมระบบต่างๆ ในตัวรถที่ติดตั้งมาสร้างความสนใจให้กับน้องๆ นักเรียนได้อย่างมากมาย
เท่านั้นยังไม่พอ ทาง GoPro ยังให้น้องๆ ได้นำกล้อง GoPro ให้ลองใช้งานและถ่ายทำคลิปวีดีโอมาตัดต่ออย่างง่ายๆ เพื่อนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความพอเพียงมาให้เพื่อนๆ และพี่ๆ ผู้สื่อข่าวได้ชมกันอีกด้วย ซึ่งกล้องแอคชั่นคาเมร่าอย่าง GoPro มีมุมมองที่กว้าง ทำให้น้องๆ ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ในการบันทึกภาพที่แปลกตาและเสริมจินตนาการมากยิ่งขึ้น และน้องๆ ที่นำเสนอผลงานได้ดีที่สุดยังได้กล้อง GoPro รุ่น HERO 5 Session เป็นรางวัลพิเศษอีกด้วย
ทางด้าน นายอัครพล แก้วพินิจ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการผลิต บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ แสดงความรู้สึกว่า “วันเด็กแห่งชาติในปีนี้เป็นวันที่พิเศษสำหรับนิสสัน ที่ไม่เพียงให้ความรู้ที่สนุกแก่เด็กๆ ที่โรงเรียนนครวิทยาคมเท่านั้น แต่ยังไปจัดกิจกรรมวันเด็กให้แก่ชุมชนในบริเวณโรงงานนิสสันที่บางนาอีกด้วย เพราะว่านิสสันไม่เพียงแค่มีความมุ่งมั่นที่จะนำผลิตภัณฑ์ที่เต็มพร้อมไปด้วยความอัจฉริยะเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่บริษัทฯ ยังคงสานต่อความคิดและวิสัยทัศน์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับความสำคัญของการศึกษาของเยาวชนพวกเขาคิด ปฏิบัติ และกล้าแสดงออก ทำให้มั่นใจว่ารอยยิ้มสดใสมาจากการเรียนรู้แบบที่ไม่สิ้นสุด จะช่วยเพิ่มพูนทักษะการศึกษาของเยาวชนไทยซึ่งสอดคล้องกับคำขวัญวันเด็ก ในปีนี้ที่ว่า “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี”
นอกจากนี้ ด้านการส่งเสริมหรือให้ความรู้แก่พนักงานทางนิสสันได้มีโครงการแลกเปลียนพนักงานเพื่อไปศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการปฏิบัติงานที่ฐานการผลิตที่ทันสมัยของนิสสันในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวางและได้ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพื่อมาปรับใช้ในการทำงานอีกด้วยเช่นกัน เพราะการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด”
เด็กๆ ได้เรียนรู้ พี่ๆ นักข่าวก็ได้เรียนรู้เช่นเดียวกัน แต่เป็นการเรียนรู้จากการได้ทดลองขับรถยนต์ที่ติดตั้งเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิ-เจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) ไว้ใน นิสสัน นาวารา ปี 2018 ใหม่ ที่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่างกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor หรือ AVM) ที่ช่วยให้ทัศนะวิสัยของผู้ขับขี่ดีขึ้น สามารถมองเห็นภาพรอบตัวรถและมีถุงลมนิรภัย 7 จุด ที่มีความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่มากขึ้น ซึ่งกระบะนิสสัน นาวารา แรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า และมีระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเต็มรูปแบบ ห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบายเหมือนกับรถเอสยูวี และมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยในรถหรือ Intelligent Safety Shield ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป (LSD) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเอาไว้อีกด้วย
ส่วน นิสสัน เอ็กซ์เทรล รถเอสยูวีที่หน้าตาพร้อมเป็นมิตรกับทุกคนมาพร้อมกับเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบหลักๆ คือเครื่องยนต์เบนซินที่มีรุ่นย่อยให้เลือกขนาดความจุ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์แบบไฮบริดขนาด 2.0 ลิตรที่มาพร้อมระบบเพียวไดร์ฟไฮบริด (Pure Drive Hybrid) และคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligent Dual Clutch Control) ที่ทำให้มีพละกำลังและอัตราเร่งเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรแต่ให้อัตราการประหยัดน้ำมันน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบเดียวกันกว่า 20% และมาพร้อมกับเกียร์ X-TRONIC CVT พร้อม ระบบ manual mode 7 สปีด เสริมความมั่นใจด้วยระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake) และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control) ที่ถือเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ที่มีเพียงเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น รวมถึงติดตั้งกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่บริเวณพื้นที่คับแคบเพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพเส้นทางซึ่งมีส่วนทำให้กิจกรรมในครั้งนี้สะดวกและราบรื่นขึ้นเป็นอย่างมาก
สำหรับ โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่เพียงพอ” เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาและจะจบโครงการที่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2561 เพื่อสืบสานพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปทั่วประเทศ
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th