นิสสัน ลีฟ ใหม่ ขับทัวร์ทั่วกรุงด้วยการชาร์จแบตเพียงครั้งเดียว
นิสสัน จัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ “นิสสัน ลีฟ ใหม่” แบบขับทั่วกรุงเทพฯ ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว และให้ขับเต็มที่ในหนึ่งวันพิสูจน์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างความเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบรถไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อระบบนิเวศ รวมทั้งพิสูจน์ว่าการชาร์จไฟเพียง 1 ครั้งสามารถขับใช้งานจริงได้ไกลขนาดไหน
นิสสัน ในประเทศไทย จัดการทดสอบสมรรถนะ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ด้วยการขับขี่ในสภาพการจราจรที่แตกต่างกันครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลตลอดทั้งวัน ด้วยการชาร์จไฟเต็มเพียงครั้งเดียว โดยเชิญสื่อมวลชนจำนวน 100 คน ร่วมกิจกรรมทดสอบขับขี่ที่จัดขึ้นเป็นระยะเวลาห้าวันนี้ พร้อมปฏิวัติประสบการณ์ใหม่ของเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้โซนกิจกรรม ‘rEVolution education’ ครั้งแรกในประเทศไทย
[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text
และยังเป็นการพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมพัฒนาระบบนิเวศของการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมทดสอบ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ไอคอนของแนวคิด นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี และคงสถิติรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยยอดขายที่มากกว่า 410,000 คัน
กิจกรรมทดสอบนี้จัดขึ้น ณ จีแลนด์ พระราม 9 นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการออกแบบของนิสสัน ลีฟ ใหม่ ระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้า และรูปแบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 แบบ โดยในงานจัดสรรพื้นที่เป็น 4 โซน ประกอบด้วย นิสสัน ลีฟ Simply Amazing นิสสัน อิเล็คทริค คาเฟ่ บูธถ่ายภาพ นิสสัน อิเล็คทริค และสถานีชาร์จนิสสัน ลีฟ
การทดสอบขับ นิสสัน ลีฟ ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของโลก ที่ชาร์จที่บ้านเพียงครั้งเดียวก็สามารถขับขี่ในสภาพการจราจรของกรุงเทพฯ ตลอดทั้งวัน หรือขับไปเที่ยวที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้อย่างสบายใจ และไม่ก่อมลพิษใดๆ สู่สิ่งแวดล้อมอีกด้วย
กิจกรรมนี้เป็นการทดสอบขับขี่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ของนิสสัน ลีฟ ใหม่ ภายใต้แนวคิด “เรียบง่ายอย่างอัศจรรย์ หรือ Simply Amazing” โดยมีธีมงานที่ชื่อว่า ‘rEVolution’ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เริ่มจากการทดสอบสมรรถะอย่างเต็มรูปแบบบนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่การทดสอบตามสภาพการจราจรจริงของกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางสู่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งตลอดการทดสอบทั้ง 2 ส่วน ทำให้ได้มีโอกาสทดลองใช้เทคโนโลยีต่างๆ ของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ที่มีอยู่ใน ลีฟ ใหม่ อย่างเต็มที่
การทดสอบสมรรถนะของอัตราเร่ง และแรงบิดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ความสามารถของเทคโนโลยี e-Pedal ที่สามารถใช้ควบคุมความเร็วรถทั้งการเร่ง และเบรกด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว ในสถานีการขับขี่แบบสลาลม ความเงียบภายในห้องโดยสารตลอดการเดินทาง รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน
เทคโนโลยี e-Pedal นับว่าเป็นการปฏิวัติการขับขี่ โดยเปลี่ยนวิธีการขับขี่ด้วยการเร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว และหยุดรถด้วยการใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยเมื่อปล่อยคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วโดยอัตโนมัติจนถึงหยุดนิ่งได้โดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะจอดรถค้างบนเนิน ก็ไม่จำเป็นต้องเหยียบแป้นเบรก ด้วยอัตราการชะลอความเร็วที่สูงถึงกว่า 0.2G โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องขยับเท้าออกจากคันเร่งไปยังแป้นเบรกเพื่อชะลอหรือหยุด ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเหนื่อยล้า และความเครียดจากการขับขี่ในแต่ละวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้แป้นเบรกน้อยกว่าการขับขี่รถยนต์ทั่วไปถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ขนาดความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) มีกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 110 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 311 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle)
เส้นทางการทดสอบทั้งหมดมีระยะทางรวมกว่า 140 กิโลเมตร ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถรับรู้ถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการขับขี่ของแต่คนในเทคนิคการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี e-Pedal และการจัดการพลังงานแบตเตอรี่ สร้างความมั่นใจในการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน
สำหรับ ลีฟ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัย และลดความเครียดจากการขับขี่ ได้แก่ เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Alert Assist)
บทสรุปของการใช้งานใน 1 วัน ปรากฎว่า รถคันที่ได้ทดสอบมีแบตเตอรี่เหลืออยู่ 81% หน้าจอแจ้งระยะทางเอาไว้ที่ 260 กิโลเมตร หลังจากขับผ่านเส้นทางที่รถติดแบบสาหัสบนถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้วไปยังชิดลมเพื่อไปแวะหน้าลาน Hard Rock Cafe สยามสแควร์ แล้วไปทำภารกิจต่อที่ warehouse30 ถนนเจริญกรุง ต่อด้วยขับออกนอกเมืองไปยังร้านกาแฟ RIVA Floating Cafe นครชัยศรี ปิดท้ายด้วยช่างชุ่ย แถมขากลับยังเจอฝนตกหนักกระหน่ำตลอดทาง ฝ่าการจราจรที่ติดขัดในช่วงเวลา 6 โมงเย็นของวันศุกร์อีกต่างหาก รวมระยะทางที่ขับไปทั้งหมด 105 กิโลเมตร (เหลือแบตเตอรี่อีก 35% และสามารถขับได้ต่ออีก 94 กิโลเมตร โดยมีอัตราสิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้าอยู่ราว 5 กิโลเมตร ต่อ 1 กิโลวัตต์ ถ้าคิดเป็นค่าใช้จ่ายจะประมาณ 50 สตางค์ต่อ 1 กิโลเมตร เท่านั้น
ส่วนการใช้งานที่ถูกต้อง อยากแนะนำนำว่ารถไฟฟ้าทุกแบรนด์ที่จำหน่ายอยู่ในทุกวันนี้จะมีวิธีใช้งานที่เหมือนกันคือ อยู่ที่การวางแผนการเดินทางใน 1 วัน หากรถทำระยะทางได้ 300 กิโลเมตร นั่นมากพอที่จะขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้อยู่แล้ว และขับกลับมาชาร์จไฟที่บ้าน ตื่นเช้ามาก็ขับออกไปใช้งานต่อ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปหาจุดชาร์จไฟที่ไหนเลย แต่หากจะต้องเดินทางมากกว่าระยะที่มีอยู่ ผู้ขับจำเป็นต้องศึกษาเส้นทางและสำรวจว่าเส้นทางที่จะเดินทางไปนั้นมีจุดชาร์จไฟตรงไหนบ้าง แล้วจึงแวะพักชาร์จไฟและเป็นการพักผ่อนผู้ขับไปในตัว ซึ่งการชาร์จแบบ quick charge จากระดับแจ้งเตือนถึง 80% จะใช้เวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น ก็จะสามารถขับต่อไปได้อีกเป็นร้อยกิโลเมตร…ถือว่าเป็นความรู้ก็แล้วกัน ส่วนใครจะรักจะชอบใช้รถไฟฟ้าขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมในการใช้งาน สะดวกแบบไหนซื้อแบบนี้แล้วกันนะ
ทั้งนี้ ลูกค้าผู้เป็นเจ้าของ นิสสัน ลีฟ ใหม่ จะได้รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร โดยในปัจจุบันมีศูนย์บริการของผู้จำหน่ายฯ ของนิสสัน ที่ผ่านการรับรองจำนวน 32 แห่งทั่วประเทศที่สามารถนำเสนอข้อมูลของนิสสัน ลีฟ ใหม่ รวมถึงความพร้อมบริการหลังการขาย โดยช่างเทคนิคที่มีความชำนาญการ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิสสัน ลีฟ ใหม่ สามารถเยี่ยมชมได้ที่โชว์รูมของผู้จำหน่ายฯ ที่ได้รับการรับรองทั่วประเทศหรือติดต่อศูนย์คอลเซ็นเตอร์ของนิสสันได้ที่หมายเลข 02-401-9600 หรือ เว็บไซด์ของ Nissan’s LEAF page
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]