ติดตามการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงด้วยแอปฯ Moverity
การใช้พลังงานในประเทศไทยกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกครั้งหลังการผ่อนคลายมาตรการสำหรับ COVID-19 เนื่องจากอุตสาหกรรมเริ่มกลับมาทำงานอย่างเต็มที่ รถก็กลับมาติดเหมือนเดิม เป็นจังหวะพอดีที่ขณะนี้แพลตฟอร์ม Moverity ซึ่งสร้างเพื่อเก็บข้อมูลเป็นฐานสำหรับการหาอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มาจากการขับจริงบนท้องถนน (Real-world fuel economy) สามารถเริ่มใช้งานได้แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้รถมีข้อมูลเพื่อการประหยัดน้ำมันและประหยัดเงินในกระเป๋า
ในต่างประเทศ การเก็บข้อมูลการใช้น้ำมันจากผู้ขับรถกำลังเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือ อเมริกา ซึ่งประเทศเหล่านั้นนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการออกแบบนโยบายการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ และเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการเลือกซื้อรถยนต์
Moverity คืออะไร?
Moverity คือ แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชั่น และเว็บไซต์ในการบันทึกข้อมูลการใช้น้ำมันของรถยนต์เพื่อให้ผู้ขับรถสามารถทราบประสิทธิภาพการใช้น้ำมันของรถตนเอง และสามารถเปรียบเทียบได้ว่ารถของตนเองมีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันอย่างไรเมื่อเทียบกับรถคันอื่นๆในระบบ พร้อมทั้งเสนอเคล็ดลับในการประหยัดน้ำมันเพื่อให้ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิงได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยการกรอกข้อมูลนั้นง่าย ทำได้หลายช่องทางตามความสะดวก
Moverity ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Application แต่เป็น Car database ของประเทศไทย
จากการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ส่งผลให้จำนวนของยานพาหนะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ปี 2562 มีจำนวนยานพาหนะที่จดทะเบียนสะสม รวม 39.3 ล้านคัน หรือคิดเป็นอัตราการครอบครองยานพาหนะประมาณ 592 คันต่อประชากร 1000 คน โดยมีจำนวนยานพาหนะเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านคันต่อปี เนื่องจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน คาดการณ์ว่า ในปี 2573 ภาคขนส่งจะมีสัดส่วนการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายสูงถึง 31% เป็นอันดับสองรองจากภาคอุตสาหกรรม
กระทรวงพลังงานจึงให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานของภาคขนส่งและได้กำหนดมาตรการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน 2558 – 2579 ตามกรอบการใช้พลังงานของประเทศในระยะยาว ตัวอย่างเช่น มาตรการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต มาตรการติดฉลากประหยัดพลังงานในยางรถยนต์ มาตรการการขับประหยัดพลังงาน เป็นต้น การดำเนินมาตรการต่างๆ เหล่านี้จำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลกิจกรรมของภาคขนส่งอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถประเมินนโยบายอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่งที่สะท้อนมาจากการใช้งานจริงได้ นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคขนส่ง โดยมีข้อมูลที่จำเป็นต้องเก็บรวบรวม เช่น ระยะการเดินทาง และข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามประเภทของยานพาหนะ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้มาจากการทดสอบที่ควบคุมปัจจัยต่างๆ ในห้องปฏิบัติการทำให้ได้ค่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่รายงานต่ำกว่าการใช้งานจริง ซึ่งจะต่างจากการเก็บข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มาจากการขับจริงบนท้องถนน (Real-world fuel economy) Moverity จึงเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยอุดช่องว่างของการเก็บข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะ โดยการสร้างฐานข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่โปร่งใสจากการเก็บข้อมูลการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มาจากการขับจริงบนท้องถนน เพื่อให้ผู้ใช้รถและภาครัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบออนไลน์และนำไปใช้ประโยชน์ได้ นอกจากนั้น Moverity ยังสามารถให้ข้อมูลการขับประหยัดพลังงาน (Eco-driving) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th