น้ำมันเบรกเสื่อมได้อย่างไร ในเมื่อยังใสอยู่
ถ้าคุณตรวจเช็คปริมาณ น้ำมันเบรก ที่อยู่ในตัววัดระดับแล้วเห็นว่ายังมีความใสอยู่ อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นนะเพราะรถบางคันใช้มานานน้ำมันเบรกยังใสอยู่เลย แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำมันเบรกมีอายุการใช้งาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถครั้งนี้เราจะมาแนะนำเรื่องการเสื่อมของน้ำมันเบรกจะได้ดูแลกันอย่างถูกวิธี
ปัจจัยที่ทำให้ “น้ำมันเบรก”เสื่อมสภาพ มีดังนี้
ความร้อน อันเนื่องมาจากการเบรกกะทันหัน หรือเบรกบ่อยๆ ภายใต้ความเร็วสูง จะส่งผลให้ “น้ำมันเบรก” ซึมซับความร้อนเอาไว้ หากระบายสู่ส่วนอื่นไม่ทันจนถึงจุดเดือดสูงสุด “น้ำมันเบรก” ก็จะระเหยกลายเป็นไอในกระบอกสูบเบรก ซึ่งในช่วงนี้จะทำให้ไม่มีแรงดันที่จะไปกระทำต่อลูกสูบเบรก ให้ไปดันผ้าเบรก ส่งผลให้เกิดอาการเบรกหาย-เบรกลึก-เบรกไม่อยู่ หรือที่เรียกว่า “เบรกแตก” ดังนั้นจุดเดือดของ “น้ำมันเบรก” จึงมีความสำคัญมาก ต่อประสิทธิภาพระบบเบรก
ความชื้น “น้ำมันเบรก” น้ำมันเบรกเป็นสารที่ดูดซับความชื้นจากอากาศได้ดี แถมยังสามารถผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้ และเมื่อความชื้นเข้ามาปะปนอยู่ใน “น้ำมันเบรก” ส่งผลให้มีจุดเดือดลดต่ำลง ยิ่งประเทศไทยจัดเป็นเขตที่มีความชื้นสูง จึงเป็นที่มาของการแนะนำให้เปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก” ทุก 1 ปี เพื่อไล่ความชื้นที่ผสมอยู่ในน้ำมันเบรก และยังเป็นการป้องกันการกัดกร่อนจากสนิม ที่เกิดจากความชื้นสะสมในกระบอกสูบเบรก ซึ่งเป็นต้นตอทำให้ลูกยางเบรกเป็นรอยและรั่วในที่สุด
ข้อแนะนำ
อย่าเติมน้ำมันเบรกคนละเกรดผสมกัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อ-เกรด ให้เปลี่ยนถ่ายของเก่าออกจากระบบให้หมดก่อน โดยทั่วไปผู้ผลิตรถยนต์จะกำหนดให้ใช้น้ำมันเบรก ”DOT” 3 หรือ ”DOT” 4 และ90% จะเติม ”DOT” 3มาจากโรงงาน แต่เมื่อเปลี่ยนถ่ายสามารถใช้ ”DOT” 4หรือ”DOT” 5 ซึ่งมีจุดเดือดสูงกว่าได้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ในระบบเบรก ควรเปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก” ทุก ๆ 1 ปี
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th