BMW เผยโฉม F 850 GS (Sport Edition) พร้อมราคาเร้าใจ 489,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กลับมาปลุกจิตวิญญาณการผจญภัยบทใหม่ที่มาพร้อมกับความท้าทายให้กับนักบิดชาวไทยอีกครั้ง เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานในตระกูล GS BMW เผยโฉม F 850 GS (Sport Edition) พร้อมราคาเร้าใจ 489,000 บาทBMW F 850 GS (Sport Edition) สานต่อเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตระกูล F-Series ที่พกพาทั้งสมรรถนะออนโรดและออฟโรดมาอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากจะให้กำลังและแรงบิดที่มากขึ้นแล้ว ยังนำเสนอคุณลักษณะที่โดดเด่นของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งพร้อมกับความสามารถในการขับขี่แบบวิบากที่เหนือชั้นอีกด้วย
รูปลักษณ์ที่ดุดันและเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ของ F 850 GS (Sport Edition) สะท้อนการออกแบบที่ให้ความรู้สึกของการผจญภัยที่สัมผัสได้ในทุกผิวสัมผัส ทุกมุมมอง และทุกเส้นสายของตัวรถ จากด้านท้ายจนถึงถังน้ำมัน ไปจนถึงไฟหน้าในแบบฉบับของ GS เน้นความโดดเด่นของระบบกันสะเทือนด้านหน้า องค์ประกอบการออกแบบตั้งแต่หน้าจรดท้าย เพิ่มความเท่และความเร้าใจให้กับทั้งการขับขี่บนถนนและเส้นทางออฟโรด
บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition)
ราคาจำหน่าย 489,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) ผสานเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งเข้ากับสมรรถนะออฟโรดเหนือชั้นไว้ได้อย่างลงตัว มาพร้อมพละกำลังของเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 853 ซีซี ทรงพลังด้วยกำลัง 70 กิโลวัตต์ (95 แรงม้า) ที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิด 92 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมไอเสียแบบ Closed-Loop ชนิด 3 ทาง Catalytic Converter
เฟรมโครงสร้างได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เสริมประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนด้วยโช้คหัวกลับและสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียม ให้การควบคุมการขับขี่ไม่เหมือนใครบนเส้นทางออฟโรด พร้อมโหมดการขับขี่มาตรฐาน ‘Rain’ และ ‘Road’ ให้ผู้ขับขี่ผจญภัยได้ในทุกสภาพถนน นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่ ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC), Keyless Ride และ ABS Pro
นอกจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) มาในสี Pollux Metallic Matte แบบ exclusive พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ว่าจะเป็น ท่อไอเสียแบบสปอร์ต HP Akrapovic แบบ Slip-On
สีดำ ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม มาพร้อมการ์ดกันความร้อนแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยให้เสียงท่อมีความหนักแน่นน่าประทับใจ และให้ความรู้สึกถึงการแข่งรถเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ส่งความแรงทั้งในด้านรูปลักษณ์ดีไซน์และเสียงอันเร้าใจ โดยท่อคุณภาพสูงแบบ Slip-On รุ่นนี้มีน้ำหนักเบาลงจากรุ่นเดิมถึง 2.3 กิโลกรัม ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ นอกจากจะช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น ยังเป็นการเพิ่มไดนามิกให้กับการขับขี่ นอกจากนั้น ชุดแครชบาร์สแตนเลสสตีล ช่วยป้องกันความชำรุดเสียหายที่อาจเกิดกับฝาครอบเครื่องยนต์หากรถล้ม นอกจากนั้น กระจกบังลมขนาดใหญ่ยังช่วยป้องกันลมและอากาศที่มาปะทะอย่างเหนือชั้นให้กับผู้ขับขี่ และเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางสไตล์ทัวริ่งอีกด้วย
กล่องสัมภาระแบบอะลูมิเนียมกันน้ำ มีความจุถึง 32 ลิตร และเบาะรองหลังที่เสริมเข้ามาบนกล่องท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการนั่งให้กับผู้โดยสารอีกด้วย ไฟเลี้ยว LED ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์ที่เพรียวบางและเทคโนโลยีไฟส่องสว่างที่ทันสมัย ไฟชุดดังกล่าวสามารถตอบสนองได้เร็วกว่าหลอดแบบไส้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบด้านความปลอดภัยที่เห็นได้อย่างชัดเจน
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th