ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายทันยังไม่รู้ว่า ประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะชั้น1 นั้นเรียกขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างรอซ่อมได้ ซึ่งขอนี้บริษัทประกันภัยหลายแห่งไม่ยอมแจ้งลูกค้าให้ชัดเจน เรียกว่ามึนๆเอาใครรู้เยอะก็จ่ายถ้าไม่รู้ประกันก็ได้ประโยชน์ในส่วนนี้ไปและผมเชื่อว่าหลายท่านคงไม่เคยขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเลยผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่เคยขอเลย คิดดูบริษัทประกันจะกำไรขนาดไหน

วันนี้เรามารู้จักค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกันดีกว่า

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคืออะไร ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเป็นส่วนหนึ่งของ ค่าสินไหนทดแทนที่บริษัทประกันภัยจะต้องเข้ามารับผิดชอบแทนผู้ขับขี่ กรณีรถคันเอาประกันภัยภาคสมัครใจเป็นฝ่ายผิด ถ้าถามว่าทำเฉพาะประกันภัย พ.ร.บ.จะเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ไหม บอกเลยว่าประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองคนไม่คุ้มครองทรัพย์สินดังนั้นจะเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถไม่ได้นะครับ

เรามารู้จักหลักเกณฑ์ที่ คปภ. กำหนดอัตราขั้นต่ำค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมีอะไรบ้าง

1. รถยนต์นั่งที่มีที่นั่งไม่เกิน 7คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะที่มีที่นั่งไม่เกิน 7คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
3. รถยนต์นั่งที่มีที่นั่งเกิน 7คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

หมายเหตุ รถประเภทอื่นๆที่ไม่ได้เป็นไปตามข้อ 1-3 เช่น รถจักรยานยนต์ ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้อง และการตกลงกันได้โดยพิจารณาหลักฐานเป็นกรณีไป

• ผู้ขับขี่รถคันเอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีสามารถเรียกร้องได้หรือไม่ บอกได้เลยครับว่าเรียกร้องไม่ได้นะครับเนื่องจาก กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ไม่คุ้มครองความเสียหายจากการใช้รถคันเอาประกันภัยฝ่ายผิด บริษัทประกันภัยรถฝ่ายผิดจะชดใช้ค่าขาดประโยชน์จากาการใช้รถให้แก่คู่กรณีฝ่ายถูกเท่านั้น
• ผู้เสียหายฝ่ายถูกที่สามารถเรียกร้องได้หมายถึงใครบ้าง ผู้ที่สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากาการใช้รถได้คือ เจ้าของรถยนต์คันที่ได้รับความเสียหาย

เอกสารที่ใช้ในการขอสินไหมค่าขาดประโยชน์

1. สำเนาใบเคลม
2. สำเนาใบรับรถ(จากอู่ที่ซ่อมรถ ซึ่งเขาจะต้องลงวันที่ว่ารับรถวันไหน)
3. สำเนาทะเบียนรถ (เพื่อเป็นการแสดงว่า ใครเป็นเจ้าของรถ ถ้ารถติดไฟแนนซ์ ต้องมีสำเนาสัญญาไฟแนนซ์ด้วย)
4. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
5. ใบมอบอำนาจ (ถ้าไม่ได้ไปเอง)
6. ใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ไม่มีรถใช้ เช่น ค่าเช่ารถ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร บอกว่าขึ้นแท็กซี่เอา
7. จดหมายขอค่าขาดประโยชน์

ตัวอย่างจดหมาย

วันที่  18 กันยายน 2558

เรื่อง ขอเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

เรียน  แผนกสินไหมทดแทน บริษัท XXXXX ประกันภัย จำกัด

เอกสารแนบ

1. สำเนาใบเคลม
2. สำเนาใบรับรถ
3. สำเนาทะเบียนรถ
4. สำเนาบัตรประชาชน

ข้าพเจ้า นาย xxxxx xxxxxxxx  เป็นเจ้าของรถยนต์ ยี่ห้อ XXX  รุ่น XXX หมายเลขทะเบียน xx- xxxx กทม. ถูกรถยี่ห้อXXXXX รุ่นXXXX ของ XXXXXXXX หมายทะเบียน XXX-XXX เลขกรรมธรรม์ 1234567890 ชนท้ายที่กลางซอยลาดพร้าว71 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้รถของข้าพเจ้ามีความเสียหายดังนี้

1. กันชนหลังบุบและฉีก
2. ฝาปิดท้ายบุบบี้
3. บังโคลนหลังซ้ายขวาบุบ
4. แผงท้ายบุบ
5. ไฟท้ายซ้ายขวาแตก
6. ไฟทับทิมซ้ายขวาแตก
7. ท่อไอเสียแตก

ข้าพเจ้าได้จึงได้นำรถยนต์เข้าซ่อมที่ อู่ของบริษัท XXXXX ออโต้ ซึ่งเป็นอู่ในเครือของ XXXX ประกันภัย ในวันที่ XX  เดือน 2561 ซ่อมเสร็จ วันที่ XX เดือน 2561 ใช้ระยะเวลาซ่อม 46 วัน

ข้าพเจ้าทำงานเป็นพนักงานของบริษัท xxxxxxxxxxxx จำกัด โดยปกติจะต้องใช้รถยนต์สำหรับติดต่อลูกค้าทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลทุกวัน ประมาณ 100-200  กม./วัน ในระหว่างที่นำรถเข้าซ่อมนั้น ข้าพเจ้าต้องใช้บริการรถแท็กซี่ในการเดินทางแทนและมีความไม่สะดวกในการเดินทางอย่างมาก ดังนั้นจึงขอเรียกสินไหมดังต่อไปนี้

1. ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ 1,000 บาทต่อวัน เป็นระยะเวลา 46 วัน รวม 46,000 บาท
2. ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุ 10,000 บาท

รวมทั้งสิ้น 56,000 บาท (ห้าหมื่นหกพันบาทถ้วน) ทั้งนี้ได้แนบตัวอย่างอัตราค่าเช่ารถโตโยต้าแคมรี่มาเพื่อประกอบการพิจารณา

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ขอแสดงความนับถือ

(นายxxxxxx xxxxxxxx)

อันนี้ในกรณีที่คุณทำประกันภัยในปี 2561 นะครับจะต้องเขียนจดหมายจดหมายขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถอาจจะยุ่งยากนิดหน่อยแต่ได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถแน่นอน แต่ถ้าคุณทำประกันภัยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไปทาง คปภ. จะเริ่มบังคับใช้อย่างจริงจังว่าจะต้องมีค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถหากบริษัทประกันภัยจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถน้อยกว่ามาตรฐานขั้นต่ำที่ คปภ. กำหนด อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหรทดแทน และเอกสารประกอบการเรียกร้องค่าเสียหายก็จะมีแค่

1. ใบนำรถยนต์เข้าจัดซ่อม/ใบรับรถยนต์
2. สำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์
3. หลักฐานเอกสารประกอบการใช้รถยนต์ในแต่ละวัน (ถ้ามี)
4. ใบเสร็จค่าเช่ารถยนต์ (ถ้ามี)
5. สำเนาบัตรประชาชน
6. ใบเคลม

ประกันภัยรถยนต์

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

ภาพ : www.companycartoday.co.uk

ข้อมูลจดหมาย : Phongsatron Peenakasa

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th