ปีใหม่นี้ เที่ยวมั่นใจไม่ต้องกลัวน้ำมันไม่พอ
กรมธุรกิจพลังงาน สั่งทุกค่ายน้ำมันเตรียมพร้อมสำรองน้ำมันให้เพียงพอรองรับประชาชนเดินทางช่วงปีใหม่ มั่นใจไม่เกิดปัญหาขาดแคลน เหตุผู้ค้าสำรองน้ำมันไว้จำหน่าย ถึง 50 วัน ขณะกลุ่มโรงกลั่นทั่วประเทศยืนยันเดินหน้าปรับปรุงน้ำมันเป็นมาตรฐานยูโร5 ช่วยลดฝุ่นPM2.5 ได้ทันใช้ตามกำหนด 1 ม.ค. 2567 แน่นอน เตรียมหารือกระทรวงพลังงานปรับราคาขาย เหตุต้นทุนปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น 6 โรง สูงถึง 5 หมื่นล้านบาท
น.ส.ลักขณา สุมาบัติ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า กรมฯได้ประสานไปยังทุกค่ายน้ำมันให้จัดเตรียมน้ำมันให้เพียงพอต่อการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ และยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำมันแน่นอน เนื่องจากทุกค่ายจะต้องสำรองน้ำมันไว้จำหน่ายอย่างน้อย 50 วัน ประกอบกับการปรับลดข้อกำหนดให้ผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นสำรองน้ำมันดิบเหลือเพียง 4% จากเดิมกำหนดไว้ 6% ของการจำหน่าย และให้สำรองน้ำมันสำเร็จรูป 1% ของการจำหน่าย ส่งผลให้ ผู้ค้าน้ำมันเกิดความคล่องตัวในการบริหารสต๊อกน้ำมันมากขึ้น จึงมั่นใจว่าทุกปั๊มจะมีน้ำมันจำหน่ายให้กับประชาชนอย่างเพียงพอแน่นอน
นอกจากนี้ทางค่ายน้ำมัน ปตท.และบางจาก ยังยืนยันว่าจะตรึงราคาน้ำมันไม่ปรับขึ้นในช่วงปีใหม่ด้วย แต่หากราคาน้ำมันโลกปรับลดลง ค่ายน้ำมันก็พร้อมปรับลงตาม
ส่วนการแก้ไขปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 นั้น จากการหารือกับ 6 ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในไทยล่าสุด ได้รับการยืนยันว่าจะปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลให้เป็นน้ำมันคุณภาพมาตรฐานยุโรป ระดับที่ 5 (ยูโร5) ทันตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงานที่ให้เริ่มใช้ตั้งแต่ในวันที่ 1 ม.ค. 2567 ได้แน่นอน
โดยขณะนี้โรงกลั่นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้ปรับปรุงโรงกลั่นให้สามารถสลับไปผลิตได้ทั้งน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและยูโร 5 ได้แล้ว แต่ค่ายน้ำมันยังสั่งซื้อน้ำมันยูโร 4 อยู่ เนื่องจากปัญหาด้านการขนส่งทางท่อน้ำมัน เพราะเป็นการใช้ท่อร่วมกันกับผู้ค้ารายอื่นที่ยังใช้ยูโร 4 กันอยู่ หากจะใช้ยูโร 5 จะต้องเปลี่ยนไปขนส่งทางเรือและทางรถแทนเพื่อไม่ให้น้ำมันปนกัน ดังนั้นขณะนี้ทางค่ายน้ำมันต่างๆ จึงยังเลือกใช้ยูโร 4ไปก่อน
สำหรับราคาจำหน่ายน้ำมันหลัง 1 ม.ค. 2567 จะปรับขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการหารือของผู้ประกอบการโรงกลั่น ค่ายน้ำมันและสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เนื่องจากการปรับปรุงโรงกลั่นดังกล่าวทั้ง 6 โรง มีต้นทุนที่สูงขึ้นจากค่าปรับปรุงรวมทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 จะปล่อยกำมะถันเพียง 10 PPM ซึ่งจะช่วยลดปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 )ได้ดีกว่าน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งปล่อยกำมะถันสูงถึง 50 PPM โดยมาตรการนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ช่วยลดปัญหา PM2.5 แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลกระทบให้เกิดPM2.5 ได้อยู่ เช่น การก่อสร้างต่างๆ ในเมืองใหญ่ การเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เป็นต้น
นอกจากนี้ค่ายน้ำมัน ปตท.และบางจาก ได้ผลิตน้ำมันที่ปล่อยกำมะถันเพียง 10 PPM มาจำหน่ายเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงนี้เท่านั้น เพื่อช่วยลดปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยปตท.ผลิตน้ำมันดังกล่าวที่คลังพระโขนงเพียงแห่งเดียว และเริ่มจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ 16 พ.ย. 2563-28 ก.พ. 2564 ขณะที่ค่ายน้ำมันบางจาก ได้ผลิตน้ำมันกำมะถันต่ำ ที่คลังน้ำมันบางจาก เริ่มจำหน่ายไปตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2563-28 ก.พ. 2564 เช่นกัน อย่างไรก็ตามน้ำมันดังกล่าวยังไม่ใช่ยูโร 5 แต่เป็นยูโร 4 ที่ปรับปรุงให้ลดกำมะถันลง ซึ่งจะใช้ชั่วคราวในช่วงที่เกิดปัญหา PM2.5 จำนวนมากในขณะนี้เท่านั้น
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th