ป้าย ECO Sticker คืออะไร
ECO Sticker ยังคงเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย และในเอเชีย แต่ในหลายประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในยุโรป ได้เริ่มใช้มาก่อนแล้ว สำหรับป้าย ECO Sticker ถ้าให้บอกกันตามตรงนั่นก็คือการการันตีคุณภาพรถยนต์จากภาครัฐนั่นเองแต่จะมีอะไรบ้างที่ภาครัฐการันตีมาดูกัน
Eco sticker คือ ป้ายแสดงข้อมูลของรถยนต์ตามมาตรฐานสากล ถูกพัฒนาขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อกำหนดให้ค่ายรถยนต์ต้องติด ECO sticker บนกระจกรถยนต์ใหม่ทุกคันที่จำหน่ายในประเทศ เพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของรถยนต์บนมาตรฐานเดียวกัน โดยข้อมูลในป้ายจะบ่งบอกคุณลักษณะที่สำคัญของรถยนต์ 5 ส่วน ได้แก่ สมรรถนะรถยนต์ ข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์ ข้อมูลผู้ผลิต/นำเข้า รายการอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน และราคาขายปลีกแนะนำ เพื่อไม่ให้ผู้ซื้อโดนหลอก ตลอดจนสามารถเปรียบเทียบข้อมูลของรถยนต์แต่ละรุ่นได้ โดยพิจารณาจากสมรรถนะในด้าน “สะอาด ประหยัด และปลอดภัย”
สมรรถนะของรถยนต์ในด้าน “สะอาด ประหยัด ปลอดภัย” บน ECO Sticker มีรูปแบบการแสดงข้อมูลอยู่ 2 ลักษณะ คือ
1) การแสดงเป็นค่าตัวเลข ได้แก่ อัตราการปล่อย CO2 หรือ อัตราการใช้น้ำมันอ้างอิงใน 3 สภาวะ ได้แก่ สภาวะรวม สภาวะในเมือง และสภาวะนอกเมือง โดยจะมีการนำอัตราการใช้น้ำมันในสภาวะรวมมาแสดงในแถบอัตราการใช้น้ำมันที่มีลักษณะเป็นไม้บรรทัดยาว เพื่อให้เห็นว่า รถยนต์คันนั้นมีความประหยัดอยู่ในระดับใด โดยตัวเลขดังกล่าวจะต้องผ่านการทอสอบตามข้อกำหนดทางเทคนิค UN R101
2) การแสดงเป็นรูปดาวสีเขียว การได้ดาวสีเขียว จะหมายถึง มาตรฐานต่างๆ ที่รถยนต์นั้นได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือผ่านการทดสอบ ตามข้อกำหนดทางเทคนิคของคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป หรือ United Nations Economic Commission for Europe (UN) ได้แก่
- ใบอนุญาต สมอ. : มาตรฐานมลพิษ
- UN R83 : มาตรฐานสารมลพิษ
- UN R94 : มาตรฐานการชนด้านหน้า
- UN R95 : มาตรฐานการชนด้านข้าง
- UN R13H : มาตรฐานระบบเบรก ที่มี ABS & ESC
คุณสมบัติของ ECO Sticker ประกอบด้วย
คุณสมบัติความสะอาด
อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์: ปริมาณ CO2 ที่ออกมา มีความสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณเชื้อเพลิงใช้เป็นเกณฑ์จัดเก็บภาษีสรรพสามิต , ดาวมอก.: มาตรฐานมลพิษของประเทศไทย เทียบเท่า Euro 4 รถทุกคันต้องได้ดาวนี้ , ดาว Euro 4, 5 และ 6 มาตรฐานมลพิษของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป(ซึ่ง Euro 6 คือมาตรฐานใหม่ที่เข้มงวดที่สุด ขณะที่ของไทยยังบังคับเป็น Euro 4)
คุณสมบัติความประหยัดและความปลอดภัย
ข้อมูลอัตราการใช้น้ำมันทั้ง 3 สภาวะ สภาวะรวม, สภาวะในเมือง และสภาวะนอกเมือง (Extra-Urban) หน่วย ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ กิโลเมตรต่อลิตรซึ่งรถจะต้องผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ UN R101 ในห้องปฏิบัติการ ส่วนมาตรฐานความปลอดภัยแบ่งเป็น มาตรฐานของระบบเบรคและมาตรฐานป้องกันผู้โดยสาร ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th