ผ่านไปกี่ปียังสวยเด่น! BMW 750iL คู่ใจ 007 กับจินตนาการสุดล้ำ
เพราะโควิดเป็นเหตุให้ต้องทำงานที่บ้านอยู่เป็นเดือน พยายามหนีห่างจากโลกโซเชียลแล้วหันมาอยู่กับโลกในความเป็นจริงและอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น ทำให้ต้องขุดกรุหนังเก่าออกมานั่งดูพร้อมกับทำงานคู่กันไป และต้องไปสะดุดกับหนังระดับตำนานอย่าง 007 กันอีกครั้ง เพราะในภาค Tomorrow Never Dies ที่ออกฉายในปี 1997 มีรถที่พ่อสายลับจอมทำลายล้างสุดขี้หลี เอาไปปู้ยี่ปู้ยำซะเละเทะอย่าง BMW 750iL ที่ต้องยอมรับว่าแม้ปีนี้จะ 2021 แล้ว แต่ดีไซน์ของ 750iL ยังคงสวยสะดุดตาไม่แพ้รถดีไซน์ใหม่ๆ เลยเหมือนกันนะเนี่ย
ในภาค Tomorrow Never Dies ค่ายใบพัดฟ้าขาวบีเอ็มดับเบิลยูส่งรถหรูที่สุดในตอนนั้นอย่าง 750iL ให้กับทีมงานภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ เข้าฉากถ่ายทำ และแน่นอนว่ารถคันนี้ต้องถูกติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเป็นอาวุธให้ 007 ได้ลุยกับเหล่าตัวร้ายเอาไว้มากมายให้ต้องร้องว้าว!! ทุกครั้ง ซึ่งต่างจากภาคใหม่ๆ ที่เน้นความสมจริงสมจัง ทำให้ไฮไลท์การดัดแปลงรถเหล่านี้ขาดหายไปเยอะเลย
คลิปจาก Cars and Movies
การพบกันครั้งแรกของ 007 และ BMW 750iL ที่แฟนหนังต้องเดาทางถูกว่ารถคันนี้ต้องโดนเอาไปยำเละแน่นอน
ทรวดทรงและเส้นสายข้างตัวรถที่ดูแข็งแกร่งและปราดเปรียว แม้จะเป็นเส้นตรงยาวๆ แต่กลับสร้างมิติให้ตัวรถได้อย่างดี สวยทะลุ 2 ทศวรรษจริงๆ
พอรับรถมาปุ๊บก็จัดการหวดซะหนักเลย ด้วยระบบควบคุมรถผ่านโทรศัพท์มือถือในยุคนั้น
ย้อนไปยุคนั้นมือถือค่ายอีริคสันถือว่าจัดจ้านเรื่องของเทคโนโลยีที่เหนือกว่าค่ายอื่นๆ ชัดเจน แถมราคายังสูงอีกด้วย
โดย 750iL คันนี้ถูกคุณปู่ Q หัวหน้าทีมวิศวกรของ Mi6 เอาไปติดตั้งของเล่นให้ 007 เพียบ ไม่ว่าจะเป็นตัวถังเหล็กกล้าพร้อมกระจกกันกระสุน, เครื่องพ่นควัน, ช่องเก็บของที่คอนโซลซ่อนปืนได้, ระบบปล่อยกระแสไฟฟ้ารอบตัวรถ, เลื่อยไฟฟ้าขนาดเล็กที่ซ่อนเอาไว้ใต้โลโก้ BWM, จรวดขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้หลังคาซันรูฟ, กันชนหลังที่ซ่อนตะปูเรือใบเอาไว้, ยางที่มีระบบอัดลมอัตโนมัติที่ถือว่าเป็นต้นแบบของยางรันแฟลตในทุกวันนี้ รวมทั้งเสียงหวานๆ ของสาวสวยสำเนียเยอรมันที่ใช้เป็นเสียงประจำระบบในตัวรถ และที่ต้องบอกว่าโดดเด่นมาในยุคนั้นและล้ำหน้ามากๆ คือ ระบบควบคุมรถผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่ใครจะไปคิดว่าวันนี้รถบีเอ็มดับเบิลยูสามารถทำแบบนั้นได้แล้วเช่นกัน ว้าวสุดๆ เลยมั้ยล่ะ และปิดท้ายด้วยความสามารถพิเศษที่รถคันนี้บินได้!! ใช่แล้วบินได้ เพราะพ่อพระเอก เจมส์ บอนด์ 007 ที่รับบทโดย เพียช บรอสแนน ที่ขับหนีการไล่ล่าบนตึกจอดรถ ขับขึ้นมาถึงดาดฟ้าแล้วขับพุ่งทะลุจากลานจอดรถชั้น 8 บินทะยานสู่ความเวิ้งว้าง แล้วตกลงมาพังเละเทะที่หน้าโชว์รูมรถเช่า แล้ว 007 ก็เดินออกมาแบบหล่อๆ รถพังยับ คนไม่เป็นไร…งานนี้คุณปู่ Q น่าจะหัวเสียกว่าทุกภาคที่ผ่านมาแน่นอน
สงสัยกันมั้ยว่าเค้าถ่ายทำฉากที่รถวิ่งได้เองผ่านการบังคับจากมือถือได้ยังไง เพราะดูกี่ครั้งก็ไม่เห็นคนขับข้างในเลย ดูรูปนี้สิ..เพราะรถมีการดัดแปลงให้มีพวงมาลัยอีกชุดอยู่ที่เบาะหลังแล้วมีจอมอนิเตอร์เช็คภาพ แล้วใช้มุมกล้องหลบเอาอีกที แต่ถ้าเป็นสมัยนี้สบายมาก เพราะบีเอ็มดับเบิลยูทำให้รถเคลื่อนที่ผ่านสมาร์ทโฟนได้แล้ว เจ๋งเวอร์
หล่อได้ใจจริงๆ (หมายถึงรถ)
ของเล่นเยอะจริงๆ ทั้งปล่อยควัน
กระจกกันกระสุน
ใต้หลังคามีจรวด
บังคับรถระยะไกล ตัวเองไปซ่อนหลังเสา (พระเอกจริงๆ)
พร้อมโรยตะปูเรือใบ
แล้วเหยียบตะปูเรือใบของตัวเองซะงั้น แต่ไม่มีปัญหาเพราะเป็นยางที่สูบลมได้อัตโนมัติ ขี้โกงสุดๆ
ใต้โลโก้ก็ยังมีของ!
เป็นเลื่อยตัดสลิงอีกต่างหาก นี่คุณปู่ Q คงรู้แหละว่า 007 ชอบขับรถฝ่าอะไรบ้างนอกจากไฟแดง
ฉากนี้เรียกเสียงฮา ยิงจรวด ดันทะลุผ่านรถไปโดนอีกคันเฉยเลย ก็รถพระเอกนี่ ดวงดีซะอย่าง
ไล่ล่าขึ้นไปชั้นบนสุด
แล้วสิ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกัน..ถึงจุดจบแล้วสินะ
บ๊าย บาย…นิสัย!!
ขนาดชนทะลุออกมา กันชนยังไม่บุบสักนิด แกร่งจริงๆ
เชื่อแล้วว่า BMW 750iL บินได้…บินไกลซะด้วย
Tie in สปอนเซอร์เห็นๆ
เอารถมาคืนล่ะจ้า
แต่ต้องยอมรับว่า แม้หนังจะฉายมากว่า 25 ปีแล้ว หากมองเรื่องของการดีไซน์ตัวถังและการออกแบบห้องโดยสารของ BMW 750iL ยังคงดูเป็นรถที่มีความน่าสนใจอยู่มาก ซึ่งยอมรับว่าเป็นการออกแบบที่เหนือกาลเวลาจริงๆ ที่ขนาดตอนนี้ยังรู้สึกเลยว่า “สวยไม่เสื่อมคลาย” จริงๆ
ก่อนจะจากกันไป..เดี๋ยวนะ โกรธกันมาหรือยังไง ทำไมให้ค่ายดาวสามแฉกค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นล่ะเนี่ย ใจร้ายที่สุด!!
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th