การศึกษาชี้ผู้ชายขาดความระมัดระวังในการขับรถมากกว่าผู้หญิง
มีการศึกษา พฤติกรรมการขับรถ ในสหรัฐอเมริกาที่จัดทำโดย Smith’s Lawyers เพื่อหาว่าระหว่างผู้ขับรถผู้ชายและผู้ขับรถที่เป็นผู้หญิงมีพฤติกรรมการขับรถบนถนนแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งแม้เป็นการศึกษากับคนอเมริกัน แต่ผลที่ได้จากการศึกษาอาจทำให้บรรดาผู้ชายทั้งหลายต้องลองพิจารณาตัวเองดูว่าเป็นเหมือนในการศึกษาที่ออกมาหรือไม่ เพราะบทสรุปที่ได้คือผู้ขับรถผู้ชายมีแนวโน้มที่จะขาดความระมัดระวังหรือไขว้เขวในระหว่างขับรถมากกว่าผู้หญิง
การศึกษาที่จัดขึ้นโดย Smith’s Lawyer นี้ได้ทำกับคนที่ใช้รถจำนวน 2,214 คนอายุระหว่าง 18-65 ปีในสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลที่ได้ออกมาเป็นข้อสรุปคือมี 70 เปอร์เซ็นต์ของคนขับรถที่มีพฤติกรรมรูปแบบต่างๆ ซึ่งทำให้ความระมัดระวังลดลงหรือทำให้ขาดสมาธิในขณะขับรถ โดยผู้ชายมีตัวเลขที่แสดงพฤติกรรมในลักษณะนี้มากกว่ากว่าผู้หญิง เช่น มี 22 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายที่ชอบใช้สมาร์ทโฟนในขณะขับรถ และมีถึง 74 เปอร์เซ็นต์ที่เคยพยายามใช้หัวเข่าควบคุมพวงมาลัยแทนมือ นอกจากนี้ยังมีถึง 70 เปอร์เซ็นต์ที่ชอบดูวิดีโอในขณะอยู่หน้าพวงมาลัยแทนการใช้สายตาเพื่อดูผู้ใช้ถนนคนอื่น ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าผู้หญิงที่ขับรถถึง 260 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้การศึกษายังลงลึกไปถึงพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาที่ผู้ขับรถมีพฤติกรรมขาดความระมัดระวังในการขับรถมากกว่าพื้นที่อื่นด้วย โดยระบุว่ารัฐทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาอย่างแคลิฟอร์เนีย เนวาด้า อริโซนา และโคโลราโด เป็นพื้นที่ที่มีผู้ขับรถจำนวนมากใช้สมาร์ทโฟน ในขณะที่รัฐแถบมิดเวสต์อย่างอิลลินอยส์ มิชิแกน โอไฮโอ และไฮโอวามีจำนวนนักขับที่นิยมใช้เข่าควบคุมพวงมาลัยแทนมือสูงกว่าที่อื่น
แม้จะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้ขับรถที่ทำในสหรัฐอเมริกา แต่บางทีก็อาจนำมาใช้ดูทั้งตัวเองและคนรอบตัวด้วยว่ามีพฤติกรรมข้างต้นที่สามารถทำให้เกิดอันตรายในขณะขับรถหรือไม่ โดยผู้ศึกษาไม่ได้จำกัดพฤติกรรมที่ทำให้ขาดความระวัดระวังในการขับรถไว้แค่การคุยโทรศัพท์ ใช้เข่าคุมพวงมาลัย หรือดูวิดีโอเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่ม และรับประทานอาหารขณะขับรถด้วย
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th