“พิมพรรณ หงษ์ปาน นักแข่งหน้าหวาน กับ 911 Carrera S คู่ใจ”
หากพูดถึงนักแข่งสาวฝีมือดีในวงการมอเตอร์สปอร์ต ผู้คร่ำหวอดกับสนามแข่ง พิม – พิมพรรณ หงษ์ปาน คือหนึ่งในลิสต์ที่เราต้องพูดถึง ด้วยความสามารถ และประสบการณ์ที่เธอสั่งสมมากว่าสิบปีบนสนามแข่ง
แม้ว่าเธอจะดูบอบบางหน้าหวาน แต่บอกเลยว่าเรื่องกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมทั้งหลายคือสิ่งที่เธอโปรดปราน รวมไปถึงกีฬาแข่งรถนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งรายการแจ้งเกิดของเธอ กับรถแข่งคู่ใจในสนาม แน่นอนว่าคือ โตโยต้า วีออส ในรายการ Vios One Make Race Lady Cup เมื่อปี 2011 แต่วันนี้ เราจะพามาดูกันว่าในชีวิตจริง รถคู่ใจของสาวเก่งคนนี้คืออะไร
Q: เริ่มสนใจในเรื่องรถยนต์เมื่อไหร่
A: ชอบขับรถมาตั้งแต่จำความได้ค่ะ สมัยเด็กๆ เวลาไปไหนจะชอบขอคุณพ่อนักตัก อยู่หน้าพวงมาลัย ขอนั่งตลอด ได้บ้างไม่ได้บ้าง เริ่มมาขับเองจริงๆ ตอนโตขึ้นมาหน่อย ขับอยู่ในหมู่บ้าน เริ่มจากขับรถเกียร์ออโต้ของที่บ้าน พอราวๆ สิบห้าก็เริ่มขับเกียร์ธรรมดา เพราะตอนนั้นคุณพ่อได้รถอีโวแปดมาพอดี ซึ่งนั่นก็เป็นการขับเกียร์ Manual ครั้งแรก
Q: เริ่มเข้ามาวงการมอเตอร์สปอร์ตได้อย่างไร
A: คุณพ่อเป็นคนชวน เพราะเริ่มจากที่พี่ชายพิมเป็นนักแข่งรถอยู่แล้ว คุณพ่อก็ชวนไปดู ถามว่าอยากแข่งไหม ถ้าอยากลองก็ลงแข่ง หลายคนถามว่าไม่กลัวเหรอ พิมก็จะบอกเสมอว่า ไม่รู้สึกกลัวนะ เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยกลัวอะไร ชอบกิจกรรมผาดโผน อย่างเวลาไปสวนสนุก พวกเครื่องเล่นที่หวาดเสียวพิมก็ชอบเล่นหมดค่ะ
Q: รู้สึกอย่างไรกับการเข้ามาเป็นนักแข่งหน้าใหม่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต
A: ปีแรกที่ลงแข่ง พิมยังไม่ได้เคยไปเรียน หรือศึกษาอะไรเกี่ยวกับการขับในสนามแข่งรถเลย มีแค่คุณพ่อ คุณลุง และพี่ชายที่คอยสอน ไม่มีประสบการณ์ พอปีที่สองเริ่มไปลงเรียนคอร์สของสิงห์ เรซซิ่ง สคูล แล้วก็กลับลงสนาม ไปแข่ง หลังจากนั้นก็เริ่มมีตำแหน่ง เริ่มรู้สึกสนุกมากขึ้น
Q: จุดแข็งของตัวเองตอนอยู่ในสนามคืออะไร
A: ความใจเย็นค่ะ ซึ่งในปีแรกๆ พิมไม่ใช่แบบนี้นะ จะออกแนวใจร้อน กล้า บ้าบิ่น ในสนามมาก แล้วก็ชนกลับมา พอเริ่มมีประสบการณ์ เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้น ก็เริ่มใจเย็นลง รู้ลิมิตของรถกับตัวเรา รู้จักสนามมากขึ้น ก็ทำให้รู้ว่าใจร้อนไปก็ไม่มีอะไรดี นอกจากนั้นก็หมั่นฝึกซ้อมตลอดค่ะ
Q: สนามแข่งไหนที่ประทับใจมากที่สุด
A: น่าจะเป็นเซปังอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตค่ะ เพราะไม่เคยไปแข่งต่างประเทศมาก่อน พอมีโอกาสได้ไปแข่ง ก็รู้สึกประทับใจกับตัวสนามของเขา แม้ว่าจะไม่ได้รางวัล แต่ก็ได้ประสบการณ์มากมายกลับมา
Q: รางวัลที่ภูมิใจมากที่สุด
A: น่าจะเป็นสนามกรุงเทพ ตอนปี 2012 ค่ะ เพราะเป็นสนามแรกของปีเลยที่ไปลงแข่งของวีออสซี ซึ่งแข่งรวมกับผู้ชาย และวันที่แข่งก็ตรงกับวันเกิดพิมพอดี แล้วก็ได้แชมป์มาอีก จบที่หนึ่งของสนามแรก เป็นผู้หญิงคนเดียวในรายการทั้งหมด พอขึ้นไปรับถ้วย คุณพ่อก็เอาเค้กมาให้เป่าบนโพเดียม เป็นครั้งที่ภูมิใจและน่าจดจำสำหรับพิมที่สุด
Q: วาดอนาคตไว้กับการเป็นนักแข่งอย่างไร
A: ถ้ามีโอกาสได้แข่ง หรือมีสปอนเซอร์เข้ามา ยังอยากแข่งไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้อยากแข่งเป็นอาชีพนะคะ อยากแข่งเพราะมันคือความชอบของเรา เป็นกีฬาที่สนุก สังคมดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนอบอุ่นเหมือนคนในครอบครัว
Q: ความผูกพันกับ Porsche 911 Carrera S
A: คันนี้เพิ่งได้มาเมื่อปีที่แล้วเองค่ะ ไปเรียนภาษาจากญี่ปุ่นกลับมา คุณพ่ออยากซื้อให้ แล้วพิมเป็นคนชอบสีฟ้า ตอนนั้นรุ่นนี้เพิ่งออกสีนี้มาพอดี ซึ่งพิมคิดว่ามันเป็นตัวที่ดูกลางๆ เมื่อจอดอยู่ในกลุ่มของเขา ที่สำคัญคันนี้มองภายนอกอาจจะเหมือนเป็นรถสปอร์ต แต่เวลาใช้แล้วก็เหมือนเป็นรถบ้านเลยค่ะ ไปได้ทุกที่ ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับการขึ้นลงที่สูง เพราะมันสามารถลิฟท์ได้ และลิฟท์ได้สูงพอสมควร เครื่องดี ขับสนุก โดยเฉพาะเวลาไปต่างจังหวัด แล้วตั้งแต่ได้คันนี้มา พิมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดูแลรถมากขึ้น จากแต่ก่อนที่ชอบขับอย่างเดียว ไม่เคยรู้เรื่องการดูแลรักษาอะไรเลย ตอนนี้ ดูแลใส่ใจมากขึ้น ตั้งแต่เบสิกเลย
Q: เปรียบรถเป็นอะไรในชีวิต
A: พิมมองว่าเขาเป็นเพื่อนที่รู้ใจคนหนึ่งเลยนะ คนที่เราอยู่ด้วยแล้วเราสบาย ไปไหนไปด้วยกัน ไม่เหงา เรียกว่ารู้จักกันดี ขึ้นรถปุ๊บโทรศัพท์เราก็คอนเนคกับรถไปแล้ว เพลงที่เปิด หรือการใช้งานต่างๆ เขารู้ทุกอย่าง
Q: รถในฝัน
A: เคยอยากได้ McLaren เคยเห็นมาจากรูป จริงๆ อาจจะเป็นคนที่ไม่ได้รู้เรื่องเครื่องยนต์อะไรมากมาย พอมีโอกาสได้ลองขับรถของคุณลุงก็รู้สึกว่าขับสบาย สวยมากด้วย รุ่นใหม่ออกมาก็สวยยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ
Q: อยากฝากอะไรถึงคนใช้รถใช้ถนน
A: พิมอาจจะไม่ใช่คนขับรถดีมาก แต่สิ่งหนึ่งบนท้องถนนที่อยากให้ช่วยกันระวังคือ จักรยานยนต์ค่ะ เราขับรถยนต์ก็ต้องระวัง คนขับมอเตอร์ไซค์เองก็ต้องระวัง อย่างเวลาเราจอดรถติดอยู่เขาชอบมาเฉี่ยวชนกระจกข้าง หรือเวลาที่เราอยากจะเปลี่ยนเลนส์ เปิดไฟเลี้ยวแล้วแต่เขาก็ยังขับมาอยู่ไม่ให้ทาง พิมรู้สึกว่ามันไม่ได้อันตรายแค่กับรถเราที่จะเป็นรอย แต่มันอันตรายสำหรับตัวเขาเองด้วย เพราะมันเหมือนเนื้อหุ้มเหล็ก
ส่วนการขับรถเร็ว ก็ขับได้ค่ะ แต่อยากให้ขับอย่างระมัดระวังดีกว่า เพราะถ้าไม่รู้จักที่จะควบคุมรถได้ดีพอในจังหวะที่ใช้ความเร็วก็อันตราย มันไม่ใช่แค่เขาที่จะบาดเจ็บ แต่กับเพื่อนร่วมทางที่ไม่ได้ประมาท ไม่ได้ขับเร็ว มันอาจจะพลาดไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้ ยังไงก็ให้อยู่ในกฏหมายค่ะ
เรื่อง : สัญชวัล จินดารัศมี
ภาพ : พิศวัส พงศ์พุฒิโสภณ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์รถจักรยานยนต์รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th