ดูเหมือนว่าด้วยปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกจะเริ่มส่งผลชัดเจนต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะจากรายงานของ CNBC โดยอ้างอิงจากทีมเศรษฐศาสตร์ของ Fitch Rating ว่านี่จะเป็นอีกปีที่ พิษเศรษฐกิจ ทำยอดขายรถยนต์ทั่วโลกร่วงลงกว่าจำนวนที่เคยขายได้ในปีก่อนหน้า โดยเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกลดลง

ทีมเศรษฐศาสตร์ของ Fitch Rating ได้อ้างอิงข้อมูลจาก International Organization of Motor Vehicle ที่เชื่อว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปีนี้จะลดลงประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์จากปี 2018 เหลือประมาณ 77.5 ล้านคัน เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ถูกขายไปทั่วโลกจำนวน 80.6 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงมาจาก 81.8 ล้านคันในปี 2017 ซึ่งหมายความว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี 2019 จะลดลง 3.1 ล้านคัน

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายรถยนต์โลกในปีนี้ลดลงคือ ความต้องการรถยนต์ใหม่ในจีนลดลงจนส่งผลต่อยอดขายรถยนต์โดยรวมทั่วโลก โดยใน 10 เดือนแรกของปีนี้ยอดขายรถยนต์ในจีนลดลง 11 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเองยอดขายรถยนต์ใหม่ก็ลดลงด้วยแม้จะไม่มากก็ตาม จากการคาดการของ Fitch Rating ที่ประมาณการว่าลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ และจะขายรถยนต์ไม่ถึงกว่า 16.9 ล้านคันเมื่อถึงสิ้นปีนี้

จากภาวะเศรษฐกิจไม่เพียงเฉพาะด้านตลาดรถยนต์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ Brian Coulton หัวหน้าทีมเศรษศาสตร์ของ Fitch Rating ยังระบุว่าการผลิตโดยทั่วไปทั่วโลกก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย “แนวโน้มที่ตกต่ำลงของตลาดรถยนต์โลกตั้งแต่กลางปี 2018 เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการผลิตทั่วโลก และการขายรถก็แย่กว่าที่เราคาดการณ์ไว้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมได้มีความกังวลเกี่ยวรถยนต์ดีเซลจนทำให้มีข้อบังคับในเรื่องนี้ออกมา  นอกจากนี้การเติบโตของการบริการแบบ Ride-Hailing และ Car-Sharing ก็ส่งผลต่อความต้องการรถยนต์ใหม่ด้วย”

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th