ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็ปเตอร์ 2018 รถกระบะพันธุ์แกร่ง เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิกในปี 2561  ส่วนทางประเทศไทยก็ดูคึกคักพอสมควร เพราะทาง ฟอร์ด ประเทศไทย ก็เริ่มยิง Teaser การทดสอบรถรุ่นนี้เชื่อว่าหลายท่านคงเห็นแล้ว

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุด ได้มีภาพหลุดออกมาว่าทาง ฟอร์ด ประเทศไทย เตรียมตัวเปิดตัว ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ ถ้าเป็นไปตามวันดังกล่าวจริงเชื่อเลยว่าหลายค่ายอาจจะต้องมีการขยับตัวตามอย่างแน่นอน ส่งผลให้ปีนี้ตลาดรถกระบะต้องกลับมาคึกคักมากมายทีเดียว

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถูกตั้งชื่อตาม ฟอร์ด เอฟ-150 แร็พเตอร์ กระบะรุ่นใหญ่ที่วางจำหน่ายอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งการนำรูปลักษณ์การออกแบบบ่งบอกถึงความแกร่ง รวมถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรด จึงน่าจะเป็นกระบะเซ็กเมนท์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยโดยมีรายงานข่าวว่า ฟอร์ด เตรียมวางให้ เรนเจอร์ แร็ปเตอร์ เป็นกระบะพรีเมียม ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชั้นสูง และความสามารถด้านการขับขี่อันเหนือชั้นอย่างแท้จริง

ด้านของเครื่องยนต์ จากพื้นฐานในประเทศไทย ฟอร์ด เรนเจอร์ ในรุ่นปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทยจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้งาน 2 รุ่น คือ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว Duratorq TDCi ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบแปรผัน แบบมีครีบ VG Turbo พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 125 – 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิด 320 – 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

อีกรุ่น คือ เครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบแถวเรียง 20 วาล์ว Duratorq TDCi ขนาด 3.2 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบมีครีบ VG Turbo พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 470 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ส่วน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ นั้น เบื้องต้นน่าจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ ที่จะถูกนำมาจำหน่ายในประเทศไทย เป็นครั้งแรกนั้นก็คือ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว EcoBlue TDCi ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบมีครีบ VG Turbo พร้อม Intercooler  กำลังสูงสุด 190-210 แรงม้า ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมระบบการขับขี่ TMS ถึง 6แบบทั้ง Normal , Sport ,Weather,Mud/Sand,Baja,Rock/Gravel

โดยเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ ได้รับการออกแบบให้ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในขณะที่ปล่อยมลพิษอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และไนโตรเจนออกไซด์ (NOX) น้อยลงจนสามารถผ่านมาตรฐานไอเสียในระดับ EURO6 ที่กำหนดให้ค่าไนโตรเจนออกไซด์ลดลงถึง 55% จาก EURO5

ส่วนทางด้านของราคาจำหน่าย มีรายงานข่าวว่า จากวางตำแหน่งโปรดักซ์ไว้ให้เป็นกระบะสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยม หากนำไปเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง ดับเบิ้ลแค็บ 3.2L Wildtrak 4×4 6AT NAVI ที่มีราคาขายสูงสุดอยู่ที่ 1,199,000 บาท ทำให้ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีราคาจำหน่าย พุ่งสูงทะลุมิติถึง 1.4-1.6 ล้านบาท ถ้าเป็นไปตามคาด

พูดเลยว่ารูปทรงรูปลักษณ์ ภายนอก-ภายใน งดงาม บึกบึน หมดจดมาก ด้านเครื่องยนต์ก็ได้เครื่องยนต๋ใหม่ถ้าเป็นไปตามที่คาด EcoBlue TDCi ขนาด 2.0 ลิตร แรงเอาเรื่องทีเดียวครับ ส่วนราคาจำหน่ายต้องคิดหนักเพราะจ่ายเงินซื้อรถกระบะราคา 1.4-1.6 ล้านบาท แพงมากทีเดียวครับ เรามารอดูตัวจริงดีกว่าว่าจะมาสมราคาหรือไม่ ที่สำคัญกระบะออกมาเป็นแบบพรีเมี่ยมแล้ว ศูนย์บริการ และการบริการต่างๆ ต้องปรับปรุงให้พรีเมี่ยมตามด้วยก็จะดีมาก รับรองขายดีแน่นอนครับ

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

ภาพ : http://www.caradvice.com.au

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th