ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เอสยูวีสุดคุ้มสำหรับครอบครัว
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (Ford Everest) มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ—(Bi-turbo Diesel Engine) และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งขึ้น พร้อมลดเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ไปในเวลาเดียวกัน และยังมีห้องโดยสารที่กว้างขวาง ให้ความสะดวกสบายเหมาะกับการเดินทางไกล ทั้งยังพ่วงด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบเต็มขั้นอีกด้วย
ในส่วนของเครื่องยนต์ไบเทอร์โบรุ่นใหม่นี้ ยังสามารถกระจายแรงบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1750 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลัง และเร่งความเร็ว ช่วยให้การขับรถบนทางลาด เช่น การขับรถขึ้นภูเขาที่ลื่น และลาดชันง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดมาพร้อมความคล่องตัวในการขับขี่บนทางเรียบ และความสะดวกสบาย ปราศจากเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร โดยทุกรุ่นได้รับการพัฒนาระบบกันสะเทือนช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย และมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกสภาพถนน
ระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Cancellation) ยังมอบห้องโดยสารที่ปราศจากเสียงรบกวน ในขณะที่กระบวนการวิศวกรรมออกแบบให้ความสำคัญกับการลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ พร้อมพัฒนาซีลกันเสียง และวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย
โดย เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนของฟอร์ด ซึ่งผสานระบบเบรกแบบ Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pedestrian Detection) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) บริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถ และช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ พร้อมมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย เช่น ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี กุญแจรีโมตอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ซึ่งได้รับการติดตั้งในรถระดับนี้เป็นครั้งแรก จะคอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่จะได้รับความสะดวกสบายจากระบบประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เพียงยื่นเท้าไปที่ใต้กันชนท้าย ประตูท้ายจะเปิดโดยอัตโนมัติ โดยเอเวอเรสต์ ใหม่ ทุกรุ่น ยังมาพร้อมกุญแจรีโมตอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ตรถอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ตรถได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และขึ้นลงรถได้สะดวกสบายกว่าเดิม
เอเวอเรสต์ ใหม่ ทุกรุ่น ได้รับการติดตั้งระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถ เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ และระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น พร้อมทั้งระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) คือระบบ SYNC ที่ได้รับการพัฒนามาขึ้นอีกขั้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน
นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ ให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ได้แก่:
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
- ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control)
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist)
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIS – Blind Spot Information System) ที่มาพร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert)
- กล้องมองหลัง ขณะถอยจอดและสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (Rear View Camera and Sensors)
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ โดดเด่นสะดุดตาด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ และไฟหน้า HID ที่ส่องสว่างกว่าไฟหน้าทั่วไป พร้อมล้อแมกซ์อัลลอยแบบก้านคู่ (Split-Spoke) ขนาด 20 นิ้ว ที่ช่วยเสริมให้รถดูดุดันและหรูหราอย่างมีระดับ ห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ มอบความหรูหราให้แก่ห้องโดยสาร และยังเสริมความโดดเด่นด้วยเส้นสายรอบคัน อีกทั้งเพิ่มความนุ่มนวลของจุดสัมผัสต่างๆ ในห้องโดยสาร เพื่อความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในการใช้งาน
สำหรับราคาและรุ่นที่จำหน่ายมี ดังนี้
- รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,799,000 บาท
- รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,599,000 บาท
- รุ่นไทเทเนี่ยม เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,439,000 บาท
- รุ่นเทรนด์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,299,000 บาท
มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Aluminum Metallic, Absolute Black Metallic, Arctic White, Sunset Metallic และ Blue Reflex Metallic พร้อมสีใหม่ Diffused Silver Metallic
โดยภายในงาน Motor Expo 2018 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure ให้อีกด้วย รวมทั้งมอบโปรแกรมขยายเวลาการรับประกันคุณภาพ (Premium Extended Warranty) สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกรุ่น เป็นเวลา 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับลูกค้าที่ออกรถตั้งแต่ วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2561
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th