ฟิล์มกรองแสงไฮคูล สร้างแบรนด์ต่อเนื่อง พร้อมบุกตลาดอาเซียน
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ “ไฮคูล” ตั้งเป้าหมายปี 2561 ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 15%เล็งขยายตลาดกลุ่มรักษาสุขภาพ ด้วยการแนะนำฟิล์มเซรามิคเกรดพรีเมียม ดำนอก-สว่างใน และป้องกันรังสียูวี 400 ได้ 100% เป็นเจ้าแรก เผยเตรียมบุกตลาดอาเซียนด้วยการตั้งตัวแทนจำหน่ายในเวียดนาม ลาว และ เมียนม่าร์
นางสาวชลิฏา วณิชชากรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง “ไฮคูล” ( Hi-Kool) เปิดเผยว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา ไฮคูล ประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่ธุรกิจ โดยมีการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ทั้งรถยนต์ใหม่ป้ายแดงจากศูนย์บริการ และรถยนต์เก่ารวมกว่า 400,000 คัน มาในปี 2561 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 15% โดยปัจจัยสนับสนุนการเติบโตนั้นมาจากช่องทางการติดตั้งหรือเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำเสนอต่อตลาดในปีนี้ ซึ่งเป็นฟิล์มเซรามิคเกรดพรีเมียมที่ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้รถยนต์ของคนไทย คือ Hi-Kool UV Care ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในการกรองรังสี UV400 ที่เป็นสาเหตุให้หน้าหมองคล้ำได้ 100% และไฮคูลเป็นผู้นำอันดับ 1 ในด้านยอดติดตั้งจริง ด้วยยอดติดตั้งมากกว่า 4 แสนคันในแต่ละปี และไฮคูลต้องการเป็นผู้นำด้านฟิล์มกรองแสงในตลาดอาเซียน โดยมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายไปแล้วใน เวียดนาม ลาว และ เมียนม่าร์
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเรือธงของ ไฮคูล ในปีนี้ คือ Hi-Kool UV Care ฟิล์มเซรามิค เกรดพรีเมียม ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าฟิล์มเซรามิคทั่วไปในท้องตลาด ด้วยการป้องกันรังสี UV400 100% ป้องกันแสง Blue Light และยังป้องกันรังสี Infrared สูงถึง 80% เป็นนวัตกรรมฟิล์มสะท้อนความร้อนเพื่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพที่มีกำลังซื้อ
สำหรับ Hi-Kool UV Care จัดอยู่ในกลุ่มฟิล์มเซรามิค ซึ่งเป็นฟิล์มที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถชาวไทย ให้ความเป็นส่วนตัวเมื่อมองเข้าไปจากด้านนอก และมีทัศนวิสัยที่ดียามที่มองออกมาจากในรถ หรือ ดำนอก-สว่างใน ตัวเนื้อฟิล์มใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต ไม่มีชั้นกาวประสาน และความบางอยู่ที่ 1.5 ไมครอน จึงติดตั้งง่ายกว่าฟิล์มเซรามิคของคู่แข่ง ลดปัญหาเรื่องฟองอากาศหลังจากติดตั้ง อีกทั้งยังไม่มีปัญหากับสัญญาณบัตรทางด่วน Easy Pass สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบบนำทางดาวเทียม อีกด้วย
ทั้งนี้ เป้าหมายในการสร้างแบรนด์ของ ไฮคูล นับจากนี้ คือ นำเสนอสินค้าที่มีนวัตกรรม พร้อมทั้งพัฒนาและยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งทียืนยันว่า ไฮคูล เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคคือ รางวัล Superbrands Thailand ที่ได้รับรางวัล 5 ปี ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ไฮคูล ยังเป็นฟิล์มกรองแสงเพียงไม่กี่แบรนด์ในประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐานการป้องกันความร้อน ด้วยฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จากกระทรวงพลังงานอีกด้วย
ในด้านกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ “ไฮคูล” นับเป็นผู้นำเทรนด์ด้านฟิล์มกรองแสงที่มีนวัตกรรม และการสื่อสารทางการตลาดที่ตรงกับทุกกลุ่มผู้บริโภคที่มี แม้ว่ากลุ่มลูกคาจะมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดยไฮคูลใช้กลยุทธ์ภายใต้ธีม “Cool Experience สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับฟิล์มกรองแสง Hi-Kool” เป็นการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องทำให้คนที่ได้เคยใช้ไฮคูลประทับใจ เกิดการซื้อซ้ำ และยังเป็นกระบอกเสียงในการบอกต่อให้กับคนรอบข้างใช้ฟิล์มไฮคูล
สิ่งที่ยืนยันความสำเร็จของไฮคูล ก็คือ ได้รับรางวัล Superbrands Thailand ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2013-2017) ตัวอย่างของการสร้าง brand ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคคือฟิล์มไฮคูล รุ่น Black Carbon Series ที่มีจุดขายเด่น คือ สวย ดำ ดุ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการ ฟิล์มกรองแสงที่ติดตั้งแล้ว ดำนอก สว่างใน ปลุกกระแสความต้องการฟิล์มดำ จนเป็นที่นิยมทั่วประเทศ จนคู่แข่งต้องออกสินค้า และโฆษณาออกมาตาม โดยในปีนี้ไฮคูล ได้มีการเปิดตัวฟิล์ม เซรามิค เกรดพรีเมียม Hi-Kool UV Care ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าฟิล์มเซรามิคทั่วไปในท้องตลาด ด้วยการป้องกันรังสี UV400 100% ป้องกันแสง Blue Light และยังป้องกันรังสี Infrared สูงถึง 80% ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ และการสื่อสารทางการตลาดนั้นสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
นางสาวชลิฎา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บริโภคในปัจจุบัน สามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้า ตลอดจนรีวิวสินค้าต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้มีความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนทราบถึงนวัตกรรมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการฟิล์มกรองแสงที่หลากหลายมากขึ้น การนำเสนอผลิตภัณฑ์จึงไม่ใช่แค่ฟิล์มกันร้อนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจและตอบโจทย์กลุ่มหลากหลายขึ้น เช่น กลุ่มฟิล์มดำ กลุ่มฟิล์มปรอท กลุ่มรถแต่ง กลุ่มรักสุขภาพ โดยที่ผ่านมาHi-Kool ได้นำเสนอสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ Black Carbon Series ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจนได้รับฉายาว่า เป็นตัวจริงของฟิล์มดำนอก-สว่างใน จนเป็นบรรทัดฐานของฟิล์มดำจนแบรนด์อื่นๆ พยายามทำตามออกมาบ้าง
สำหรับเทรนด์การเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในอนาคต คือ ฟิล์มเซรามิค และมีโทนสีดำ ไม่เงา แต่เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อน จึงต้องคำนึงถึงการป้องกันความร้อนด้วย ฟิล์มที่กันร้อนได้ดีจะเป็นฟิล์มที่มีการสะท้อนแสงแดดออกไปจริง(Visible light reflected) ซึ่งเนื้อฟิล์มจะมีความเงากว่าฟิล์มดำ ฟิล์มทั่วไปในท้องตลาดมักจะโฆษณาว่าเป็นฟิล์มเซรามิคดำ และมีการเคลมเรื่องการป้องกันความร้อนสูง แต่โดยมากจะป้องกันความร้อนจริงได้ต่ำ ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ลูกค้าต้องระวังในการเลือกฟิล์ม ในส่วนไฮคูล สินค้าที่ตอบโจทย์เทรนการติดฟิล์มของเมืองไทย คือ รุ่น Black Carbon ที่ใช้สโลแกนว่า “ดำจริง เคลียร์จริง” สามารถกันความร้อนสูงสุด 75% และกันรังสีอินฟราเรดได้ถึง 80%
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th