มาตรฐานมลพิษใหม่ WLTP ส่งผลต่อการจำหน่ายรถปลั๊กอินไฮบริดจากหลายผู้ผลิต
ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายทั้ง Volkswagen, Mercedes-Benz และ Porsche ต้องหยุดการจำหน่ายรถปลั๊กอินไฮบริดบางรุ่นของตนในยุโรปเอาไว้ก่อนจากการที่สหภาพยุโรปใช้การตรวจสอบค่ามลพิษใหม่ซึ่งเริ่มต้นในเดือนนี้ เนื่องจากด้วยการตรวจสอบใหม่ WLTP หรือ Worldwide harmonized Light vehicle Test Procedure ทำให้ผลที่ได้ออกมาต่างจากขั้นตอนการตรวจสอบเดิม New European Driving Cycle หรือ NEDC ทั้งระยะทางที่ได้จากการชาร์จแบตเตอรี่ที่ลดลง และที่สำคัญคือทำให้ค่าการปล่อยมลพิษที่ได้ออกมาสูงกว่า 50 กรัมต่อกิโลเมตรจนทำให้สูญเสียประโยชน์ด้านภาษีที่มีต่อรถมลพิษต่ำในหลายประเทศ
Matthias Schmidt นักวิเคราะห์ด้านยานยนต์ของ AID (Automotive Industry Data) ระบุว่า ในเยอรมนีรถปลั๊กอินไฮบริดหลายรุ่นต้องหลุดจากหมวดของรถที่อยู่ในระดับได้รับสนับสนุนเงิน 3,000 ยูโร และในหลายรุ่นผู้ผลิตรถยนต์จะต้องติดตั้งแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นกับรถยนต์แม้ว่าจะทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นจะส่งผลต่อกำไรก็ตาม โดยทาง Volkswagen ได้หยุดการจำหน่ายรถซีดานขนาดกลาง Passat GTE ซึ่งเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดขายดีอันดับสองของยุโรปลงโดยที่ทางผู้ผลิตระบุว่ารถรุ่นนี้จะไม่กลับมาจำหน่ายอีกจนกระทั่งเดือนกรกฏาคมปีหน้าซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการอัพเดทรุ่นนี้ และนอกจาก Passat GTE แล้ว Golf GTE รถปั๊กอินไฮบริดขายดีอันดับสี่ในยุโรปก็ถูกยุติการจำหน่ายด้วยเช่นกันโดยที่ยังไม่มีการระบุถึงช่วงเวลาที่จะกลับมาจำหน่ายอีก ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ทาง Volkswagen ระบุว่ารุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ไม่ผ่านมาตรฐานจากการทดสอบ WLTP เป็นรถที่ได้รับความนิยมในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลมากกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือเตรียมการผลิตรุ่นเหล่านี้ใหม่มากขึ้น
ขณะที่ Porsche ก็ได้มีการดึงการจำหน่าย Panamera และ Cayenne ปลั๊กอินไฮบริดโดยระบุว่า “เราจะไม่เริ่มรับออเดอร์สั่งซื้ออีกจนกว่าจะมีการผลิตรถอีกครั้ง และยังไม่มีการยืนยันถึงเวลานั้น” โดย AID ระบุว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของ Porsche Panamera ที่ขายในยุโรปเป็นรุ่นปลั๊กอินไฮบริด
สำหรับ Mercedes-Benz ไม่มีรุ่นปลั๊กอินไฮบริดให้จองแต่จะเริ่มขายอีกครั้งอีกสองเดือนข้างหน้าโดยเริ่มจาก S-Class, E-Class ขณะที่ C-Class จะมีในปีหน้า
ในส่วนของ BMW ได้มีการทำงานกับรุ่นปลั๊กอินไฮบริดเพื่อแก้ปัญหาเรื่อง WLTP โดยผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีรายนี้ระบุว่า 530e ซีดานที่จำหน่ายมีการปล่อยมลพิษน้อยกว่า 50 กรัม/กม. ขณะที่ BMW 225xe Active Tourer ก็ยังจำหน่ายอยู่แต่มีค่าการปล่อย CO2 57 กรัม/กม. ซึ่งสูงกว่าที่กำหนด ขณะที่ X5 xDrive 45e ปลั๊กอินไฮบริดที่จะมาในปีหน้าขยายขนาดแบตเตอรี่ขึ้นเพื่อให้เดินทางได้ 80 กม. ด้วยแบตเตอรี่อย่างเดียว และมีค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 49 กรัม/กม.
เรื่อง : กองบรรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th