New Normal มาตรฐานใหม่ที่อาจอยู่คู่ขนส่งสาธารณะไทยไปอีกนาน
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยจะลดลงจนมีการผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างสำหรับการใช้ชีวิตและการเดินทาง แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยาที่จะยับยั้งโคโรน่าไวรัสซึ่งป็นต้นเหตุของโควิด-19 ได้ ทำให้ New Normal ซึ่งเป็นวิถีชีวิตใหม่หลายๆ อย่างที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อที่มีการแนะนำออกมาก่อนหน้านี้ยังเป็นสิ่งที่ต้องทำกันต่อไป รวมไปถึง New Normal สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะด้วย และต่อไปนี้คือมาตรฐานใหม่ที่เกิดขึ้นมาหลังการระบาดของโควิด-19 เมื่อต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะประเภทต่างๆ ทั้งสำหรับผู้ขับรถ ผู้โดยสาร และตัวรถ ซึ่งอาจอยู่คู่กับระบบขนส่งสาธารณะไทยไปอีกนาน
คนขับรถ
– สำหรับคนขับรถโดยสารสาธารณะมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงาน คนขับที่ป่วย มีอาการไข้ ไอ จาม ห้ามขับรถเด็ดขาด
ส่วนคนขับรถแท๊กซี่ถ้ามีอาการไข้ ไอ จาม ห้ามขับรถเด็ดขาด และควรกักตัวอยู่บ้านเพื่อสังเกตอาการ
-สวนหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าระหว่างให้บริการ รวมทั้งควรล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
-ผู้ขับรถสามารถปฏิเสธผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากได้ รวมทั้งผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาในกรณีที่เดินทางข้ามจังหวัด
ผู้โดยสาร
-สวมหน้ากากตลอดเวลาระหว่างเดินทาง
-ในรถโดยสารสาธารณะควรนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร สำหรับการเดินทางโดยรถแท๊กซี่ควรนั่งที่เบาะหลังเพื่อเว้นระยะห่างจากผู้ขับ
-ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
-ควรงดคุยโทรศัพท์
-กรณีเดินทางข้ามจังหวัดมีการวัดอุณหภูมิก่อนขึ้นรถ ตอบคำถามสุขภาพ (แบบ ต.8-คค) ระบุชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลที่ติดต่อได้ รวมทั้งกักตัว 14 วันเมื่อถึงจังหวัดที่หมาย
ตัวรถ
-จัดที่นั่งหรือยืนเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตรตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมสำหรับรถโดยสารสาธาณะ
-จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ประจำรถสำหรับทำความสะอาดรถทุกครั้งก่อนและหลังให้บริการในบริเวณที่มีผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ
-เมื่อหยุดพักรถ ให้เปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศภายในรถ
-สำหรับกรณีให้บริการผู้โดยสารที่มีการไอ จาม หรือไม่สบาย ระหว่างการเดินทาง ควรเช็ดทำความสะอาดภายในตัวรถ
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th