ขับมาสด้าสกายแอคทีฟ CX-3 ตะลุยรัสเซีย
การออกเดินทางท่องเที่ยว คือการเรียนรู้ และประสบการณ์ที่เราหาซื้อไม่ได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือการนั่งคลิ๊กดูในอินเตอร์เน็ต คุณต้องออกไปหามันด้วยตัวของคุณเองถึงจะได้พบกับประสบการณ์ต่างๆที่คุณไม่เคยได้สัมผัส แล้วคุณจะรู้ว่าโลกนี้มันช่างน่าออกเดินทางค้นหา และในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทริปที่ผมจัดกระเป๋าไปตื่นเต้นไป เพราะการออกเดินทางในครั้งนี้เป็นประเทศที่ผมฝันอยากไปมานานมาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาศได้ไป นั้นคือประเทศรัสเซีย
ในทริปนี้ผมออกเดินทางไปกับมาสด้า ประเทศไทย เป็นทริปต่อยอดจากเมื่อปีที่แล้วที่ทาง มาสด้าจัดคาราวาน ทดสอบกระบะพันธุ์แกร่งอย่าง BT -50 กับเส้นทางสุดท้าทาย จากเมืองปักกิ่ง มุ่งหน้าสู่อุลานบาตาร์ ประเทศมองโกเลีย ที่ต้องวิ่งผ่านทะเลทรายโกบี และทุ่งหญ้ามองโกเลีย เป็นเส้นทางที่อันแสนทรหด ด้วยระยะทางไป-กลับ กว่า 20,000 กิโลเมตร เจ้ากระบะสุดแกร่ง BT-50 ก็ผ่านไปได้แบบสบายๆ และในทริปนี้ราจะออกเดินทางไปกับมาสด้าอีกครั้ง เพื่อเดินทางสานต่อในจบโดยในทริปนี้จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะบินไปขับที่ อุลานบาตาร์ ประเทศมองโกเลีย มุ่งหน้าสู่ ไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ผมเป็นกลุ่มที่ 2 ไปรับไม้ต่อจากเพื่อนๆที่เมือง Novosibirsk ในเขตไซบีเรียจากนั้นก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายที่ Moscow โดยยานพาหนะของเราในครั้งนี้ไม่ใช่กระบะ BT-50 แต่เป็น มาสด้าสกายแอคทีฟ CX-3 และ CX-5 รถยนต์ครอสโอเวอร์สุดเท่ห์ของมาสด้า
เราเริ่มออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ของวันที่วันที่ 10 โดยสายการบิน Aeroflot ซึ่งเป็นครั้งแรกของผมกับสายการบินนี้ ไอ้เราก็หวังมาแอร์จะสวย เพราะประเทศรัสเซียขึ้นชื่อมากเรื่องผู้หญิงสวยดูจากนักกีฬาที่มาแข่งตามรายการแข่งขันกีฬาใหญ่ แต่พอขึ้นมาบนเครื่อง โอ้ไม่นะ !! ทำไมช่างเหมือนการบินไทยเช่นนี้ แอร์สูงอายุทั้งนั้นเลยรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไปถูก เหมือนมีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล แถวที่นั่งจะเป็น 2-4-2 ผมได้นั่งแถวกลางริมทางเดินสบายหน่อยออกไปเข้าห้องน้ำง่าย เพราะเราต้องนั่งอยู่บนเครื่องเกือบ 10 ชั่วโมง เครื่องขึ้นได้ซักพักก่อนมีน้ำมาให้ดื่มกันก่อน อ่อ ลืมบอก ตรงหน้าที่นั่งมีจอสามารถดูหนัง เล่นเกมส์ได้ตามสบาย แต่ไม่มีภาษาไทยนะครับ ใกล้เวลาเที่ยงอาหารกลางวันเรามาแล้ว มีให้เลือกไก่ กับ ปลา แอบมองของเพื่อนร่วมทริปที่เลือกไก่ มันเป็นครีมสีขาวกับเส้นพลาสต้า ผมเลยจัดปลามาเลยครับ เปิดออกมาก็เป็นครีมสีขาวเหมือนกัน รสชาติพอกินได้ครับไม่แย่มาก แต่พอดีได้น้ำพริกจากพี่ข้างๆจัดมาให้เลยไม่เลี่ยนมากกินหมดเกลี้ยงเลยจร้า
หลังจากบินมาเกือบ 10 ชั่วโมงพวกเราทั้งหมดก็เดินทางมาถึงกรุง Moscow เข้าประเทศง่ายแสนง่ายครับ เพราะคนไทยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าได้เลย ใบ ตม.ก็ไม่ต้องเขียน เราออกเดินทางจากกรุงเทพตอน 10 โมงเช้ามาถึง Moscow ประมาณ 5 โมงเย็น เพราะเวลาที่ Moscow ช้ากว่าบ้านเรา 5 ชั่วโมงเพราะMoscow อยู่ในเขตของยุโรป เรามีเวลาเดินเล่นในสนามบินแบบเหลือๆเพราะต้องรอต่อเครื่องอีก 6 ชั่งโมงเลยเล่นสัมผัสอากาศหนาว กินข้าวกันจนหน่ำใจ ก่อนที่จะออกเดินทางอีกที่ตอน 3 ทุ่มครึ่งใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 4 ชั่วโมงมาลงที่เมือง Novosibirsk ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเขตไซบีเรีย
เรามาถึงตอนประมาณตี 5 เพราะที่เมืองนี้อยู่ในเขตของเอเซีย แม่เจ้าบินมาจากกรุงเทพยังไม่เคยเจอกลางคืนเลย เหมือนบินหาแสงอาทิตย์ตลอดเวลา มาถึงโรงแรมประมาณ 7 โมงเช้า เช้าอีกแล้วเมือง Novosibirsk ก็ตอนรับเราด้วยหิมะเลยทันที ทางมาสด้าเลยให้เรานอนพักผ่อนกันก่อน และนัดเจอกันตอนเที่ยง เพื่อออกไปทานอาหารกลางวันกัน
ทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้ เพราะอาหารกลางวันวันนี้เป็นอาหารท้องถิ่นไซบีเรียที่หาทานยากมาก นั้นก็คือกวางเรนเดียร์ และผลไม้ชื่อไทก้าที่มีเฉพาะที่ไซบีเรียเท่านั้น หลังจากนั้นเราออกเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆของเมือง Novosibirsk กันหลักๆก็จะเกี่ยวกับรถไฟ เพราะไซบีเรียขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางรถไฟที่สวยและยาวที่สุด ทรานไซบีเรีย เรากลับมาถึงโรงแรมที่พักประมาณ 5 โมงเย็นพอดีกับที่กลุ่มแรกเดินทางผ่านพายุหิมะ มาถึงที่โรงแรม เพื่อส่งไม้ต่อให้กลุ่มเราเพื่อในวันรุ่งขึ้น
กลุ่มของเราจะออกเดินทางขับรถไปยังกรุงMoscow ตรงนี้มีทีเด็ดครับเพราะเราขับผ่านไปในแต่ละเมืองเวลาก็จะลดลงไปเรื่อยๆแหมม งง กับเวลามากครับตอนนี้พูดเลย เส้นทางข้างหน้าที่เราขับผ่านในแต่ละเมืองมันจะสวยงาม และเหน็บหนาวขนาดไหน เราจะเจอพายุหิมะ หรือสภาพอากาศที่ติดลบลงเรื่อยๆหรือไม่ ประเทศรัสซียจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาดนะครับในวันพรุ่งนี้ผมจะเก็บภาพ เละเรื่องราวความสนุกสานระหว่างการเดินทางกับประสบการณ์สุดขั่วโลก กับคาราวาน Mazda Skyactiv Crossover Only the sky is the limit มาฝากกันคอยติดตามและออกเดินทางไปพร้อมกันนะครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th