มิชลิน เปิดตัวยางใหม่ ‘Primacy 4’ นุ่มเงียบ ใช้งานยาวนาน
มิชลิน ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก พลิกโฉมตลาดยางรถยนต์ในไทยด้วยการเปิดตัว ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ (MICHELIN Primacy 4) ผลิตภัณฑ์ยางรุ่นล่าสุดในตระกูล ‘ไพรมาซี่’ ที่รังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “อายุยางเปลี่ยน ความมั่นใจไม่เคยเปลี่ยน”1 (Safe When New, Safe When Worn) ซึ่งตอกย้ำคุณสมบัติเด่นในสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมทั้งตอนใหม่และใกล้หมดดอก2 อีกทั้งยางรุ่นนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของยางนุ่มเงียบ3 ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายอย่างแท้จริง
นายเอกชัย คหการบำรุง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C กล่าวว่า “สมรรถนะของยางรถยนต์ในการเบรกและการเกาะถนน โดยเฉพาะบนถนนเปียก มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัย ทุกวันนี้ผู้บริโภคชาวไทยเลือกใช้ยางรถยนต์โดยพิจารณาจากคุณสมบัติของยางใหม่แต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่สามารถรู้ถึงสมรรถนะของยางหลังจากใช้งานไปแล้วว่าจะเป็นอย่างไร แต่มิชลินก้าวไปอีกขั้นด้วยการมุ่งมั่นพิสูจน์ให้เห็นว่ายางของเราให้ความปลอดภัยยาวนานแม้จะผ่านการใช้งานจนใกล้หมดดอกก็ตาม”
มิชลินได้มอบหมายให้ บริษัท ทียูวี ไรน์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการทดสอบระยะเบรกของยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ บนถนนเปียก เปรียบเทียบกับยางชั้นนำแบรนด์อื่น ทั้งยางใหม่และยางใกล้หมดดอก2 ผลลัพธ์ที่ได้น่าประทับใจมาก นั่นคือ เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มยางใหม่ด้วยกัน ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ มีระยะเบรกสั้นกว่ายางแบรนด์อื่นๆ 2.5 เมตร4 และเมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มยางใกล้หมดดอก ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ มีระยะเบรกสั้นกว่ายางแบรนด์อื่นๆ ถึง 5.1 เมตร5 ยิ่งกว่านั้นยังพบว่าเมื่อเทียบกับยางใหม่ของแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ ที่ใกล้หมดดอกมีระยะเบรกสั้นกว่ายางใหม่ของแบรนด์อื่นๆ ถึง 1.8 เมตร หรืออาจกล่าวได้ว่า ยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ ที่ใกล้หมดดอกให้ความปลอดภัยมากกว่า
ยางใหม่บางรุ่นของแบรนด์อื่นๆ1
ยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ มาพร้อม 2 เทคโนโลยีล้ำหน้าล่าสุดเอกสิทธิ์เฉพาะมิชลินที่ใช้เวลาออกแบบพัฒนานานถึง 3 ปี ได้แก่ เทคโนโลยี EverGrip™ ที่ประกอบด้วย ร่องรีดน้ำแบบใหม่ ที่ออกแบบให้มีพื้นที่ในการรีดน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ทั้งเมื่อยางใหม่และใกล้หมดดอก เมื่อเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้า เพื่อให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนเปียกที่ดีเยี่ยมและปลอดภัยแม้เมื่อยางผ่านการใช้งานมานานจนใกล้หมดดอก และ สูตรผสมเนื้อยางนวัตกรรมล่าสุด ที่ทำให้การยึดเกาะของซิลิก้ากับโพลิเมอร์เข้ากันได้ดีและสม่ำเสมอมากขึ้น ส่งผลให้มีศักยภาพในการยึดเกาะถนนเปียกที่ดีขึ้น…แม้เมื่อยางผ่านการใช้งานจนใกล้หมดดอก
และเทคโนโลยี Silent Rib รุ่นสอง ที่ช่วยลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้าไปภายในห้องโดยสารด้วยแถบเนื้อยางเสริมระหว่างบล็อกดอกยางแบบเต็มหน้ายาง (Inter-Locking Bands) ซึ่งไม่เพียงช่วยลดเสียงที่เกิดจากการบีบอัดอากาศภายในช่องว่างของบล็อกดอกยาง แต่ยังช่วยให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น จึงให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สบายตลอดการเดินทาง
ในประเทศไทย ยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ จะเริ่มวางตลาดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ศกนี้เป็นต้นไป โดยมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 31 ขนาด (ขอบ 15-19 นิ้ว) ซึ่งครอบคลุมการใช้งานร่วมกับรถยนต์ชั้นนำหลายรุ่น อาทิ โตโยต้า แคมรี่ (Toyota Camry), ฮอนด้า แอคคอร์ด (Honda Accord), บีเอ็มดับบลิว ซีรี่ส์ 3 และซีรี่ส์ 5 (BMW 3 and 5 Series), เมอร์เซเดส อี-คลาส และ ซี-คลาส (Mercedes E and C Classes) และรถยนต์รุ่นอื่นๆ อีกมากที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายขณะขับขี่ ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ ได้ที่เครือข่ายศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ‘ไทร์พลัส’ และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของมิชลินทั่วประเทศ คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th
หมายเหตุ
1 จากผลการทดสอบระยะเบรกซึ่งวิ่งทดสอบในสวนนงนุช จังหวัดชลบุรี บนพื้นถนนเปียกและแห้งที่อุณหภูมิ 27-32 °C เมื่อเดือนมกราคมและพฤษภาคม 2561 โดยติดตั้งยางมิชลินไพรมาซี่ 4 ขนาด 255/50R17 สี่เส้นใหม่บนรถทดสอบยี่ห้อฮอนด้ารุ่นแอ็คคอร์ดซึ่งขับขี่ด้วยความเร็ว 0 – 80 กม/ชม เปรียบเทียบกับยางมิชลินไพรมาซี่ 4 รุ่นเดียวกันที่ใกล้หมดดอก
2 คำว่า “ใกล้หมดดอก” ในที่นี้หมายถึง ยางที่มีความลึกร่องดอกยางเหลือ 2 มิลลิเมตร
3 จากผลการทดสอบเสียงภายในห้องโดยสารรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว 50 – 70 กม/ชม และผลการประเมินความนุ่มสบายที่ความเร็ว 30-50 กม/ชม ดำเนินการทดสอบโดย บริษัท ทียูวี ไรน์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามคำขอของมิชลิน
4 จากผลการทดสอบระยะเบรกตามเงื่อนไขในข้อ 1) เปรียบเทียบระหว่างยางใหม่ของมิชลิน ไพรมาซี่ 4 และยางใหม่ของคู่แข่งชั้นนำ
5 จากผลการทดสอบระยะเบรกตามเงื่อนไขในข้อ 1) เปรียบเทียบระหว่างยางมิชลิน ไพรมาซี่ 4 ใกล้หมดดอกกับยางของคู่แข่งชั้นนำในสภาพเดียวกัน
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th