มีโอกาสไหมกับเอสยูวี 7 ที่นั่ง MG Gloster ในเมืองไทย
ในบ้านเรา MG ทำตลาดรถเอสยูวี 2 เซ็กเม้นต์คือขนาดซัพคอมแพกต์กับรุ่น ZS, ZS EV และขนาดคอมแพกต์ด้วยรุ่น HS แต่ในอินเดียผู้ผลิตรถยนต์รายนี้มีการเปิดตัวและรับจองรถเอสยูวีฟูลไซส์ 7 ที่นั่งรุ่น Gloster ไปเมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา พร้อมกับการชูจุดเด่นว่าเป็นรถเอสยูวีหรู อัดด้วยเทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้งเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในอินเดียที่มาพร้อมกับระบบขับขี่อัตโนมัติเลเวล 1 ลองมาดูถึงรายละเอียดต่างๆ ของรถเอสยูวีรุ่นนี้จาก MG ว่าทำไมหลายคนจึงคิดว่าน่าจะเข้ามาทำตลาดในไทยบ้าง
รายละเอียดแรกเกี่ยวกับ MG Gloster คือนี่เป็นอีกรุ่นที่ MG นำเอารถจากผู้ผลิตในเครือ SAIC เดียวกันมาติดแบรนด์ของตนขายโดยมีการเปลี่ยนรายละเอียดบนตัวรถเพียงเล็กน้อย ซึ่งคราวนี้เป็นนำเอา Maxus D90 ที่ขายอยู่ในจีน มาติดแบรนด์ MG พร้อมกับใช้ชื่อ Gloster เพื่อทำตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่งที่มีคู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner, Ford Endeavour, Mahindra Alturas ในอินเดีย
MG Gloster มาพร้อมกับความยาว 4,985 มม. กว้าง 1,926 มม. สูง 1,867 มม. และมีความยาวของระยะฐานล้อ 2,950 มม. ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่มี 2 ทางเลือกคือเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรกำลัง 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตรพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ กำลัง 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร พร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และมีโหมดการขับต่างๆ ให้เลือกสำหรับการลุยเส้นทางออฟโรด ส่วนการส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัตื 8 สปีดเหมือนกันทั้ง 2 เครื่องยนต์
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่มาพร้อมกับ Gloster เรียกได้ว่าครบครันสำหรับการระบุว่าเป็นรถเอสยูวีหรูไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED พร้อมปรับไฟสูงอัตโนมัติ และไฟ LED Daytime Running Light, ไฟท้าย LED, ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง นอกจากนี้ทาง MG ยังอัดการทำงานช่วยขับและเพื่อความปลอดภัยต่างๆ มาให้ในรถเอสยูวีฟูลไซส์ของตนอย่าง ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ ระบบตรวจจับลมยาง เซ็นเซอร์ที่ปัดน้ำฝน ระบบเตือนผู้ขับเมื่อเกิดอาการอ่อนล้า ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่ออาจเกิดการชนด้านหน้า ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน รวมทั้งมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอแดปทีฟ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นครั้งแรกในรถเอสยูวีฟูลไซส์ 7 ที่นั่งที่ขายในอินเดีย
แม้ว่าทาง MG จะชูจุดขายของ Gloster ว่าเป็นรถเอสยูวี 7 ที่นั่ง แต่ก็มีรูปแบบเบาะ 6 ที่นั่งมาเป็นทางเลือกด้วย ซึ่งจะมาพร้อมกับเบาะแถวที่ 2 ในแบบ Captain Seat เหมือนที่มักมีในรถยนต์หรู ส่วนวัสดุที่ใช้กับภายในห้องโดยสารในส่วนของแผงแดชบอร์ดและแผงประตูถูกระบุว่าเป็นหนังพรีเมียมและวัสดุที่มีสัมผัสนุ่ม โดยมีจอระบบ Infotainment ขนาด 31.2 ซม. พร้อม Android Auto และ Apple CarPlay และระบบชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายให้ใช้ ในขณะที่ประตูท้ายรถเปิดได้ด้วย Kick Open
หากใครเห็นสเปกแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ คงต้องรอลุ้นกันว่าทาง MG จะสนใจนำ Gloster มาทำตลาดรถเอสยูวีขนาดใหญ่ 7 ที่นั่งในบ้านเราบ้างหรือไม่
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th