#มีไว้แต่อย่าใช้ผิด เอาน้ำยาล้างจานหรือแชมพู ใส่ถัง น้ำฉีดล้างกระจก ดีหรือพัง ???
การขับรถในหน้าฝนนี้ สิ่งหนึ่งที่เราห้ามลืมเลย ก็คือ “น้ำฉีดล้างกระจก” บางคนก็อาจจะคิดว่า ฝนตกมามันก็ช่วยล้างสิ่งสกปรกบนกระจก แค่เปิดปัดน้ำฝนก็สะอาดแล้วนี่ ก็จริงอยู่นะครับ แต่ถ้าไปเจอกรณีที่ “ฝนตกหยุมหยิม” หรือ “หยุดตกไปแล้วแต่ถนนยังเปียก” อันนี้แหละ “นรก” ของจริง เพราะรถคันหน้าจะดีดน้ำสกปรกบนถนนขึ้นมาบนกระจกหน้ารถเราเต็มไปหมด แต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามีน้อย หรือ ไม่มีแล้ว ปัดน้ำฝนก็ปัดไม่หมด เกิดเป็นคราบที่บดบังทัศนวิสัยให้แย่ลงไปอีก และ “ทำให้กระจกหน้าเป็นรอยกับใบปัดน้ำฝนเสียหายได้” (คุณลองเอามือลูบใบปัดน้ำฝนที่สกปรกดู มันจะเป็นฝุ่นสากๆ ดำๆ ติดมือนั่นแหละครับ)
พระเอกที่จะมาช่วยในงานนี้ ก็คือ “น้ำฉีดล้างกระจก” ปกติรถยนต์ “ต้องมีมาให้” อยู่แล้ว เพียงแต่คุณ “อย่าลืมเติมน้ำ” ก็แล้วกัน (บางคนก็กระไรนะ กดน้ำจนหมดแล้วไม่ยอมเติมด้วย) ซึ่งถ้าจะให้สะอาดใสปิ๊งฟรุ๊งฟริ๊งมากขึ้น ก็จะมี “น้ำยาเฉพาะทางสำหรับใส่ถังฉีดน้ำกระจกรถยนต์” ขาย แต่หลายคนก็ “เอาสะดวก” ไว้ก่อน ก็เอาน้ำยาอื่นๆ โดยหลักก็ “แชมพู” หรือ “น้ำยาล้างจาน” ผสมลงไปด้วย มันชะล้างได้จริงครับ แต่ว่า…มันจะมีสิ่งที่ตามมา แบบที่ทำให้ “หัวจะปวด” ทีหลังได้เลยเชียว มันคือเหตุใดกัน ???
LPG ประหยัดจริง หรือ “ปะจระเข้” อ่านต่อได้คลิ๊ก!!
ไม่แนะนำ เพราะ “พัง” ลามไปถึงสีรถ !!!
พวก แชมพู, น้ำยาล้างจาน, สบู่เหลว ฯลฯ เหล่านี้จะมีความ “เข้มข้น” ในการชะล้างค่อนข้างสูง มันจะหนืดๆ ใช่ไหม ถ้าบีบลงไปเพียวๆ จะจับตัวเป็นไข หรือ เป็นก้อน จะทำให้ “ระบบฉีดน้ำอุดตัน” ได้ แม้ว่าจะตีผสมน้ำจนเข้ากันแล้วค่อยเติมลงไป ท้ายสุด มันก็จับตัวได้อยู่ดี น้ำยาพวกนี้ “ใช้แล้วต้องรีบล้างออก” ถ้าสงสัยลองทดสอบดู บีบทิ้งไว้มันก็จะจับตัวเป็นก้อน อีกอย่าง มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับรถยนต์ ที่ในห้องเครื่องมีความร้อน ยิ่งกว่านั้น พี่ๆ เล่น “ผงซักฟอก” ผสมลงไปเลย “โหดไป๊” ไอ้นี่แหละยิ่งทำร้ายระบบเลย ที่สำคัญ พวกนี้ถือเป็นสารชะล้าง มีโอกาสที่จะทำให้ “ซีลยางของมอเตอร์ฉีดน้ำ หรือ ชิ้นส่วนยางในระบบใดๆ เสียหายเร็วกว่าปกติ” ที่สำคัญ น้ำยาบางชนิด ถ้าทิ้งไว้เป็นคราบ ทำให้ “กัดสีรถยนต์” อีกด้วย ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เกิดปัญหาทันทีทันใด แต่ป้องกันไว้ไม่ดีกว่าหรือ…
ขับรถไฟฟ้าลุยฝน ปลอดภัยหรือไม่? อ่านต่อคลิ๊ก!!
ใช้ “เฉพาะทาง” ดีกว่าครับ
ก็อย่างที่บอกละครับ “มีไว้แต่อย่าใช้ผิด” ควรจะใช้ให้ถูกประเภท ตอนนี้น้ำยาเติมฉีดน้ำล้างกระจก ก็มีขายอยู่ดาษดื่นแล้ว ราคาก็ไม่ได้แพง แถมสั่งออนไลน์ได้ ไม่ต้องถ่อไปซื้อที่ร้านอะไหล่รถเหมือนแต่ก่อน ซึ่งน้ำยาพวกนี้จะใสๆ ชะล้างสิ่งสกปรกดี โดยเฉพาะพวก “ละอองน้ำมัน” ต่างๆ และไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่ทำอันตรายกับชิ้นส่วนที่เป็นยางและสีรถยนต์ ของแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน ส่วนใหญ่จะมี “สารเคลือบกระจก” เพื่อให้น้ำฝนไม่เกาะตัว (ซึ่งน้ำยาอื่นๆ ไม่มี) สำหรับการเติมลงไปนั้น ก็ขอให้ “อ่านฉลากคู่มือการใช้” ให้ดี (ส่วนใหญ่จะไม่อ่านกันเนอะ) จะต้อง “ใช้อัตราส่วนในการผสมกับน้ำ” เท่าไร ไม่ใช่ซื้อมาแล้วทะลึ่งเทพรวดไปทั้งขวดไม่ผสมน้ำเลยก็ไม่ได้นะ มันไม่ยากหรอกครับ ขอแค่อ่านและทำความเข้าใจกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ แล้วคุณจะใช้รถได้อย่างไร้ความกังวล…
ถ้าขี้เกียจ ใช้น้ำเปล่าเลยได้ไหม
หลายท่านก็อาจจะไม่ค่อยอะไรกับรถมากนัก ขี้เกียจซื้อน้ำยาใส่ จะใช้น้ำเปล่าอย่างเดียว “ได้สิครับ” อย่างน้อยมันก็ชะล้างได้ระดับหนึ่ง และไม่ทำอันตราย แต่ว่า น้ำที่ใช้เติม ก็ควรจะเป็น “น้ำสะอาด ไม่มีตะกอน” ก็น้ำประปาที่ใช้ๆ กันอยู่นี่แหละครับ แต่บางที่ที่น้ำประปาไม่ค่อยสะอาด มีตะกอนปนเปื้อน อันนี้ต้องระวังมันจะทำให้ระบบอุดตันได้ ก็เอา “น้ำดื่ม” นี่แหละครับ…
ท้ายสุด เติมน้ำยาเรียบร้อยแล้ว ก็ “หมั่นเช็คระดับน้ำฉีดล้างกระจก” ให้เป็นนิสัย น้ำยาอย่าให้ขาด ไม่เฉพาะแค่หน้าฝนเท่านั้นนะครับ เพราะหน้าอื่นกระจกก็สกปรกได้ จาก ฝุ่นละออง, ขี้นก, ยางต้นไม้ ฯลฯ ซึ่งเราก็ต้องพึ่งน้ำฉีดล้างกระจกอยู่ดี และถ้าเกิดว่า “รู (ฉีดน้ำ) ตัน” แสดงว่าท่าน “ไม่ขยันซอย” หรือไม่ตัน ก็ “ไม่จ๊วดเต็มที่” เอื่อยๆ เหมือน “หมดอารมณ์” ทางแก้ง่ายนิดเดียวครับ เอา “เข็มแยง” ในรู ปั่นๆ ซอยๆ หน่อย เพราะมันมีเศษตะกอนผงฝุ่นอุดตันอยู่ มันก็กลับมา “ปรี๊ดปร๊าด” เหมือนเดิม แล้วก็อย่าลืม “เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน” หากของเดิม “เริ่มหมดสภาพ” อย่าทนใช้ครับ จะส่องรูดูหมาก็ไม่ชัด จะพาลตำชาวบ้านชาวช่องเขาเอานะครับ…
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th