“รถจมน้ำ” ประกันรับเคลมไหม เจ้าของรถควรทำอย่างไร ?
ในช่วงฤดูฝนเป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพถนนเมืองไทยนั้นมักจะมี “น้ำรอระบาย” ในหลายพื้นที่ไม่เว้นแม้แต่เมืองหลวงส่งผลให้รถยนต์เสียหายเครื่องดับจากการลุยน้ำ และเมื่อยิ่งจอดแช่น้ำนานยิ่งส่งผลเสียต่อรถยนต์มากขึ้น หรือบางคนตื่นมาพบว่ารถยนต์จมน้ำไปแล้วในที่จอดรถย้ายไม่ทัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้ต้องกังวลว่าประกันภัยที่ทำไว้คุ้มครองหรือไม่ และต้องปฏิบัติอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถยนต์ของเรา Grand Prix Online ได้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นมาตอบข้อส่งสัย แบบเข้าใจง่ายไว้ให้แล้ว
ประกันประเภทไหนคุ้มครอง และไม่คุ้มครอง “รถยนต์จมน้ำ”
อย่างที่ทราบกันดี ประกันภัยชั้น 1 คุ้มครองเรื่องน้ำท่วม อุทกภัยอยู่แล้ว สบายใจได้ ยกเว้นกรณีน้ำท่วมรถยนต์ที่เกิดจากความประมาทของเจ้าของรถยนต์เอง ประเภท 2+และ 3+ สามารถซื้อแพคเกจเสริมได้ หรือบางเจ้าอาจมีความคุ้มครองตรงนี้มาให้ด้วย ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนซื้อ
ต้องทำอะไรบ้างเมื่อต้อง “เคลมประกัน” รถจมน้ำ
เมื่อพบว่ารถยนต์จมน้ำอย่างแรกที่อยากให้ทุกคนตั้งสติ บันทึกภาพทั้งหมด ทั้งสถานที่ รูปรถเราที่จมน้ำให้เห็นว่าระดับน้ำสูงเท่าไหน และถ้าเข้าไปถึงภายในรถยนต์ ควรบันทึกภาพความสูงของระดับน้ำ เช่น ถึงพื้นรถยนต์ ถึงคอนโซนหน้า เป็นต้น ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ประกันภัยในการเข้าพื้นที่ช่วยเหลือ สำรวจ ประเมินความเสียหาย บริษัทประกันต้องการหลักฐาน “ภาพถ่าย” ทั้งหมด และถ้ามีการคุยกันเบื้องต้นกับทางประกันภัยยิ่งย้ายรถไว้ที่แห้งได้เร็วเท่าไรความเสียหายจะน้อยลง ถ้าสามารถประสานรถยนต์สไตล์ หรือรถลากได้รวดเร็วกว่ารอประกันควรรีบจัดการ และแจ้งประกันให้รับทราบด้วยว่าเราจะรีบดำเนินการตรงนี้ หรือเกิดเหตุกรณีรถวิ่งไม่ได้ต้องขอให้ทางบริษัทประกันภัยส่งรถยกมาลากก็ได้
ราคากลางซ่อมอู่ “รถถูกน้ำท่วม”
ถ้าลองหาข้อมูลดูจะมีประกาศชัดเจนเรื่องนี้ว่าน้ำท่วมสูงระดับใด ABCDE มีราคาเพดานกำหนด เช่น พื้นรถยนต์ คอนโซลด้านล่าง หรือเหนือคอนโซล จนถึงเลยหลังคา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประกันภัยรถยนต์ดูแลให้หมด ไม่ต้องกังวลถ้าเกินส่วนตรงนี้ ซึ่งถ้าคุณเข้าอู่ในเครือของประกันที่ใช้อยู่ ไม่ค่อยมีปัญหารับดูแลจนจบควบคุมราคากันเอง ซ่อมช้าก็เรียกร้องค่าชดเชยได้ แต่ถ้าเป็นอู่นอก ต้องมีการเสนอราคา ระหว่างประกันกับอู่นอก ซึ่งกว่าจะประสานกันได้ต้องใช้เวลา แนะนำว่าเข้าอู่ในเครือดีที่สุด
อุปกรณ์ส่วนควบ “เคลม” ได้ไหม
เคลมได้ ถ้ามีการแจ้งบันทึกกับทางประกันไว้ทั้งหมด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์ที่เกิดความเสียหายจากน้ำท่วม และไม่ได้มีการแจ้งบันทึก อาทิ ระบบเครื่องเสียงที่ติดตั้งเพิ่มเติม หรือฟิล์มติดรถยนต์เกรดพรีเมี่ยม เป็นต้น ดังนั้นหมดห่วงได้ถ้ารถยนต์ไม่ได้ติดตั้งอะไรเพิ่ม เป็นอุปกรณ์สแตนดาร์ดทั้งหมด ประกันภัยรับผิดชอบความเสียหายให้
ของเหลวทั้งหมดเคลมได้ไหม
หลายคนบอกถ้าเกิดความเสียหายกับระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ต้องมีการถอดรื้อล้างเป่าแห้ง ของเหลวต่างๆ ประกันไม่คุ้มครอง แต่ความจริงแล้วต้องเคลมได้หมด ประกันภัยคุ้มครองดูแลถ้าเกิดจากน้ำท่วม ตามหลักการเหมือนกันกรณีอุบัติเหตุ ตามหลักกฎหมาย
กรณีไหนบ้างที่ประกันสามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้บ้าง
รู้ทั้งรู้ว่ามีประกาศพื้นที่น้ำท่วม หรือเห็นสภาพพื้นที่ชัดเจนว่าน้ำมีระดับสูงกว่าถนน แบบนี้ประกันสามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะมองว่า “กระทำการโดยเจตนา” ทั้งนี้ประกันภัยเองต้องมีหลักฐานชัดเจน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด หรือป้ายประกาศเตือนห้ามผ่าน เป็นต้น (ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ยกประโยชน์ให้)
ซื้อซาก คืนทุน ในกรณีใด
เมื่อถึงที่สุดแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นจากรถยนต์จมน้ำ มีราคาประเมินสูงถึง 70-80% ของราคารถยนต์ ณ ปัจจุบัน ประกันภัยจะพิจารณาคืนทุนประกัน หรือขายซาก
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ทุกคนควรทราบ ดังนั้นในการซื้อประกันภัยครั้งต่อไปถ้าคุณอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมบ่อย หรือเคยมีเหตุน้ำหลาก น้ำท่วมถนน ควรทำประกันที่มีความคุ้มครองเรื่องนี้ไว้ได้เลย แต่ถ้าเป็นประกันประเภทที่ 1 หมดกังวลไปได้เลย บางบริษัทประกัน 2+ มีความคุ้มครองตรงนี้ให้มาด้วย ทั้งนี้เรื่องของการซ่อมแต่ละอู่ส่วนใหญ่แล้วปัญหาคือความพอใจของผู้บริโภค ว่าซ่อมแล้วจะเหมือนเดิมหรือไม่
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th