รถยนต์ไฟฟ้า บุกงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
คงจะปฎิเสธไม่ได้เมื่อเวลาเปลี่ยนไปเทคโนโลยีใหม่ๆก็เข้ามาแทนของเก่า วงการยานยนต์ก็เช่นกันกระแสพลังงานทดแทนกำลังจะเข้ามาแทนที่เครื่องยต์เบนซิน และดีเซล แบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดเครื่องยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจน และที่กำลังมาแรงในตอนนี้คือรถยนต์เครื่องยนต์ไฟฟ้าหรือ รถยนต์ EV อย่างที่เราเคยได้ยินกัน แถมยังมีหลายค่ายรถยนต์ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต่างแข่งกันพัฒนาเครื่องยนต์ระบบไฟฟ้ากันมากมาย และแน่นอนภายในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นี้ก็เช่นกัน มีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาอวดโฉมกันมากมาย ทั้งรถยนต์ต้นแบบที่นำมากโชว์ก่อนวางขาย และรถยนต์ที่นำเข้ามาจำหน่ายแล้ว วันนี้เราจะมาดูรถยนต์ไฟฟ้า ภายในงานกันมาจะเด็ดจะสวยน่าขับขนาดไหน
FOMM ONE 599,900 บาท
เรามาเริ่มกันที่ ค่ายรถที่ชื่อว่า FOMM หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จัก แต่ค่ายนี้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมาหลายปีแล้ว โดยมีข่าวหลุดออกมาให้เห็นครั้งคราว และในงานมอเตอร์โชว์นี้ทางบริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด ผู้ผลิตยนต์ไฟฟ้า FOMM ได้จับมือมอบหมายให้ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่าย อย่างเป็นทางการ และปล่อยรถยนต์รุ่นแรกออกมาจำหน่ายในประเทศไทยโดยใช้ชื่อว่า FOMM ONE โดยเปิดที่ 664,000 บาท และมีราคาพิเศษสำหรับ 2,000 คันแรกเหลือเพียง 599,900 บาท โดยคาดว่าลูกค้าจะได้รับรถภายในปีหน้า
Fomm One ต้นแนวคิดมาจากคนญี่ปุ่น และใช้เมืองไทยเป็นฐานในการพัฒนา และผลิต เป็นยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าขนาด 4 ที่นั่ง มาพร้อมมิติของตัวถังที่มีความยาว 2,585 มิลลิเมตร กว้าง 1,295 มิลลิเมตร และสูง 1,560 มิลลิเมตร ความกว้างของฐานล้อ 1,760 มิลลิเมตร ส่วนที่ต่ำที่สุดสูงจากพื้น 140 มิลลิเมตร น้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 445 กิโลกรัม และขยับขึ้นเป็น 630 เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ รองรับน้ำหนักรวมสูงสุดได้ 975 กิโลกรัม
ด้านระบบรองรับแรงกระแทกด้านหน้าเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ มาพร้อมล้อแม็กที่รัดด้วยยางขนาด 145/65R15 ทั้งล้อหน้าและหลัง มาพร้อมวงเลี้ยวแคบสุดที่ 3,800 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ ที่ 170-800 รอบ/นาที ซึ่งติดตั้งไว้ที่บริเวณล้อทั้ง 4
มาพร้อมแรงบิด 560 นิวตันเมตร ที่ 0-170 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 85 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยแบตเตอรี่ทั้ง 4 ลูกมาพร้อมความจุ 2.96 กิโลวัตต์ ซึ่งใช้เวลาชาร์จต่อครั้งราว 6 ชั่วโมง โดยผู้ผลิตได้เคลมไว้ว่าสามารถวิ่งได้ระยะทางทั้งสิ้น 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมีอัตราการบริโภคพลังงานที่ 14.8 กิโลเมตร/กิโลวัตต์
นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ ที่จะออกวางจำหน่ายหลังจากขาย FOMM ONE เป็นโมเดลที่สองโดยใช้ชื่อว่า FOMM AWD Sport Concept คือรถพลังงานไฟฟ้าแบบขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกะทัดรัด 2 ที่นั่ง ด้วยขนาดตัวถังมีความยาวอยู่ที่ 3,300 มิลลิเมตร กว้าง 1,490 มิลลิเมตร และสูงเพียง 1,255 มิลลิเมตร การออกแบบกระจังหน้าได้รับแรงบันดาลใจจากการแต่งหน้าแบบคาบูกิ เป็นรถแบบเปิดประทุน ดีไซน์สปอร์ต ทันสมัย ไฟหน้าเป็นแบบ LED ประตูเปิดข้างแบบกรรไกร เส้นสายดูเรียบง่ายลงตัว
ส่วนการตกแต่งภายในเลือกใช้วัสดุเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนแผงคอนโซลดูล้ำสมัยสวยงาม พวงมาลัยทรงสปอร์ตขนาดใหญ่ ด้านเบาะหนังผสมผสานกันระหว่างคาร์บอนไฟเบอร์และหนังแบบ Alcantara ดูล้ำสมัยมากขึ้นด้วยชุดจอแสดงผลดิจิทัลแบบไวด์สกรีน
ด้านของมอเตอร์ไฟฟ้า ผลิตกำลังรวม 27 แรงม้า (20 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,120 นิวตันเมตร (825 ปอนด์ฟุต) มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 4 ก้อน ซึ่งแต่ละรุ่นมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 2.96 กิโลวัตต์ โดยในการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร
และยังมีจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “FOMM” เปิดตัว Fomm AWD Scooter Concept ครั้งแรกในงานนี้ โดยเป็นรถจักรยานยนต์แบบ 2 ที่นั่ง ขนาดเล็กกระทัดรัด ด้วยความยาว 2,280 มิลลิเมตร ความกว้าง 780 มิลลิเมตร ความสูง 1,235 มิลลิเมตร กำลังไฟสูงสุด 7.5 กิโลวัตต์ ให้แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ขณะที่แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน จำนวน 2 ก้อน ใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟฟ้า 6 ชั่วโมง รถจักรยานยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อ แผงหน้าปัดเป็นดิจิตอล LCD
HYUNDAI IONIQ 1,749,000 บาท
ฮุนได ค่ายรถแดนกิมจิ อวดโฉม ไอออนิก ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลก ที่มีจำหน่ายในทั้ง 3 รูปแบบระบบขับเคลื่อน ได้แก่ ไฮบริด, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และอีวี ชูความเป็นรถยนต์ที่มีการคายมลพิษต่ำที่สุด หรือปราศจากมลพิษ ภายใต้การออกแบบที่มีความสวยงาม ทันสมัย ทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการขับขี่ การเชื่อมต่อ และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย
แต่ที่นำมาขายในไทยเป็นรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ดังนั้น กระจังหน้าจึงถูกออกแบบในลักษณะปิดทึบ เนื่องจากไม่ต้องใช้งานเพื่อการระบายความร้อนเครื่องยนต์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความพลิ้วไหว และสะอาดตา ด้วยสีเทาเข้ม ไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED บริเวณชายกันชนด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งชายประตูทั้ง 4 บาน ถูกตกแต่งด้วยสีทองแดง ที่สื่อถึงความเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเปิดราคาจำหน่ายที่ 1,749,000 บาท
ภายในถูกออกแบบโดยเน้นถึงความเป็นรถแห่งอนาคต ด้วยแนวคิด ‘Purified High-Tech’ ที่เน้นถึงความเรียบง่าย ลื่นไหล แต่มีความประณีต และใช้งานง่าย เน้นการใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่น้อยที่สุด มีผิวสัมผัสที่เรียบ ลื่น และให้ความรู้สึกสะอาดบริสุทธิ์ วัสดุภายใน จึงเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ
ขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่ให้พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า (88kW) แรงบิดสูงสุด 295 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อผ่านระบบเกียร์แบบ single-speed ที่สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ผ่านปุ่มกดบริเวณคอนโซลกลาง และสามารถพารถยนต์ไปที่ความเร็วสูงสุดที่ 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนนั้น เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน โพลิเมอร์ ใช้เวลาในการชาร์จไฟแบบปกติอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 25 นาที โดยแบตเตอรี่ติดตั้งอยู่ใต้ที่นั่งของผู้โดยสารตอนหลัง แต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นที่ที่สามารถบรรจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 650 ลิตร
BYD E6 1,890,000 บาท
ค่ายรถยนต์น้องใหม่และยังเป็นโปรดักต์ใหม่ที่มาพร้อมกับกระแสของรถไฟฟ้าที่กำลังร้อนแรง เมื่อทาง เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี และชาริช โฮลดิ้ง ใหม่ ตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ ชื่อ “ไรเซน เอนเนอร์ นำเข้าแบรนด์ “บีวายดี” (BYD) จากประเทศจีนมาทำตลาดในประเทศไทย
ไฮไลต์สำคัญคือ การเตรียมเปิดตัว BYD E6 ยานยนต์ไฟฟ้า 100% โดดเด่นที่ความสะดวกสบาย ประหยัด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง รถสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
BYD E6 วางราคาจำหน่าย 1,890,000 บาท เป็นรถอเนกประสงค์ 5 ประตู ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium Iron Phosphate ขนาดความจุ 80 กิโลวัตต์ ความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม.โดยมีการรับประกันมอเตอร์และเกียร์ 5 ปี /150,000 กม. และรับประกันแบตเตอรี่ระยะเวลาถึง 5 ปี /500,000 กม.
ทั้งนี้เป้าหมายในการลุยตลาดจะมุ่งไปที่การรองรับบริการรถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่ และรถเมล์ รวมถึงรถประเภทพิเศษอย่างรถลากกระเป๋าในสนามบิน และรถโฟล์คลิฟต์ที่ใช้ยกของในโกดัง ซึ่ง BYD มีรถยนต์ไฟฟ้าครบทุกรูปแบบดังที่กล่าวมา
MINE MOBILITY
EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย MINE Mobility โชว์พลังสมองและฝีมือคนไทย เชื่อมโยงธุรกิจพลังงาน เตรียมก้าวสู่ตลาดยานยนต์โดยเปิดตัว โชว์ศักยภาพผลิตรถต้นแบบ 3 รุ่นได้แก่ รุ่น City EV Concept รุ่น Sport EV Concept และรุ่น MPV EV- Concept เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ทุกวัย และเป็น Full EV ทั้ง 3 รุ่น ในงานมอเตอร์โชว์ ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ปลอดภัย ไร้มลพิษ และประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยม ตอบรับการใช้งานในหลายฟังก์ชั่น
รถยนต์ต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จากฝีมือการออกแบบและพัฒนาของทีม R&D ของบริษัทซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยทั้งสิ้น โดยได้มุ่งมั่นทำงานกันมาตั้งแต่ปี 2560 จนเป็นที่มั่นใจจนในปลายปี 2560 ได้จัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นในชื่อ บริษัท ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด (หรือ MINE Mobility Research Co., Ltd.) เพื่อทำการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าตลอดจนฟังก์ชั่นต่างๆ ให้สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้งาน ก่อนที่จะเริ่มผลิตและจำหน่าย MINE Mobility รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยของเครือ EA ให้ออกสู่ท้องตลาดในอนาคตต่อไป
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th