อัพเดตรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุดจากเวที Motor Expo 2021
ช่วง 1-2 เดือนนี้มีการเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า กันอย่างคึกคักในประเทศไทย หลังจากมีแนวโน้มว่าปีหน้าภาครัฐเตรียมปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ทั้งแบบพลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) และไฮบริด (Hybrid, Plug-in Hybrid) เพื่อกระตุ้นให้คนไทยหันมาขับรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle มากขึ้น ตามเป้าหมายที่จะให้รถยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนในปีพ.ศ. 2573 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% !!!
ทำให้งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38– Motor Expo 2021 ค่ายรถหรูฝั่งยุโรป, แบรนด์ลูกผสมอังกฤษ-จีน และผู้นำเข้าอิสระ—นำรถยนต์ไฟฟ้าใหม่มาเปิดตัวอย่างคึกคัก รวมถึงตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าเดิมที่มีอยู่จัดการเติมออปชั่น และจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดคนจากรถยนต์น้ำมันให้เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV กันมากขึ้น
The new EQS from Mercedes-EQ รถยนต์ไฟฟ้าประกอบไทยคันแรก!
หลังจากอัดอั้นกับเอสยูวีไฟฟ้า EQC ในที่สุดเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้ผลิตรถหรูสัญชาติเยอรมัน สามารถนำ Mercedes-EQ ซับแบรนด์ของพวกเขาเข้ามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเตรียมขึ้นไลน์ประกอบในประเทศไทยเพื่อผลิตขายจริงภายในปี 2022
ในตอนนี้ค่ายดาวสามแฉกยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ด้วยเงื่อนไขของออปชั่นที่อาจจะแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ จากรถยนต์ที่นำเข้ามาจัดแสดงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 และอัตราภาษีของรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจมีการปรับลดในปีหน้า
แต่ข้อมูลอย่างเป็นทางการที่ส่งออกมา คนไทยจะได้ประเดิมขับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก Mercedes-EQ จะเป็น The new EQS 450+ AMG Premium ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 107.8 kWh ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวส่งพลังสูงสุด 333 แรงม้า และแรงบิด 568 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. โดยมีระยะทางการขับสูงสุด 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง ตามมาตรฐานทดสอบ WLTP
ที่สำคัญถึงตอนนี้ถึงจะยังไม่รู้ราคา แต่ดีลเลอร์เมอร์เซเดส ที่ได้รับแต่งตั้งให้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-EQ มีการรับจองสิทธิ์ล่วงหน้าจากลูกค้าไปบ้างแล้ว โดยทีมงาน Grand Prix Online เชื่อว่าด้วยการที่มีรหัส S ต่อท้าย ราคาของ The new EQS 450+ AMG Premium น่าจะอยู่ระดับ 7.2-7.3 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความรู้สึกแตกต่างจาก Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium ที่เพิ่งเปิดตัวในราคา 7.19 ล้านบาท ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 และหลังจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกเข้ามาประกอบได้สำเร็จเชื่อว่ากลุ่มซับคอมแพ็กต์เอสยูวีไฟฟ้าของพวกเขาทั้ง EQA และ EQB จะตามมาเร็วๆนี้ ในราคาที่จับต้องได้มากกว่าแน่นอน
MG Cyberster จับคอนเซ็ปต์มาผลิตขายจริง!!!
ค่ายนี้เรียกว่ามีเซอร์ไพรส์มาให้ลูกค้าชาวไทยได้ตลอด MG ตั้งแต่ รถยนต์ไฟฟ้า คันแรกของพวกเขา ZS EV ที่ทำราคาลงมาอยู่ที่ 1.19 ล้านบาท จนทำให้ Nissan LEAF ที่เปิดตัวก่อนหน้านั้นไม่นาน แทบจะถูกลืมไปเลย
และบนเวทีของ MG ในงาน Motor Expo 2021 พวกเขาไม่เพียงจะนำ MG Cyberster รถสปอร์ตต้นแบบพลังงานไฟฟ้ามาโชว์ดีไซน์ และเทคโนโลยีในอนาคตเท่านั้น แต่มีการใช้กลยุทธ์สไตล์สตาร์ท-อัพ เปิดแคมเปญ “MG Cyberster Prestige Reservation” ให้ลูกค้าชาวไทยจองสิทธิ์ซื้อล่วงหน้า เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคอนเซ็ปต์คาร์รุ่นนี้ และรับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมพิเศษในอนาคต ซึ่งการจองสิทธิ์จะแบ่งเป็นระดับตามจำนวนเงินจอง ก่อนที่ MG Cyberster (Thailand Edition) จะเข้าสู่สายการผลิต และเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปี พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023)
รายละเอียดแคมเปญ “MG Cyberster Prestige Reservation” แบ่งเป็น:
• Silver Package ราคา 5,000 บาท แลกรับส่วนลดได้ถึง 50,000 บาท
• Gold Package ราคา 10,000 บาท แลกรับส่วนลดได้ถึง 100,000 บาท
ในขณะที่ MG ZS EV ที่เป็นเหมือนแฟล็กชิพในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของพวกเขา กระแสอาจจะตกลงเพราะมีข่าวว่ารุ่นไมเนอร์เชนจ์เตรียมเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า ทำให้ MG หันไปกระตุ้นยอดขายให้สเตชั่นแวกอนไฟฟ้า MG EP ด้วยการเพิ่มรุ่นย่อย PLUS ที่ราคาปรับเพิ่มเป็น 998,000 บาท (+10,000 บาทจากรุ่นเริ่มต้น) โดยใส่ออปชั่นชุดราวหลังคา Roof Rail, ระบบกรองอากาศ PM 2.5 และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้าเข้ามาเพิ่ม
POCCO ตัวเลือกใหม่ราคาน่าร๊ากกกก 3.99 แสนบาท
อีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ 2021 POCCO (ป๊อคโค่) รถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กของ Yogomo Group กลุ่มนักพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารายแรกๆ ของประเทศจีน โดย BRG GROUP ผู้นำเข้ารถยนต์ชั้นนำของบ้านเรานำเข้ามาจำหน่ายผ่าน POCCO (THAILAND) บริษัทในเครือที่ตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อถือสิทธิ์เป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องบริการหลังการขาย
ในเรื่องสมรรถนะการขับขี่คงจะตอบยากหน่อย เพราะยังไม่มีโอกาสได้ทดลองขับ แต่เท่าที่เห็นต้องบอกว่า POCCO ดีไซน์เพื่อเจาะกลุ่มคน Gen Z เป็นหลัก ด้วยหน้าตาที่ทันสมัย, มีความน่ารักสไตล์ Kei Car ของญี่ปุ่น และไซส์ที่ตัวถังกว้างแค่ 1.5 เมตรเท่านั้น โดยจะมีรุ่น MM ตัวถัง 3 ประตู และรุ่น DD ตัวถัง 5 ประตู โดยจะแบ่งรุ่นย่อยออกเป็น
• POCCO MM YX (ราคา 399,000 บาท)
– แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 9.2 kWh
– ระยะทางวิ่งสูงสุด 116 กม.
– ชาร์จด้วยไฟบ้านจาก 0-100% ในเวลา 6-8 ชั่วโมง
• POCCO MM ZX (ราคา 469,000 บาท)
– แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 14.0 kWh
– ระยะทางวิ่งสูงสุด 170 กม.
– ชาร์จด้วยไฟบ้านจาก 0-100% ในเวลา 6-8 ชั่วโมง
• POCCO DD L (ราคา 389,000 บาท)
– แบตเตอรีลิเธียมไอออน ความจุ 10.3 kWh
– ระยะทางวิ่งสูงสุด 128 กม.
– ชาร์จด้วยไฟบ้านจาก 0-100% ในเวลา 6-8 ชั่วโมง
• POCCO DD K (ราคา 449,000 บาท)
– แบตเตอรีลิเธียมไอออน ความจุ 14.5 kWh
– ระยะทางวิ่งสูงสุด 178 กม.
– ชาร์จด้วยไฟบ้านจาก 0-100% ในเวลา 6-8 ชั่วโมง
รถยนต์ไฟฟ้า BMW ขายหมด-ก่อนรถมาถึง!!!
เป็นอีกค่ายที่กระแสตอบรับรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างดี BMW เพิ่งจะมีโอกาสนำ 2 เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นแรกของพวกเขาเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน แต่ความจริงทั้ง iX xDrive50 Sport ที่มีโควตา 20 คัน และ iX3 M Sport (100 คัน) ถูกลูกค้ากดจองผ่านทางออนไลน์หมดเกลี้ยงทั้ง 2 รุ่นตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ทำให้ใครที่พร้อมจ่ายเงินเพื่อสัมผัสเทคโนโลยีไฟฟ้า #BEV ของค่ายนี้ต้องอดทนรอกันหน่อย
สำหรับรายละเอียดของ iX xDrive50 Sport (ราคา 5,999,000 บาท) จะติดตั้งเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า สร้างกำลังสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 765 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.6 วินาที ติดตั้งระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator Wheel Slip Limitation) ควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก โดยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กิโลเมตร
แบตเตอรี่แรงดันสูงใน iX xDrive50 Sport มีความจุพลังงานสุทธิ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง และความจุพลังงานรวม 111.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0-80% ในเวลาเพียง 39 นาที อีกทั้งยังเพิ่มระยะขับขี่ได้สูงสุดถึง 100 กิโลเมตร หลังชาร์จแบตเตอรี่ด้วยการชาร์จแบบ DC 50 กิโลวัตต์ เพียง 21 นาที
ขณะที่ BMW iX3 (ราคา 3,399,000 บาท) ใช้พื้นฐานจากคอมแพ็กต์เอสยูวียอดนิยมของพวกเขา ติดตั้งระบบขับเคลื่อนใหม่มีกำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ข้อมูลแบตเตอรี่มีความจุพลังงานรวม 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยสามารถนำมาใช้งานได้สูงสุด 74 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อขับเคลื่อนได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร (WLTP) และ 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
เทคโนโลยีระบบชาร์จใหม่ล่าสุดเติมพลังงานสู่แบตเตอรี่ 400 โวลต์ และแหล่งจ่ายไฟ 12 โวลต์แก่อุปกรณ์ต่างๆ ในรถ BMW iX3 หากใช้ไฟฟ้ากระแสสลับสามารถชาร์จด้วยระบบไฟแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และเมื่อชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรงจะรับพลังงานได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ และรองรับการชาร์จจาก 0-80 เปอร์เซ็นต์ในเวลา 34 นาที
ส่วนแบรนด์ร่วมเครือ MINI มีการนำรถรุ่นพิเศษ MINI Electric Pacesetter inspired by JCW รถเซฟตี้คาร์ไฟฟ้าที่เป็นการร่วมมือครั้งแรกระหว่างทีมออกแบบของ MINI และ BMW Motorsport เพื่อใช้ในการแข่งขัน Formula E เข้ามาสร้างสีสัน แต่พวกเขาก็ยังมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ขายจริง MINI Cooper SE พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าชาวไทยทันที ในราคา 2.29 ล้านบาท
‘เจ้าเหมียวไฟฟ้า’ ORA Goodcat–กับราคาที่หลายคนยังลังเล
หลายคนอาจผิดหวังกับราคาอย่างเป็นทางการของ ‘เหมียวไฟฟ้า’ ORA Goodcat ที่ประกาศออกมาเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีลูกค้าอีกหลายคนที่สนใจซับคอมแพ็กต์พลังงานไฟฟ้าจากเครือเกรท วอลล์ มอเตอร์ ด้วยข้อเสนอ และบริการหลังการขายที่น่าดึงดูดใจ
Good Cat แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย โดย 400 TECH (ราคา 989,000 บาท) และ 400 PRO (ราคา 1,059,000 บาท) จะติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางการขับสูงสุด 400 กิโลเมตร (NEDC) โดยชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC 0-80% ใช้เวลาประมาณ 46 นาทีหรือชาร์จไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง โดยจะแตกต่างที่ตัวเลือกสีตัวถัง และออปชั่นระบบช่วยเหลือการขับขี่
ขณะที่ ORA Good Cat 500 ULTRA (ราคา 1,199,000 บาท) ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางการขับสูงสุด 500 กิโลเมตร (NEDC) การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC 0-80% ใช้เวลาประมาณ 60 นาที หรือชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง โดยออปชั่นพิเศษจะมีสีตัวถัง, การตบแต่งห้องโดยสาร, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และเบาะนวดไฟฟ้าที่น่าจะถูกใจคนไทยเวลารถติด
ตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021
นอกเหนือจากที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายรุ่นมาจัดแสดงไล่เรียงจากแบรนด์รถสปอร์ตขวัญใจมหาชน Porsche ถึงจะนำ Taycan 4S Cross Turismo โทนสีฟ้ามาจอดโชว์เพียงคันเดียว แต่ลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งจองรถไฟฟ้ารุ่นนี้ทั้งตัวถังสปอร์ตซาลูน 4 ประตู และชูตติ้งเบรก 8 รุ่นย่อย ราคา (เริ่มต้น) ระหว่าง 6.39-11.79 ล้านบาท ระยะการขับอยู่ระหว่าง 408-484 กิโลเมตรขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ที่ Porsche มีออปชั่นให้เลือกติดตั้งเพิ่มเติมกับทางเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่าย Porsche อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
อีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์เยอรมัน Audi นำ 2 โมเดลพลังงานไฟฟ้าเข้าร่วมงาน Audi e-tron Sportback และ Audi RS e-Tron GT โดยรุ่นแรกจะมีตัวเลือกแบบเอสยูวีอีก 1 รุ่น (ราคาระหว่าง 5,099,000-5,299,000 บาท) ส่วนตัวหลังจะมี 2 รุ่นล่างให้เลือกในราคาเริ่มต้น 6.39 ล้านบาท
ทางด้าน Volvo มีโอกาสนำ XC40 Recharge Pure Electric เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าคันจริงมาโชว์ตัวเป็นครั้งแรก หลังจากประกาศราคาขาย 2.59 ล้านบาท ตั้งแต่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 โดยคอมแพ็กต์เอสยูวีคันนี้ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 78 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางการขับสูงสุด 400 กิโลเมตร (WLTP)
ขณะที่ Lexus แบรนด์หรูของ Toyota จัดมุมพิเศษเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าให้กับ UX 300e รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของพวกเขา โดยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์/201 แรงม้า ผสานกับแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 54 kWh ใช้เวลา 7.5 วินาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ระยะการขับ 360 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ในราคา 3.49 ล้านบาท
ปิดท้ายกับผู้บุกเบิก รถยนต์ไฟฟ้า Nissan สร้างโซน Energy Share เพื่อนำ Leaf รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขามานำเสนอเทคโนโลยีให้ผู้เข้าชมงานที่สนใจ และระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมให้ข้อมูลเทคโนโลยี Vehicle to Home (V 2H) เพื่อให้เข้าใจถึงการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นแหล่งพลังงานให้กับบ้านอีกด้วย โดยหลังจากตั้งราคาไว้เฉียด 2 ล้านบาท ตอนนี้จัดข้อเสนอพิเศษทำราคาลงมาเหลือ 1,499,000 บาท พร้อมฟรีติดตั้ง Wallbox EV Charger
เรียกว่าชั่วโมงนี้ใครที่กำลังสนใจจะเปลี่ยนจากรถยนต์น้ำมันมาลองเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างรถยนต์ไฟฟ้า ตัวเลือกก็น่าจะมีเกือบครบทุกสไตล์ ระดับราคาตั้งแต่ 9 แสนปลายๆ จนถึง 10 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับว่ารุ่นไหนแบรนด์อะไรที่ถูกใจคุณ และอยู่ในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ แต่ถ้าไม่รีบ… รออีกสักหน่อย เชื่อว่าปีหน้าจะมีตัวเลือกใหม่ๆ มาอีกเพียบแน่นอน
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: อินเตอร์เน็ต
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th