รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอททราจ ปี 2021-2022 ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของ
รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอททราจใหม่! ปี 2021-2022 ที่ยกระดับความโดดเด่นของยานยนต์ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมทั้งสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบวงจร ส่งผลให้ตอกย้ำความเป็นซิตี้คาร์ ที่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ในส่วนของการออกแบบรถยนต์รุ่นดังกล่าว ก็อยู่ภายใต้กรอบแนวคิด Advance Dynamic Shield สำหรับการออกแบบภายนอกนั้น ส่งผลให้มีรูปลักษณ์แบบใหม่ ที่สามารถดึงดูดทุกสายตาได้อย่างอยู่หมัด ในส่วนของกระโปรงด้านหน้า ก็ได้มีการออกแบบใหม่เช่นเดียวกัน พร้อมกับกระจังหน้า ที่ตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ประกอบกับกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED และพร้อมส่องสว่างแม้ช่วงเวลากลางวัน ด้วยไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ชุดไฟตัดหมอกแบบใหม่ ไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยที่มีขนาดอยู่ที่ 15 นิ้ว เรียกได้ว่าออกแบบใหม่ยกคันเลยก็ว่าได้
สำหรับภายในห้องโดยสารของ รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอททราท 2021-2022 ก็ได้มีการออกแบบใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยการยกระดับใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ High Contrast ที่ตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ ในส่วนของเบาะที่นั่ง ก็ทำจากวัสดุหนังสังเคราะห์ และผ้าที่ทำการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด
เครื่องยนต์ของ รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอจทราจ 2021-2022
สำหรับเครื่องยนต์ของ รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ รุ่นดังกล่าว ก็มาพร้อมกับพลังการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่มีขนาด 1.2 ลิตร DOHC ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที มีพลังแรงบิดสูงสุดที่ 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมกับระบบวาล์วแปรผัน MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System) ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ซึ่งประหยัดสูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตรเลยทีเดียว ในส่วนของอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ก็น้อยนิด โดยมีปริมารณที่ 100 กรัมต่อกิโลเมตรเพียงเท่านั้น ซึ่งถือว่าผ่านการรองรับมาตรฐานมลพิษ ที่อยู่ในระดับ EURO 5 เลยนั่นเอง
นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ในทุก ๆ ครั้ง มีความต่อเนื่องและนุ่มนวลเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำงานควบคู่กันกับระบบ INC ที่มีคุณสมบัติในการช่วยควบคุม และตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติ ในขณะที่รถหยุดนิ่ง และเหยียบเบรกในตำแหน่งเกียร์ D ที่ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอททราจ 2021-2022
สำหรับสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับทุกท่าน ที่ใช้ รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอททราจรุ่นใหม่ล่าสุด ก็ถือว่าครบเครื่องเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับหน้าจอระบบสัมผัส รูปแบบ smartphone – Link Display Audio (SDA) ที่มีขนาด 7 นิ้ว สามารถรองรับ Apple CarPlay ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งยังมาพร้อมกับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และการเชื่อมต่อบลูทูธ เรียกได้ว่าครบครัน และมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ รุ่นดังกล่าวนี้ ก็ยังจะส่งมอบความสะดวกสบายให้กับทุกท่านได้มากยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ที่มีคุณภาพเทียบเท่ารถซีดานระบบพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ที่มาพร้อมกับปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ และกล้องมองภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด และเทคโนโลยีความปลอดภัยต่าง ๆ อีกมากมาย ดังต่อไปนี้
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง ที่มาพร้อมกับระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM-LS)
- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ (เฉพาะด้านหน้า) เมื่อเหยียบคันเร่งด้วยความแรง และรวดเร็ว (RMS-Forward)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
- ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL)
ราคาเปิดตัว ของ รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอจทราจ 2021-2022
อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า บริษัทรถยนต์แต่ละบริษัท มักจะผลิตรถยนต์ต่าง ๆ ออกมาหลากหลายรุ่น ทั้งนี้ก็เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถทุกท่าน ได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง และสำหรับ รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอจทราจ 2021-2022 นี้ ก็ได้ผลิตออกมาจัดจำหน่ายอยู่ 4 รุ่นด้วยกัน โดยแต่ละรุ่น ก็มีราคาเปิดตัวดังรายละเอียดต่อไปนี้
- Mitsubishi Attrage รุ่น GLX MT มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 494,000 บาท
- Mitsubishi Attrage รุ่น GLX CVT มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 529,000 บาท
- Mitsubishi Attrage รุ่น GLS CVT มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 579,000 บาท
- Mitsubishi Attrage รุ่น GLS-LTD มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 624,000 บาท
จากบทความที่เพิ่งกล่าวไปเมื่อข้างต้น จะเห็นได้ว่า รถยนต์ มิต ซู บิ ชิ แอจทราจ 2021-2022 นั้น ค่อนข้างมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ ที่ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป ระบบความปลอดภัยก็ถือว่ามีประสิทธิภาพ สามารถทำให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทุกท่าน เดินทางไปในทุก ๆ ที่ด้วยความรู้สึกมั่นคง และปลอดภัยเป็นอย่างดีเยี่ยม รวมถึงยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย จึงถือได้ว่ารถรุ่นดังกล่าว ค่อนข้างตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้ใช้รถ ใช้ถนนได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และที่สำคัญก็คือ มีความคุ้มค่าราคาที่ต้องจ่ายเป็นอย่างมากเลยนั่นเอง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th