รถสตาร์ทไม่ติด สาเหตุเกิดจากอะไร
คิดว่าหลายๆ คนคงเคยเจออาการ รถสตาร์ทไม่ติด จากการสำรวจส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาหลักๆ อยู่ 2 อย่าง คือแบตเตอรี่ตัวจ่ายกระแสไฟเสื่อม ส่วนที่สองเกิดจากความเสียหายจากภายในตัวรถ (อันนี้แก้ยาก ต้องพึ่งช่างที่มีความรู้) เอาล่ะถ้างั้นเรามาดูวิธีแก้ไขอย่างแรกกันดีกว่า
การสังเกตว่ารถสตาร์ทไม่ติดเพราะแบตเตอรี่เสื่อมมีวิธีง่ายๆ คือ อาการที่เกิดขึ้นจะมีสัญญาณบ่งออกให้ทราบล่วงหน้ามาเป็นระยะ โดยเฉพาะเสียงเครื่องยนต์เวลาหมุนจะมีอาการอืดๆ เหมือนไม่ค่อยอยากติดเวลาที่บิดกุญแจ ต่างจากการสตาร์ทไม่ติดเพราะเครื่องยนต์เสีย ซึ่งเสียงการหมุนของเครื่องยนต์จะยังกระฉับกระเฉงเหมือนปกติ เพียงแต่ว่าเครื่องยนต์ไม่ติดเท่านั้นเอง
ถ้าเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดา และมากันหลายคน ก็ใช้วิธีเข็นสตาร์ทด้วยการเข้าเกียร์ 2 เหยียบคลัตช์เอาไว้ บิดกุญแจเอาไว้ที่ ON จากนั้นก็ช่วยกันออกแรงเข็นจนได้ความเร็วพอประมาณ จากนั้นปล่อยคลัตช์ เพื่อให้เครื่องยนต์กระตุกติด และทำจนกว่าจะติด
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ ไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีนี้ ต้องใช้การพ่วงแบตเตอรี่จากรถยนต์คันอื่นมาช่วย โดยต่อสายพ่วงแบตฯ ขั้วลบของแบตเตอรี่ทั้ง 2 ลูกก่อน จากนั้นค่อยต่อขั้วบวก แล้วบิดกุญแจสตาร์ท บางครั้งช่วงแรกไดสตาร์ทอาจจะออกอาการอืดๆ เหมือนทำท่าไม่อยากติด ก็ให้ลองใหม่อีกครั้ง เมื่อติดแล้ว ก็จอดเดินเบาสักหน่อย แล้วค่อยขับรถไปร้านแบตเตอรี่เพื่อเปลี่ยน
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ส่วนใหญ่อยู่ที่ปีครึ่งถึง 2 ปีขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา ผู้ขับควรจำเอาไว้ด้วยว่าเปลี่ยนไปเมื่อไร
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th