รถเก่าไม่ได้เสียภาษีนาน ต้องทำอย่างไรจึงใช้งานได้ตามปกติ
เจ้าของรถบางคนอาจเข้าใจว่าหากรถชำรุดจนใช้การไม่ได้ หรือเลิกใช้รถแล้วไม่ต้องเสียภาษีประจำปี ซึ่งจริงๆ แล้วทางกรมขนส่งทางบกระบุว่า หากเลิกใช้รถแล้วต้องแจ้งเพื่อเลิกใช้รถต่อนายทะเบียนที่สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียน เพราะหากไม่แจ้งเลิกใช้รถ โดยหยุดชำระภาษีไปเฉยๆ แล้วค้างชำระภาษีเกิน 3 ปีจะถูกระงับทะเบียนรถทันที
อย่างไรก็ตามหากเจ้าของรถที่คิดว่าจะเลิกใช้รถแล้วค้างชำระภาษีรถยนต์ 3 ปีขึ้นไปจนถูกระงับทะเบียน แล้วเกิดเปลี่ยนใจอยากจะนำรถคันนั้นกลับมาใช้งานอีกครั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่มีปัญหาหรือจะยกรถให้ลูกหลานไปใช้งาน ก็ยังสามารถทำได้แต่จะมีขั้นตอนต่างๆ พอสมควร เพราะต้องยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่เท่านั้น โดยเริ่มจากชำระภาษีย้อนหลังพร้อมค่าปรับ และคืนป้ายทะเบียนเดิม ก่อนการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ โดยมีขั้นตอนต่อไปนี้
คืนป้ายและชำระภาษี
– รถยนต์ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่ารถยังคงขับได้ มีการทำงาน และความปลอดภัยตามปกติ
– นำสมุดคู่มือรถยนต์พร้อมป้ายทะเบียน 2 แผ่นของรถไปยื่นเรื่องเพื่อคืนแผ่นป้าย
– ชำระภาษีที่ค้างอยู่พร้อมค่าปรับ
ตรวจสภาพรถ
ก่อนจะจดทะเบียนรถใหม่จะต้องนำรถไปตรวจสภาพ ซึ่งจะต้องตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ไม่สามารถทำที่สถานที่ตรวจสภาพรถเอกชนได้ แต่ก็เป็นการตรวจสภาพรถทั่วไปโดยขับรถเข้าช่องตรวจ เมื่อถึงจุดตรวจก็เปิดฝากระโปรงหน้า รอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ และสภาพ เมื่อผ่านการตรวจสภาพก็รอรับเอกสาร
จดทะเบียนรถยนต์ใหม่
สำหรับการยื่นจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ทำโดยใช้เอกสารที่ได้จากการตรวจสภาพรถพร้อมกับซื้อพ.ร.บ. แนบไปด้วย โดยที่จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่อย่าง
– อากรสแตมป์ 10 บาท
– ค่าคำขอ 5 บาท
– ค่าจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ 315 บาท
– ค่าแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ 2 แผ่น 200 บาท
– ค่าสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 100 บาท
– ค่าภาษีรถยนต์ตามแประเภทของรถ
อย่างไรก็ตามสำหรับรถที่มีการดัดแปลงแล้วค้างชำระภาษีเกิน 3 ปีจนถูกระงับทะเบียนรถ อาจต้องมีการแก้ไขเพื่อให้รถอยู่ในสภาพเดิมเพื่อให้ผ่านการตรวจสภาพและจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ได้
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th