รถเหินน้ำ เพชรฆาตตัวร้ายที่ผู้ขับขี่ต้องระวัง
ช่วงนี้ฝนตกวันเว้นวัน การขับรถยนต์บนท้องถนนก็ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม เพราะอันตรายในการขับรถที่มาพร้อม กับหน้าฝนอย่าง อาการเหินน้ำ หรือที่เรียกว่า Hydroplaning มันอาจจะทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ โดยคุณไม่ทันตั้งตัว ตัวอย่างมีให้เห็นในข่าวที่เป็นกระแสตอนนี้อย่าง BMW Z4 ที่ใช้ความเร็วในการขับขี่ เมื่อไปเจอกับน้ำที่ขังถนนบนแล้วขับเหยียบแอ่งน้ำขังด้วยความเร็วทำให้รถเสียการควบคุมเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ครั้งนี้เรามาดูกันว่าเหินน้ำคืออะไร ทำไมถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และป้องกันได้อย่างไร
เหินน้ำ หรือ Hydroplane คืออะไร
Hydroplaning หรืออาการเหินน้ำ คือ อาการของยางรถยนต์ที่หมุนไปเหนือชั้น (Layer) ของน้ำ ทำให้ยางไม่เกาะกับผิวถนน อาจเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่ขับฝ่าน้ำฝนท่วมขังเป็นแอ่งเล็กๆ บนถนนหรือวิ่งฝ่าสิ่งสกปรกยามเกิดฝนตกหนัก เช่น โคลน เลนที่อยู่บนพื้นผิวถนน ทำให้สูญเสียการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นทิศทางหรือการเบรก เพราะความฝืดระหว่างล้อรถยนต์กับถนนถูกกั้นด้วยน้ำนั่นเอง
ทำไมอาการเหินน้ำถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ถึงแม้อาการเหินน้ำนี้จะเกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่มันก็มากพอที่จะทำให้คุณสูญเสียการควบคุมรถได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเมื่อเกิดอาการเหินน้ำนั้น เป็นเพราะผู้ขับขี่จับพวงมาลัยไม่แน่นพอ รวมถึงเหยียบเบรกกะทันหัน ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้รถเกิดหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งอันตรายมากเพราะทำให้เกินความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น รถหมุนไปชนกับสิ่งกีดขวางริมถนน หรือบริเวณเกาะกลางถนน หรือในกรณ๊ที่แย่ที่สุดคือ ถูกรถที่วิ่งตามมาด้านหลังชนในขณะที่รถกำลังเสียการควบคุมค่ะ
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ Hydroplane
- ความเร็วของรถยนต์ ความเร็วของรถยนต์นั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะรถยนต์ยิ่งวิ่งมาเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่ล้อจะรีดน้ำได้ทันนั้นจะยิ่งน้อยลง ทำให้ชั้นของน้ำนั้นหนามากกว่า และมีโอกาสก่อให้เกิดอาการเหินน้ำได้มากกว่า
- น้ำหนักของรถยนต์ รถยนต์ยิ่งน้ำหนักมาก เมื่อเสียการควบคุมแล้ว แรงเฉี่อยจะยิ่งมากกว่า
- ดอกยางของรถยนต์ ลักษณะของดอกยาง และ ความลึกของดอกยางนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ดอกยางจะมีการรีดน้ำไปด้านข้างของล้อด้วย ความลึกของดอกยางนั้น ทางทฤษฎีแล้ว หากดอกยางเหลือเพียงครึ่งเดียว ความเร็วจะต้องลดลงจากเดิมประมาณ 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เทียบกับดอกยางเต็มๆ)
- ล้อรถยนต์ หากเป็นล้อรถยนต์ที่มีหน้ากว้าง และยาวกว่า(รัศมีมากกว่า) โอกาสเกิด Hydroplane จะยิ่งน้อยกว่า
- ลักษณะของพื้นผิวถนน หากเป็นพื้นคอนกรีตแล้ว โอกาสเกิดเหตุการณ์จะยิ่งง่ายกว่า ถนนที่มียางมะตอยราด เพราะยังมีร่องน้ำ ตามรูของพื้นผิวถนน นอกจากนี้ยังมีความชัน และความเอียงของพื้นผิวถนนที่เป็นปัจจัยเล็กน้อยอีกด้วย
ทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุเมื่อเกิดอาการเหินน้ำ
- ขับรถให้ช้าลง เมื่อเห็นถนนเปียก หรือตอนที่ฝนกำลังตก
- ขับรถตามรถคันข้างหน้า โดยเว้นระยะห่าง เพราะคุณจะสามารถรู้ได้ทันทีว่ามีแอ่งน้ำที่จะทำให้เกิดอาการเหินน้ำหรือไม่
- ควรขับรถอยู่เลนกลาง เพราะแอ่งน้ำขังส่วนใหญ่มักจะอยู่เลนนอก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางรถยนต์มีดอกยางที่อยู่ในสภาพดี อีกทั้งควรเติมลมยางให้มีความเหมาะสมกับรถ เพราะถ้าหากยางอ่อนเกินไปจะทำให้เกิดอาการเหินน้ำได้ง่ายขึ้น
- อย่าเบรกขณะที่อยู่ในโค้ง แต่ควรเบรกก่อนที่จะเข้าโค้ง
- จับพวงมาลัยรถยนต์ให้แน่น และใช้เบรกเบา ๆ หากเกิดอาการเหินน้ำ
- อย่าเหยียบคันเร่ง ถ้าพวงมาลัยรู้สึกเบา ๆ และปล่อยให้รถชะลอตัวไป และห้ามเหยียบเบรกกะทันหัน
- อย่าเหยียบเบรกหรือหักพวงมาลัยหนี หากเกิดอาการเหินน้ำ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ข้อมูล : moneyguru
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th