พัฒนาการที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ปอร์เช่ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) รถสปอร์ตที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อพิชิตทุกการแข่งขันทั่วโลก พร้อมแล้วสำหรับการลงชิงชัยในปี 2017 ด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ที่มีเป็นที่ยอมรับในวงการรถแข่ง GT วางประจำการที่ห้องเครื่องด้านหลังอย่างน่าเกรงขามขนาดความจุเครื่องยนต์4.0 ลิตร 6 สูบนอน ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า ผลลัพธ์จากเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตแห่งอนาคตเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัดติดตั้งระบบจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าห้องเผาไหม้ (direct fuel injection) ให้พละกำลังสูงสุดถึง 485 แรงม้า (357 กิโลวัตต์)

หลากหลายนวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างสรรค์ลงในตัวรถเพื่อเสริมสมรรถนะและประสิทธิภาพการทำงานให้แก่เครื่องยนต์อย่างเต็มที่ ไม่เพียงเพิ่มเสถียรภาพและความทนทานเพื่อวัตถุประสงค์หลักในการแข่งขันบนสนามอันสุดทรหดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลไกขับเคลื่อนชุดวาล์วพร้อมกระเดื่องลดแรงเสียดทาน (rigidly mounted rocker arms) และระบบหล่อลื่นแบบ central oil feed ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก ยิ่งไปกว่านั้นระบบ oil centrifuge ยังได้รับการติดตั้งเพื่อลดปัญหาน้ำมันหล่อลื่นเป็นฟองที่เกิดขึ้นในเครื่องยนต์ได้อีกด้วย

พร้อมทั้งเพลาข้อเหวี่ยงที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น ชิ้นส่วนกันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มแรงกดให้แก่ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) เพิ่มความสามารถในการถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อนลงสู่พื้นถนนได้อย่างเต็มที่ ปลดปล่อยสมรรถนะการขับขี่อย่างไร้ข้อจำกัด ปีกหลังขนาดใหญ่ถึง 184 เซนติเมตร ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้สูงกว่ารุ่นก่อนหน้า ขนาดของล้อได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ด้วยล้ออัลลอยด์ชิ้นเดียวสำหรับการลงสนามแข่งขัน ขนาด 18 นิ้ว ยึดติดเข้ากับดุมล้อด้วยระบบเซ็นเตอร์ล็อค (central locking mechanism) ประกบด้วยยางสลิคหน้ากว้างขนาด 270 มิลลิเมตรที่ล้อคู่หน้า และยางหน้ากว้างพิเศษขนาด 310 มิลลิเมตร ที่ล้อคู่หลัง โครงสร้างตัวถังผลิตจากวัสดุ aluminium-steel composite ให้ความมั่นใจสูงสุดถึงความแข็งแกร่งและน้ำหนักตัวรถที่เบาเป็นพิเศษ ผลที่ได้คือ รถแข่งปอร์เช่ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup)  ใหม่ พร้อมทะยานลงสู่สนามแข่งด้วยน้ำหนักรวมของตัวรถเพียง 1,200 กิโลกรัมเท่านั้น

แน่นอนว่าทีมวิศวกรของปอร์เช่ไม่เคยละเลยความปลอดภัยของนักแข่งในระหว่างที่คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ นักขับทุกคนที่ประจำการอยู่หลังพวงมาลัยของ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) จะได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่ ด้วยโครงสร้างนิรภัย solid safety cage และเบาะนั่งสำหรับรถแข่ง bucket-style racing ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความทนทานและรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีทั้งในบริเวณศรีษะและหัวไหล่ของผู้ขับขี่ระบบหลังคานิรภัยแบบพิเศษ ที่ออกแบบให้สามารถเข้าถึงตัวนักแข่งได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนโดยเป็นไปตามกฎข้อบังคับล่าสุดของ FIA

โดยทาง ปอร์เช่ ได้ดำเนินการผลิตรถแข่ง 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) ด้วยสายการผลิตเดียวกันกับรถสปอร์ต 911 ทุกคัน ที่โลดแล่นอยู่บนท้องถนนทั่วโลก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดขึ้นจากโรงงานหลักของปอร์เช่ที่ Stuttgart-Zuffenhausen ขั้นตอนการปรับแต่งพื้นฐานเพื่อการลงสนามแข่งขันจะเริ่มต้นที่ศูนย์พัฒนา Weissach motorsport centreที่ซึ่งรถแข่ง ซึ่งรถปอร์เช่ทุกคันต้องผ่านการทดสอบอย่างหนักหน่วงโดยนักขับรถแข่งมืออาชีพ ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้แก่เจ้าของรถต่อไป รถแข่งจำนวน 3,031 คัน ได้รับการผลิตขึ้นในหลากหลายรุ่นตัวถัง นับตั้งแต่รุ่น 996 997 และ 991 โดยเริ่มจากปี 1988 เป็นต้นมาจึงไม่น่าแปลกใจที่รถแข่งสมรรถนะสูงจากสตุ๊ดการ์ทคันนี้จะได้รับความไว้วางใจและนิยมนำไปลงแข่งในสนามความเร็วทั่วโลก จนกระทั่งกลายเป็นรถแข่ง GT ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด

รถแข่งปอร์เช่ 911 จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) รับหน้าที่ในการเข้าร่วมลงประชันสมรรถนะในสนามแข่งต่างๆตลอดฤดูกาล 2017 ที่กำลังมาถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Porsche Mobil 1 Supercup ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการแข่งขัน Formula 1 รวมทั้งรายการ Porsche Carrera Cup Deutschland และ การแข่งขันต่างๆ ในทวีปอเมริกาเหนือ จวบจนฤดูกาล 2018 รถแข่งรุ่นดังกล่าวจะยังคงประสิทธิภาพในการรองรับการลงสนามรายการต่างๆ ที่ปอร์เช่จัดขึ้นกว่า 20 รายการ สำหรับทีมแข่งอิสระของลูกค้าปอร์เช่ทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นการแข่งขันพิเศษที่มีเพียงรถแข่ง 911จีที3 คัพ (911 GT3 Cup) เข้าร่วมประลองความเร็วเท่านั้น

เรื่อง: พุทธิ ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th