รถไฟฟ้า มาหาแน่เธอ เดอะ ซีรีส์ (อีกแล้ว) รู้จักพื้นฐานกันก่อนนะตัวเอง
ณ ตอนนี้ เราคนได้ยินกระแสของ “รถไฟฟ้า” มาแรงมากๆ เรียกว่า “ก้าวกระโดด” กันอย่างรวดเร็ว ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา จนเราคิดว่าจากเดิมมันเป็นเรื่องไกลตัว ตอนนี้ “ประชิดตัว” อย่างมาก ค่ายรถยนต์ต่างก็เอารถไฟฟ้ามาเปิดตลาด ไม่ว่าจะจากประเทศจีน, ญี่ปุ่น, ยุโรป รวมไปถึง “บริษัทเอกชน” ต่างๆ ของ “ไทยแลนด์” ต่างก็รุดสร้างรถไฟฟ้าเป็นแบรนด์ของตัวเอง เพื่อจะให้ทันตลาดที่เริ่มจะแพร่หลายอีกไม่นานนี้…
- พื้นฐานของรถไฟฟ้า : จริงๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ มันก็คือ “รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น” หรือ EV (Electric Vehicle) ไม่มีเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบสันดาปภายใน หรือ ICE (Internal Combustion Engine) ใดๆ มาช่วยทั้งสิ้น หรือแม้แต่ NISSAN KICK E – POWER ก็ไม่ถือว่าเป็นรถไฟฟ้าเต็มระบบ เพียงแต่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ใช้เครื่องยนต์เป็นตัวปั่นไฟ ลักษณะนี้ไม่ใช่ EV แท้ๆ ถ้า LEAF ล่ะก็ใช่ ยกตัวอย่างง่ายๆ ตามนี้ รถไฟฟ้า ไม่ใช่เรื่องใหม่บนโลก เพราะมีมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 19 หรือ 100 กว่าปีมานู่น ส่วนในญี่ปุ่น รถไฟฟ้าก็มาในช่วงปี 1940 แล้วก็หายไป ก่อนจะกลับมาอีกที คือ NISSAN LEAF เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แล้วก็หายไปอีก เรียกว่าในเมืองไทยยังเป็นในช่วง “เรียนรู้” และ “ยังไม่แน่ใจ” จนเทคโนโลยียุคปัจจุบันทันสมัย มีข้อมูลข่าวสารแพร่หลาย กระแสของ EV จึงเริ่มกลับมาแรงแบบไม่น่าเชื่อ…
- จุดประสงค์ในการสร้างรถไฟฟ้า : แม้ว่ารถไฟฟ้าจะมีมานานมากแล้ว แต่ก็ถูกใช้งานในขอบเขตจำกัด เช่น การขับขี่ในเมือง ซึ่งจุดประสงค์จริงๆ ของ EV ก็ออกแบบมาเน้นการนี้อยู่แล้ว เพราะในเมืองต้องการ “ลดมลภาวะ” บางเขตเมืองในยุโรปที่เป็นเขตเกษตรกรรม ต้องการปลอดมลภาวะ มีกฏหมายให้ใช้รถไฟฟ้าอย่างเดียว ห้ามใช้รถ ICE ก็มี ในยุโรปรถไฟฟ้าจึงนิยมใช้งานกันมาก และตอนนี้มันก็เริ่มแพร่หลายไปในวงกว้าง เพราะคุณสมบัติดีเด่น เช่น ไม่ต้องใช้น้ำมัน ไร้มลภาวะ หรือ Zero Emission ประหยัด ประมาณนี้…
- ขอบเขตในการใช้งานรถไฟฟ้า : จริงๆ แล้ว ตัวรถไฟฟ้าเอง สมรรถนะในการขับเคลื่อนมันก็ไม่ได้ต่างจากรถ ICE หรือ “รถน้ำมัน” หรือจะ “รถแก๊ส” ก็สันดาปภายในเหมือนกันนั่นแล แถมตอนนี้รถไฟฟ้ายุคใหม่ยัง “โคตรแรง” แบบ Super Car ยังหนาว !!! ส่วน “ระยะทางการวิ่ง” รถไฟฟ้ามันก็วิ่งได้ไกลที่สุด “เท่าที่มีพลังไฟฟ้าให้มันใช้” ไฟหมดก็หยุด เรื่องรถไม่มีปัญหาหรอก แต่มันมีข้อจำกัดที่ “สถานี้ชาร์จไฟระหว่างทาง” ที่ทุกคนรู้กันว่า ในประเทศไทยยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ตอนนี้ก็ยังต้องชาร์จไฟในบ้านหรือที่อยู่อาศัยไปก่อน มันก็เลยจำกัดที่การใช้งานในเมือง ขับไปทำงาน ทำนู่นทำนี่ กลับบ้าน ไปออกนอกเมืองก็ได้ ที่ระยะทางไม่เกินกว่าแบตเตอรี่จะหมด…
- รถไฟฟ้า เหมาะกับใครกันแน่ : ข้อสุดท้ายแล้ว ตอนนี้ขอบอกก่อนว่า “รถไฟฟ้าไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน” เพราะขอบเขตการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ถ้าคนที่ใช้งานในเมือง และ “มีที่จอดรถพร้อมที่ชาร์จไฟติดตั้งพร้อมสรรพ” ในบ้านตัวเอง ก็ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้รถไฟฟ้ามันยังคงไม่ใช่ “รถคันเดียวของบ้าน” แน่ๆ ยังคงต้องมีรถ ICE ใช้งานอีกคันเวลาวิ่งทางไกล หรือใช้งานแบบ “ไม่แน่ไม่นอน” เดี๋ยวในเมือง เดี๋ยวนอกเมือง และมีรถเพียงแค่คันเดียวใช้งานครอบคลุม รถไฟฟ้า “ตอนนี้” อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ แต่อนาคต ถ้ามีสถานีชาร์จไฟแบบพร้อมบริการระหว่างทาง รถไฟฟ้าจะได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ คนที่อยากจะใช้รถไฟฟ้ามีเยอะมากๆ แต่ก็ยัง “รอความแน่นอน” ก่อน จึงยังไม่ซื้อ ถ้าทุกอย่างพร้อม กระหึ่มแน่นอนจ้า…
ยังไม่จบแค่นี้นะครับ เราจะมีเรื่องราวของรถไฟฟ้ามาฝากกันอีกเรื่อยๆ (เท่าที่จะนึกออก) ติดตามกันได้ กด Like กด Share เป็นกำลังใจ นั่นไม่สำคัญเท่าการ “กระจายความรู้” เป็นสิ่งหลักที่เราต้องการมอบให้กับท่านผู้อ่านทุกท่านครับ…
เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th