เสร็จสิ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Goodwood Festival of Speed 2017 เทศกาลรถยนต์ชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ โดยคราวนี้มาพร้อมธีม ‘Peaks of Performance – Motorsport’s Game-Changers’ ทำให้ไม่ได้มีแค่ ซูเปอร์คาร์, ลักชัวรี่คาร์ และรถคลาสสิกเท่านั้น แต่รวมถึงการกลับมาอยู่หลังพวงมาลัยอีกครั้งของ Nico Rosberg แชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน 2016

Ferrari
เริ่มจากซูเปอร์คาร์ในฝันของใครหลายคน Ferrari ที่กำลังอยู่ในช่วงการฉลองครบรอบ 70 ปี จัดอีเวนต์พิเศษที่ Goodwood ด้วยการนำรถที่เป็นประวัติศาสตร์, สัญลักษณ์ของยุคสมัย และรถแข่งที่เคยผ่านการคว้าแชมป์รายการต่างๆ รวมทั้งหมด 70 คัน จัดเป็นขบวนวิ่งในสนามแข่งที่เป็นทางขึ้นเขาอันมีชื่อเสียง Goodwood Hillclimb

นับเป็นโชคดีของผู้เข้าชมงานที่ได้เห็น 125 S รถคันแรกที่ติดตรา “ม้าลำพอง” ซึ่งผลิตออกมาเมื่อปี 1947 และโมเดลล่าสุดจากมาราเนลโล่ LaFerrari Aperta ที่มีความลิมิเต็ดแบบสุดๆ และบรรดารถแข่งที่ขับโดยเหล่าตำนานอย่าง Derek Bell, Jackie Stewart และ Dario Franchitti

Lamborghini
ทำให้ทางฝั่ง Lamborghini เตรียม 3 ไฮไลต์สำคัญมาเรียกความสนใจ เริ่มจากการนำ Centenario รถรุ่นฉลองครบรอบวันเกิด 100 ปีของ Ferruccio Lamborghini ผู้ก่อตั้งบริษัท มาโชว์ความแรงของเครื่องยนต์ V12 770 แรงม้า ที่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 350 กม./ชม. โดยผลิตออกมาเพียง 20 คันเท่านั้น

นอกจากนี้อีก 2 ไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว Lamborghini Huracán Performante เป็นครั้งแรกที่อังกฤษ หลังจากเพิ่งสร้างสถิติใหม่ของรถยนต์ที่ผลิตเพื่อขายจริงในการขับที่สนามนูเบิร์กริงต์ ฝั่งเหนือ เมื่อต้นปีนี้ ด้วยเวลา 6:52.01 นาที และสุดท้ายเป็นการโชว์ฝีมือแผนกอุปกรณ์ตบแต่ง Ad Personam ด้วยการปรับดีไซน์ใหม่ให้ Aventador S ที่ถูกเพิ่มความแรงเป็น 740 แรงม้า

Bugatti
แบรนด์รถสปอร์ตสัญชาติฝรั่งเศส ไม่มีโมเดลใหม่ล่าสุดมาเผยโฉม ขออาศัยจุดขายที่สมรรถนะของเครื่องยนต์ก็มากพอแล้ว โดยรถที่นำมาโชว์ไม่ถึง 10 คัน แต่มีขุมกำลังรวมกันทะลุ 9,404 แรงม้า!!!

Veyron ทั้ง 6 คัน ที่นำมาจอดบนสนามหญ้า หนึ่งในนั้นคือ Grand Sport Vitesse 1,200 แรงม้า ที่เคยเป็นโร้ดสเตอร์ที่ผลิตเพื่อขายจริงที่มีความเร็วสูงสุดเป็นสถิติโลก เมื่อปี 2013 และพระเอกของงาน Chiron ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2016 ได้ตัว Andy Wallace อดีตแชมป์ Le Mans มารับหน้าที่ขับโชว์ความแรงของเครื่องยนต์ 8.0 L W16 1,500 แรงม้า

Porsche
ค่ายรถสปอร์ตเยอมนีที่หลายคนหลงรัก เลือกเทศกาลนี้เป็นเวทีเวิลด์พรีเมียร์ Porsche 911 GT2 RS รถตระกูล 911 ที่มีความแรง และเร็วที่สุดที่สามารถขับบนถนนปกติ พร้อมนำ 911 Turbo S Exclusive Series ที่ผลิตจำนวนจำกัด 500 คันมาโชว์ตัวจริงเป็นครั้งแรกอีกด้วย

911 GT2 RS เป็นเหมือนการยกระดับเทคโนโลยีเทอร์โบของ Porsche โดยเครื่องยนต์ 3.8L ที่มีกำลังสูงสุด 700 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม. เรียกว่าแทบจะยกเทคโนโลยีรถแข่งมาลงในรถคันนี้เลยทีเดียว

McLaren
ในฐานะแบรนด์ซูเปอร์คาร์เจ้าถิ่น ไม่ยอมน้อยหน้าคู่แข่งจัดการเปิดผ้าคลุม McLaren 570S Spider เป็นครั้งแรกของโลก นับเป็นบอดี้แบบที่ 3 ของซีรีส์นี้ ใช้เวลาเปิด-ปิดหลังคารถเพียง 15 วินาที มีสมรรถนะระดับเดียวกับรุ่น Coupe เหยียบคันเร่งแตะ 100 กม./ชม. ในเวลา 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 328 กม./ชม.

นอกจากนี้มีอีเวนต์พิเศษให้ผู้ร่วมงานร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบชิ้นส่วนเลโก้ของ McLaren 720S ขนาดเท่ารถจริง (1:1) โดยใช้จำนวนชิ้นส่วนเลโก้มากกว่า 267,300 ชิ้น หลังจากพวกเขาเพิ่งเปิดตัวเลโก้ชุดพิเศษ Speed Champions McLaren 720S ก่อนหน้านี้

Honda
สลับอารมณ์มาที่ค่ายรถญี่ปุ่นกันบ้าง Honda กลับมาสู่ Goodwood เพื่อฉลอง 25 ปีในการถือกำเนิดแบรนด์รถสไตล์แต่งซิ่ง Type R และ Fireblade ของฝั่งสิงห์นักบิด พร้อมประกาศเป้าหมายสู่อนาคตด้วยการนำ Clarity Fuel Cell รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนมาเปิดตัวครั้งแรกที่อังกฤษ

บรรยากาศงานฉลองของ Honda มีการนำบรรดารถตระกูล Type R มาจัดขบวนวิ่งในสนามแข่งตั้งแต่รุ่นแรกสุดของ NSX Type R ปี 1992, Integra Type R, Accord Type R และทุกรุ่นของ Civic Type R ที่พวกเขาเคยผลิต รวมถึง 2017 Civic Type R เจ้าของสถิติรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในการขับที่สนามนูร์เบิร์กริงท์ ฝั่งเหนือ ในตอนนี้

Return of the Champion
จัดเป็นเซอร์ไพรส์พิเศษประจำเทศกาล Goodwood Festival of Speed 2017 ก็ว่าได้ กับการได้เห็น Nico Rosberg แชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน 2016 กลับมาสวมชุดนักแข่งของทีม Mercedes เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประกาศรีไทร์เมื่อปลายปีก่อน โดยเขาแสดงฝีมือขับหมุนทำโดนัทสร้างความตื่นเต้นให้บรรดาแฟนๆ ความเร็วได้พอจะหายคิดถึงกันได้บ้าง

Ford
ค่ายอเมริกัน จัดรถที่พวกเขาเรียกว่า ‘Ultra-high-performance’ Ford GT เวอร์ชั่นสำหรับวิ่งบนถนนปกติ และรถแข่ง Ford Mustang GT4 มาขับโชว์ที่ยุโรป เป็นครั้งแรก พร้อมนำ 3 นักแข่งจากทีม Ford Chip Ganassi Racing มาควบคุมพวงมาลัย Ford GT ที่ใช้เครื่องยนต์อีโคบูสต์ 3.5-litre V6 ที่มีกำลังสูงสุด 647 แรงม้า และแรงบิด 550 ปอนด์ฟุต ทำความเร็วได้สูงสุด 347 กม./ชม. ในการขับบนเส้นทางขึ้นเขาระยะทาง 1.9 กม.

BMW
ในปีนี้ BMW Group Classic คัดเลือกรถที่เข้าร่วมงานที่อังกฤษ ด้วยความพิถีพิถันเหมือนเดิม ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสความคลาสสิกตั้งแต่ BMW 328 Mille Miglia Touring Coupe, BMW M3 Group A DTM, รถแข่ง Brabham BMW BT-52, รถแข่ง BMW V12 LMR และบรรดามอเตอร์ไซค์คลาสสิกไล่เรียงมาจนถึงรุ่น S 1000 RR Senior TT

Rolls-Royce
ทิ้งท้ายกันด้วยแบรนด์รถยนต์ระดับ Ultra Luxury ที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวอังกฤษ Rolls-Royce เรียกว่ามีไฮไลต์มาเรียกความสนใจได้ตลอดทั้ง 4 วันของเทศกาล Goodwood FOS 2017 เริ่มจากการเปิดตัวครั้งแรกของโลกกับรุ่นพิเศษ Dawn Black Badge, Sweptail ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถสไตล์ Coachbuilt ของพวกเขาในทศวรรษ 1920-30, Wraith Black Badge รถที่มีเครื่องยนต์ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และสุดท้าย Ghost Black Badge ที่มีความโดดเด่นจากไฟ LED รวมทั้งสัญลักษณ์ของงานที่ติดอยู่ข้างรถ

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: Automotive Media/goodwood.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th