หลังจาก ฮอนด้า สหรัฐอเมริกา ประกาศเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชั่นที่ 10 ไปในช่วงกลางปี 2017 ด้วยตัวถังขนาดใหญ่กว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ และไฮบริด มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเป็นครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลาง จนมีกระแสข่าวว่าจะถูกนำมาผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยภายในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน

แอคคอร์ด ถูกยกให้เป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ทำยอดขายสูงสุดของสหรัฐฯ 4 ปีซ้อน (ปี 2013-2016) มียอดขายสะสมสูงกว่า 13 ล้านคัน ซึ่งการมาของ เจนเนอเรชั่น 10 สร้างความคาดหวังให้กับผู้บริโภคทั้งในสหรัญอเมริกาและทั่วโลกเป็นอย่างมาก

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้า ได้ชื่อว่าเป็นค่ายรถที่มีทีมงานออกแบบรถยนต์ได้อย่างโดดเด่นค่ายหนึ่งของโลก การออกแบบ แอคคอร์ด ใหม่ จึงเป็นการพลิกโฉมภาพลักษณ์ของรถดีเซ็กเมนท์เพื่อครอบครัวแบบเดิม ๆ ไปสู่ความสวยงามและมีความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

นอกจากเรื่องของรูปทรงอันแสนเร้าใจ ในตลาดสหรัฐอเมริกามีทางเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายให้ผู้บริโภค ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบฉีดตรง พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาด 1.5 ลิตรและ 2.0 ลิตร รวมไปถึงเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดในส่วนของระบบไฮบริด 2 มอเตอร์  ส่วนระบบเกียร์มีทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ, เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องหรือ CVT, เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้าหรือ e-CVT

ซึ่งดูจากรายละเอียดหลัก ๆ ทางด้านเครื่องยนต์และระบบเกียร์แล้ว มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่คนไทยจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่จากฮอนด้า เพราะในอดีตที่ผ่านมาบ้านเราจะยึดรูปโฉมของแอคคอร์ดจากตลาดอเมริกาเป็นหลัก  บวกเข้ากับ แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่น 9 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2556 มีอายุครบ 4 ปี ยิ่งส่งให้เกิดกระแสว่า จะมีการเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่น 10 ในประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า

แต่จากรายงานข่าวพบว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่น ใหม่ มีความเป็นไปได้แน่นอนแล้วว่าจะยังไม่เปิดจำหน่ายในประเทศไทยช่วงปลายปีนี้  เนื่องจากความเหมาะสมและต้องเตรียมความพร้อมหลายประการ ก่อนจะนำมาผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย

จากการคาดการณ์ เหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับการเตรียมยื่นขอสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนผลิตรถไฟฟ้า (EV) กับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ในช่วงปลายปี 2560 ที่กำลังจะมาถึง เพราะสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่รัฐนำเสนอ ครอบคลุมไปในหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการผลิตรถยนต์กลุ่มนี้ในประเทศ

แม้ที่ผ่านมา ฮอนด้า จะได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับทางบีโอไอที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมหรือไฮบริดไปก่อนหน้า แต่การยื่นขอรับสิทธิฯ ต่อบีโอไอเพื่อนำเสนอและผลิตเทคโนโลยีใหม่ในครั้งนี้ หมายถึงการลงทุนเพิ่มเติมเป็นจำนวนเงินอีกมหาศาล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีไฮบริดใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 3  ที่จะถูกนำมาใช้ในแอคคอร์ด รุ่นใหม่ ไปจนถึงการผลิตแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออและชิ้นส่วนต่าง ๆ อันสำคัญ ล้วนเป็นรากฐานทางการลงทุนไปสู่การผลิตรถรถปลั๊ก-อินไฮบริด และรถอีวี ที่จะถูกจำหน่ายต่อไปในอนาคต

ดังนั้น การเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ก่อนการนำเสนอสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและเหมาะสมกับประเทศไทย ตามแนวทางของบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ผ่าน ตัวแม่ทัพอย่าง ฮอนด้า แอคคอร์ เจนเนอเรชั่น 10  จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะคู่แข่งในตลาดก็ล้วนแต่มีความพร้อมในเรื่องนี้ไม่แตกต่างกัน

อีกทั้งในปี 2561 จะเป็นปีที่เข้าสู่การดำเนินการในโครงการอีโคคาร์ 2 มีความเป็นไปได้สูงว่า ฮอนด้าจำเป็นต้องลงแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กก่อน เพราะนับเป็นตลาดที่มีสัดส่วนสูงมากในประเทศไทยและคู่แข่งยังเตรียมที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ออกมาในช่วงดังกล่าวอีกหลายค่าย การจะปล่อยให้คู่แข่งชิงตลาดในส่วนนี้ไปก่อนไม่น่าจะใช่แนวทางของฮอนด้าแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามกำหนดการเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่น 10 น่าจะถูกวางฤกษ์ไว้ในช่วงปลายปี 2561 ส่วนรายละเอียดของตัวรถนั้น คาดว่าจะมีให้เลือก 2 ทั้งแบบ คือ เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์เบนซินซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะนำเครื่องยนต์เทอร์โบ เบนซิน 4 สูบ 1,500 ซีซีที่บรรจุอยู่ใน ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก มาใส่ในฮอนด้า แอคคคอร์ด รุ่นใหม่นี้อีกด้วย

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th