ระเบิดศึก!! 6 อีโคคาร์ ปลายปี62 ยกขบวนเปิดรุ่นใหม่รับ อีโคคาร์เฟส 2
ตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่เครื่องยนต์ไม่เกิน 1200 ซีซี หรือที่เราเรียกกันติดปากว่ารถยนต์ อีโคคาร์ นับว่าเป็นเซ็กเม้นท์ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทยเพราะดูจากยอดขายรถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ในไตรมาสแรก เดือน มกราคม – มีนาคม2562 ที่มียอดขายรวมทั้งสิ้น 53,474 คัน แบ่งเป็น 1.Toyota 20,191คัน 2. Mazda2 12,460 คัน 3.Nissan 10,438 คัน 4.Mitsubishi 5,642 คัน 5.Suzuki 4,440 คัน 6.Honda 303 คัน
ซึ่งยอดจำหน่ายถยนต์นั่งบี-เซ็กเม้นท์ + อีโคคาร์ 74,032 คัน นั้นหมายความว่ารถยนต์อีโคคาร์ได้รับความนิยมมากกว่ารถยนต์นั่งขนาดบี-เซ็กเม้นท์ ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายปลายปี62 รถยนต์อีโคคาร์จะกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น นั้นเป็นเพราะหลายค่ายต่างงัดกลยุทธ์ต่างๆออกมาสู้กัน เตรียมตัวเปิดอีโคคาร์ ใหม่ กันแบบไม่มีใครยอมใคร เรามาดูกันว่าปลายปีนี้เราจะเห็นรถยนต์อีโคคาร์รุ่นใหม่จากค่ายไหนบ้าง
TOYOTA YARIS CROSS + TOYOTA ATIV GT
เรามาเริ่มจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าที่มียอดขายอีโคคาร์สูงที่สุดกันก่อนเลย เนื่องจากรุ่นปัจจุบันทั้ง YARIS และ ATIV อยู่ในอีโคคาร์เฟส1 จึงทำให้ทางโตโยต้าจำเป็นต้องขยับปรับจูนเครื่องยนต์ใหม่ในผ่านมาตรฐานอีโคคาร์ในเฟส2 ซึ่งเครื่องยนต์จะเป็นบล็อคเดิมแต่มีการปรับจูนใหม่ Dual VVT-iE พร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมฟังก์ชัน S Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ อัตราเร่งที่ดีขึ้นให้ความสนุกในการขับขี่มากยิ่งขึ้นมีกำลังสูงสุดที่ 92 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 23.3 กม./ลิตร ลดการปล่อยไอเสียและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษ EURO 5 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาตรฐานความปลอดภัยครบครัน ระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC และถุงลม SRS 7 ตำแหน่งนอกจากนี้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น พร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด อาทิเช่น กล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง พร้อมแนะนำชุดแต่งพิเศษ YARIS CROSS และ ATIV GT
MAZDA2 HATCHBACK + SEDAN
มาสด้าปีนี้ไม่ยอมน้อยหน้าใครแน่นอนหลังจากทุ่มทุนขึ้นไลน์ผลิตรถอีโคคาร์เฟส2ไป1.2 หมื่นล้าน นับเป็นเจ้าแรกที่ลงทุนในอีโคคาร์เฟส2 ปล่อย MAZDA2 ทั้ง HATCHBACK และ SEDAN ออกมาโลดแล่นในท้องถนนบ้านเราอยู่พักใหญ่ ล่าสุดมีข่าวมาว่าปลายเดือนพฤศจิกายน2562นี้ มาสด้ากำลังจะปล่อย MAZDA2 ไมเนอร์เชนจ์ มาให้พี่น้องชาวไทยได้จับจองเป็นเจ้าของด้วยการเปลี่ยน ไฟหน้าเป็น Projector Lens แบบ LED ดีไซน์ใหม่กระจังหน้า กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ ตามรอยรุ่นที่อย่าง MAZDA3 ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ และกันชนหลังดีไซน์ใหม่ พ้อมล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่เช่นกัน ทางด้านเครื่องยนต์ของ MAZDA2 ไมเนอร์เชนจ์คาดว่ามีให้เลือก 2 ขุมพลัง เหมือนเช่นเคย ตามกฎของอีโคคาร์เฟส2 คือ ปล่อยก๊าซ CO2 ไม่เกิน 100g./km. มาตรฐานมลพิษ EURO 5 ทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไม่ต่ำกว่า 23.25 ก.ม./ลิตร ต้องติดตั้งระบบเบรก ABS, EBD, BA เป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย และติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSA เป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 1,299 ซีซี. กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E20
เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ส่วนรายละเอียดและราคาอย่างเป็นทางการเราได้ทราบกันเร็วๆนี้แน่นอนครับคอนฟิร์ม
NISSAN ALMERA
นิสสันหลังจากเงียบหายไปพักใหญ่ก็กลับมาอีกครั้งกับการเปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มอีโคคาร์รุ่นใหม่ NEW NISSAN ALMERA ที่รอบนี้มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมากทั้งรูปร่างหน้าตาใหม่ที่ดูทันสมัยโดยมิติตัวถังของรุ่นใหม่จะยาวขึ้น 30 มิลลิเมตร กว้างเท่าเดิม และสูงขึ้น 14 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อยาวเท่าๆเดิม ภายในที่ดูหรูหราขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า และทีเด็ดอยู่ที่เครื่องยนต์ใหม่ที่โยนเครื่อง1200ซีซีลูกเก่าทิ้งไป ครั้งนี้ NEW NISSAN ALMERA มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ 1.0 IG-T ให้พละกำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ระบบเบรก ABS, EBD, BA และ ระบบควบคุมการทรงตัว VDC ติดตั้งใน All NEW NISSAN ALMERA ทุกรุ่นย่อยอย่างแน่นอน ข้อมูลและราคาต้องรอเปิดตัวอย่างเป็นทางในวันที่ 14 พ.ย. นี้
MITSUBISHI MIRAGE + MITSUBISHI ATTRAGE
มิตซูบิชิ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าค่ายอื่นเช่นกันพร้อมปล่อย MITSUBISHI MIRAGE + MITSUBISHI ATTRAGE ไมเนอร์เชนจ์ พร้อมกันทั้ง 2 รุ่น โดยรอบนี้ดีหน่อยไม่ใช่แค่เปลี่ยนกระจังหน้า เปลี่ยนสติกเกอร์ แต่รอบนี้ทั้ง 2 รุ่นเปลี่ยนหน้าใหม่ทั้งหมดดูดุดัน หล่อเหล่าเอาการ พร้อมใส่ชุดแต่งมาให้ครบด้านเครื่องยนต์คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์เดิมที่มีการปรับจูนใหม่ไม่ใช่เครื่องยนต์ใหม่อย่างที่คิดไว้ โดยคาดว่าเครื่องยนต์เดิมที่ปรับจูนใหม่จะเป็น เครื่องยนต์ MIVEC ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว กำลังสูงสุด 78 แรงม้า มีการปรับจูนใหม่ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นตัวเลขน่าจะทำได้ 23.3 กม./ลิตร และขับสนุกมากยิ่งขึ้น ลดการปล่อยไอเสียและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษ EURO 5 แน่นอน มาตรฐานความปลอดภัยครบครัน ระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC มีมาให้ในทุกรุ่นย่อย ข้อมูลและราคาอย่างเป็นทางการต้องรอวันเปิดตัว 28 พ.ย.นี้นะครับ
SUZUKI SWIFT
ยังคงเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในกลุ่มของอีโคคาร์ของค่ายนี้ ลองลงมาก็จะเป็น SUZUKI CIAZ และ SUZUKI CELERIO เนื่องจาก ALL NEW SUZUKI SWIFT เปิดมาก่อนเพื่อนและผ่านมาตรฐานอีโคคาร์เฟส2 เป็นที่เรียบร้อยจึงทำให้ค่ายนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเครื่องยนต์ของ ALL NEW SUZUKI SWIFT เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ DOHC 1.2 ลิตร 1,197 ซีซี. ระบบหัวฉีดคู่ Dual JET ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 37 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ปล่อย CO2 ไม่เกิน 100 g./km. มาตรฐานความปลอดภัยมีมาให้แบบจัดเต็มมาให้อยู่แล้ว Hill Hold Control ถุงลมนิรภัย SRS 6 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TSC ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล ดิสก์เบรก 4 ล้อ
ประเด็นที่น่าสนใจของค่ายนี้ไม่ได้อยู่แค่ที่ SUZUKI SWIFT และมันคือ SUZUKI CELERIO ที่ฉลองครบรอบ 100 ปี ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย เลยจัดหนักด้วยการปรับราคาจำหน่าย SUZUKI CELERIO เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ให้การตอบรับและสนับสนุนซูซูกิด้วยดีเสมอมา อีกทั้งยังเป็นการตอบแทนความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเพื่อให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ของซูซูกิโดยการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้ง่ายขึ้น
รายละเอียดรุ่น/เกียร์ ราคาเดิม (บาท) ราคาใหม่ (บาท)
เซเลริโอ (CELERIO) GA M/T 363,000 318,000
เซเลริโอ (CELERIO) GL CVT 443,000 398,000
เซเลริโอ (CELERIO) GX CVT 472,000 427,000
HONDA CITY
ค่ายฮอนด้าหลังจากปล่อย HONDA BRIO และ HONDA BRIO AMAZE และดูเหมือนไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก แน่นอน ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด พลิกตำราลงสู้ในศึกรถยนต์อีโคคาร์อีกครั้งด้วยการจับเอารถยนต์ บี-เซ็กเม้นท์ ที่ขายดีที่สุดของอย่าง HONDA CITY มา downsizing เครื่องยนต์ลงจากเครื่องยนต์ 1500 ซีซี เป็นเครื่องยนต์ใหม่ 3 สูบ 1.0 ลิตร VTEC Turbo มาวางแทน เพื่อให้เข้ามาอยู่ในกลุ่มอีโคคาร์เฟส2
เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร VTEC Turbo พร้อมระบบแปรผันวาล์ว ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วง Turbocharger แบบ Single Scroll กำลังสูง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT อาจจะรองรับน้ำมันสูงสุดถึง E85 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งในตลาดเมืองไทยเลยก็ว่าได้ แน่นอนเจ้าเครื่องยนต์ลูกนี้ปล่อยก๊าซ CO2 ไม่เกิน 100g./km. ผ่านมาตรฐานมลพิษ EURO 5 และทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไม่ต่ำกว่า 23.25 ก.ม./ลิตร ระบบความปลอยภัยระบบเบรก ABS, EBD, BA และระบบควบคุมการทรงตัว VSA เป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย
ข้อมูลและราคาอย่างเป็นทางการต้องรอเปิดตัว All NEW HONDA CITY ในวันที่ 25 พฤศจิกายน นี้
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ภาพ : netcarshow.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th