รีวิวซิตี้คาร์ยอดนิยม แอททราจ และมิราจ ปรับใหม่ ใส่อุปกรณ์เพิ่ม
หลังจากที่ มิตซูบิชิ ได้ส่ง แอททราจ และมิราจ ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เวอร์ชั่นปี 2017 ลงตลาดไปเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยแนวคิดที่ว่า “เหนือกว่าทุกความเป็นไปได้” สำหรับแอททราจ และ “ปลุกความเร้าใจไปให้สุด” สำหรับมิราจ ที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มากขึ้น และเพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ซิตี้คาร์ทั้ง 2 รุ่น ทางบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น บนเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทางรวมกว่า 350 กิโลเมตรขึ้น
ก่อนที่จะเข้าสู่กิจกรรมทดสอบสมรถนะ เราไปดูความเปลี่ยนแปลงของรถทั้ง 2 รุ่นนี้กัน โดยเฉพาะในรุ่น GLS Lid. ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกโดยเฉพาะด้านหน้ารถจะดูเหมือนว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ชุดไฟตกแต่งแบบ LED บริเวณกันชนหน้าใน มิราจ ก็ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวได้ไม่น้อย ขณะที่รุ่น แอททราจ เองก็มีกันชนหลังและไฟท้ายแบบใหม่
แต่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดขายของทั้ง แอททราจ และมิราจ ในครั้งนี้ น่าจะอยู่ที่อุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย อย่าง เข็มขัดนิรภัยหลังแบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง และจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง ขณะที่ภายในห้องโดยสารเน้นความรู้สึกในแบบสปอร์ตด้วยเบาะหนังสีดำเดินดายแดง ที่มาพร้อมพนักพิงศรีษะในเบาะโดยสารตอนหลังที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้ามาอย่าง ระบบล็อคความเร็วบนพวงมาลัย หรือ Cruise Control และระบบ Apple Car Play ซึ่งหาไม่ได้ง่ายนักในรถยนต์ระดับซิตี้คาร์
มาถึงในเรื่องของเครื่องยนต์กันบ้าง รถทั้ง 2 รุ่นยังคงใช้เครื่องยนต์ไมเวค (MIVEC) 1.2 ลิตร ซึ่งได้รับการยอมรับว่า เป็นเครื่องยนต์ที่ให้ทั้งความแรง แต่ในขณะเดียวกันก็มีอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำ แถมยังเป็นเครื่องยนต์ที่ช่วยลดมลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และระบบ INC ที่ช่วยควบคุมและตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง พร้อมด้วยระบบ G-Sensor ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้มีความแม่นยำอีกด้วย
มาถึงช่วงลองขับกันบ้าง ผมเริ่มต้นทริปนี้ด้วยการเป็นผู้โดยสาร สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อก้าวเข้ามานั่งในห้องโดยสารด้านหลังก็คือ เรื่องของความกว้างขวาง ที่นั่งสบาย ถึงจะมีผู้โดยสารนั่งครบทุกตำแหน่งก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัด เอาเป็นว่า ถ้าคิดจะขนเพื่อนๆ ไปเที่ยวด้วยสัก 3-4 คน ก็สามารถทำได้อย่างสบาย ไม่ต้องห่วงเรื่องความขับแคบอะไร
ขยับจากผู้โดยสาร มาเป็นผู้ขับขี่บ้าง เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 100 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ CVT ให้อัตราเร่งได้อย่างน่าสนใจ การเปลี่ยนอัตราทดทำได้ต่อเนื่อง ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ราบลื่น ไม่มีอาการสะดุด รวมถึงกำลังที่มีให้อย่างต่อเนืองเช่นกัน
ขณะที่ช่วงล่างของทั้ง แอททราจ และมิราจ จัดว่าเซ็ทมาแบบพอดีๆ ไม่แข็งหรือนิ่มยวบจนเกินไป โดยสารทางไกลได้อย่างสบาย ขณะระบบ Apple Car Play คือการนำ iPhone มาต่อกับสาย Lightning เข้ากับช่อง USB ในรถ รองรับการใช้งานโทรศัพท์ ทั้งสมุดโทรศัพท์ การรับสาย โทรออก โดยอิงจากข้อมูลการโทรใน iPhone ทั้งหมด และยังสามารถเล่นเพลงจาก iPhone โดยดึงเพลงที่มีในเครื่อง Playlist ที่ตั้งไว้ รวมถึงรองรับ iTunes Radio เช่นกัน เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น
เรื่อง : ณัฐพล จิระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th