รีวิว ฮอนด้า HR-V RS เพิ่ม 2 หมื่น เติมออฟชั่นเพียบ
หลังจากฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เปิดตัว ฮอนด้า HR-V ไมเนอร์เชนจ์ โดยการแต่งหน้าตาปาก เติมออฟชั่นเด็ด เสริมอาวุธให้กับเจ้า HR-V ออกมาสู้คู่แข่งในตลาด มินิ ครอสโอเวอร์ กับ 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ รุ่น E ราคา 949,000 บาท รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท และรุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท ซึ่งจะเห็นว่าราคาในรุ่น ไมเนอร์เชนจ์ นี้จะมีการปรับราคาเล็กน้อยแต่ใส่ของมาให้เยอะคุ้มเกินราคา โดยรุ่นที่เราจะมารีวิววันนี้จะเป็นรุ่นท็อปสุดซึ่งทางฮอนด้าเค้าเปลี่ยนชื่อจากรุ่น EL ราคา 1,099,000 บาท มาเป็นรุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นมา 20,000 บาท คราวนี้เรามาดูกันว่าราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นมานั้นเราได้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง
ฮอนด้า HR-V RS มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะด้านหน้า ที่เติมความโฉบเฉี่ยวด้วยกันชนหน้า-หลังสไตล์สปอร์ต กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมียมรมดำแบบสปอร์ต ดูพรีเมี่ยมด้วยวัสดุมันเงาสีดำ ด้านล่างของกระจังหน้าจะเป็นช่องแบบรังผึ้งเสริมความสปอร์ต ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ดูโฉบเฉี่ยว ไฟตัดหมอก LED ดีไซน์รับกับไฟหน้าได้อย่างลงตัว สวยเท่ห์ด้วยสเกิร์ตรอบคันสีดำเงาแบบสปอร์ต ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ต มือจับเปิดประตูด้านหน้าแบบโครเมียมรมดำ ไฟท้าย Tube LED รมดำ
กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต พร้อมแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ล้อแม็กลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว ที่ดีไซน์ไม่โดนใจผมเท่าไหร่นัก ถ้าซื้อมาผมคงเปลี่ยนล้อก่อนเลยอย่างแรก และสัญลักษณ์ RS บนฝากระโปรงท้าย มิติตัวรถเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่ความยาว 4,346 มม. ความกว้าง 1,790 มม. ความสูง 1,605 มม. ฐานล้อ 2,610 มม. ควาสูงใต้ท้องรถ 170 มม. น้ำหนักรถ 1,297 กก. และความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร และมีสีใหม่ สีแดงแพสชั่น (มุก) ซึ่งหลายคนมองรวมทั้งผมเห็นเป็นสีแดง แต่ทางฮอนด้าบอกแดง เอาครับแดงก็แดง
ภายในของ ฮอนด้า HR-V RS ปรับอะไรบ้างนะเพราะเข้าไปภายในมันเหมือนเดิมเลยยังคงเน้นในโทนสีดำ แต่ที่สังเกตได้ก็เบาะคู่หน้าละครับดีไซน์ใหม่ โอบกระฉับมากขึ้นนั่งสบายดีครับ ปรับไฟฟ้านะเพราะเป็นตัวท็อบ แน่นอนเจ้าคันนี้เบาะหลังสามารถปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode รองรับการขนย้ายสัมภาระที่หลากหลายในทุกรูปแบบ
อีกหนึ่งอย่างที่เปลี่ยนก็คือเพิ่มขนาดหน้าจอสัมผัสใหญ่ขึ้นเป็น 7 นิ้ว และแป้นคันเร่งเบรกแบบอลูมีเนียม ครบครันเหมือนเดิมทั้ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบปุ่มสตาร์ทรถ Push Start พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบสปอร์ต พร้อมpaddle shift อ่อ อีกอย่าง ในฮฮนด้า HR-V RS คันนี้มีการกลับมาของ panoramic roof หลังจากที่อยู่ดีๆก็หายไปจากรุ่นเก่าน่าจะมีปัญหาอะไรซะอย่าง แต่กลับมาครั้งนี้แก้ไขเรียบร้อยมาพร้อมกับระบบกันหนีบด้วยนะ
ฮอนด้า HR-V RS มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ยกระดับไปอีกขั้น เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง เช่น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ก่อนที่จะไปถึงเครื่องยนต์อีกอย่างที่ผมชอบในรถฮฮอนด้า HR-V RS คันนี้คือเบาะนั่งด้านหลัง เพราะมันโล่งนั่งสบายดีไม่อึดอัดปวดหัว ผมลองเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า CH-R นะครับ ที่ผมไปนั่งด้านหลังมาทั้งที่มือจับเปิดประตูหลังมันก็อยู่ตำแหน่งเดียวกัน แต่เจ้าโตโยต้า CH-R ดันมีพลาสติกสีดำขนาดใหญ่กินเนื้อที่กระจกข้างด้านหลังมาเยอะทำให้คนนั่งรู้สึกเหมือนโดนบีบ ผมนั่งนานๆแล้วปวดหัว แต่เจ้าฮอนด้า HR-V RS มันจะโล่งสบายกว่าอย่างเห็นได้ชัดไม่เชื่อลองดู
เครื่องยนต์ และเกียร์ ของฮอนด้า HR-V RS เดิมครับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT การขับขี่ผมว่าน่าจะพอทราบข้อมูลกันอยู่แล้ว อัตราเร่งทำได้ดีครับไม่มีปัญหา ไม่ได้จื๊ดจ๊าดมาก แต่ก็วิ่งดีพอตัว ทำงานผสานกับเกียร์ CVT ได้อย่างลื่นไหล การเร่งแซงทำได้ดีไม่มีปัญหา มีความคล่องตัวสูง ทั้งนอกเมือง และในเมือง
ช่วงล่างก็เหมือนเดิมครับ ปรับเซ็ทมาได้นุ่มนวล แต่ไม่ย้วย นุ่ม หนึบ ดีครับ แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง โตโยต้า C-HR แล้วช่วงล่างของคู่แข่งจะฟิลลิ่งดีกว่าครับ แต่ก็กระด้างกว่าเจ้า ฮอนด้า HR-V RS ครับ อันนี้แล้วแต่คนชอบครับว่าชองช่วงล่างกระด้าง หรือนุ่มนวล ครับ ช่วงล่างของ ฮอนด้า HR-V RS สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดี การเข้าโค้งด้วยความเร็วก็ไม่มีปัญหาครับสบายๆ
สรุปกันดีกว่าครับว่าเจ้า ฮอนด้า HR-V RS คันนี้น่าสนใจหรือไม่กับการที่ต้องควักเงินในกระเป๋าเพิ่มอีก 2 หมื่นบาท ดูจากของที่ใส่เพิ่มเข้ามาให้ผมว่าคุ้มค่านะครับ ทั้งไฟหน้า กระจังหน้า ชุดแต่งรอบคัน แม็ก 17 นิ้ว ผมว่าแค่นี้มันก็คุ้มค่าเงิน 2 หมื่นแล้วละ นี่ยังมีระบบต่างๆที่ให้มาไม่ว่าจะเป็น City Brake Active System , Honda LaneWatch เสริมเข้ามาอีกท่านไหนที่กำลังมองหารถยนต์ประเภทนี้บอกเลยว่าไม่ควรมองข้ามเจ้า ฮฮนด้า HR-V RS คันนี้ กับราคา 1,119,000 บาท ผมว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคานะครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th