รีวิวแรก!! ลองขับ BMW 2 Series Gran Coupe 2020 ใหม่ ก่อนขายไทย
รีวิวแรกกับการบินข้ามโลกไปทดลองขับ BMW 2 Series Gran Coupe 2020 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ประเทศโปรตุเกส Grand prix online ได้รับหมายเชิญจาก BMW ประเทศไทย ให้เข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการทดสอบครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ เพราะนอกจากประเทศไทยแล้วยังมีนักรีวิวรถยนต์จากหลายหลากประเทศทั่วโลกเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
BMW 2 Series Gran Coupe 2020 ใหม่ เป็นรถยนต์หรู 4 ประตูรุ่นเล็กจากค่ายกังหันสีฟ้าBMW 2 Series Gran Coupe 2020 รุ่นนี้นับเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Mercedes-Benz CLA ใหม่ และการที่ BMW ประเทศไทยมีแผนที่จะนำเจ้าBMW 2 Series Gran Coupe 2020 มาจำหน่าย ทำให้ค่ายคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz ต้องทำการบ้านอย่างหนักเลยทีเดียว เพราะการมาของเจ้า BMW 2 Series Gran Coupe 2020 นั้นหมายความว่า Mercedes-Benz CLA จะมีคู่แข่งเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์หรูขนาดเล็กในประเทศไทยหลังจากครองตลาดในเซ็กเม้นท์นี้มานาน (ซึ่งบ้านเราในปัจจุบันเจ้า CLA ยังไม่มีคู่แข่งอย่างเป็นทางการ )
ต้องบอกเลยว่าBMW 2 Series Gran Coupe 2020 เป็นคู่แข่งที่น่ากลังมากเพราะด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวผสานกับความหรูหราได้อย่างลงตัว แถมตัวถังของ 2 Series Gran Coupe มีขนาดความยาว 4,526 มม. ความกว้าง 1,800 มม. ความสูง 1,420 มม. และความยาวฐานล้อ 2,670 มม. ซึ่งโดยรวมแล้วเล็กกว่า 3 Series เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เน้นดีไซน์แบบกว้างและเตี้ยตามฉบับรถสปอร์ต มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายขนาด 430 ลิตร และสามารถพับเบาะหลังในแบบ 40:20:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้
ดีไซน์ด้านหน้ามายกมาจาก BMW 1-Series เลยก็ว่าได้แต่มีการปรับดีไซน์ไฟหน้าเล็กน้อย และออกแบบด้านท้ายในสไตล์ Gran Coupe ไฟหน้าแบบ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานขณะที่ไฟท้ายถูกออกแบบใหม่ด้วยรูปทรงเรียวบางช่วยให้ตัวรถดูกว้างขึ้น มาพร้อมประตูแบบไร้กรอบหน้าต่างทั้ง 4 บาน
BMW 2 Series Gran Coupe ถูกติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย เช่น กุญแจ BMW Digital Key ที่สามารถล็อก-ปลดล็อก และสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากสมาร์ทโฟน, ระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่สามารถเรียนรู้เส้นทางและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ได้ และระบบ Connected Navigation ที่สามารถส่งข้อมูลสถานที่จากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนไปยังตัวรถได้ทันที
ภายในแผงแดชบอร์ดรวมทั้งรายละเอียดต่างๆ คล้ายกับ 1 Series ใหม่ ถูกออกแบบเพื่อให้ปุ่มควบคุมที่มักถูกใช้บ่อยอยู่ทั้งที่พวงมาลัยและคอนโซลกลาง รวมทั้ง iDrive Controller พร้อมทัชแพด โดยใช้หน้าปัดแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอล BMW Live Cockpit Plus มีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 10.25 นิ้วที่เอียงเข้าหาคนขับเล็กน้อย ส่วนเรือนไมล์เป็นจอดิจิทัลขนาด 9.2 นิ้ว แสดงผลการทำงานของตัวรถอย่างชัดเจนเต็มตาแน่นอนว่า 2-Series Gran Coupe ต้องมาพร้อมระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของตัวรถโดยการสั่งงานด้วยเสียง
ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งระบบป้องกันการชนด้านหน้า Collision and Pedestrian Warning with City Braking และระบบป้องกันรถออกนอกเลน Lane Departure Warning with Active Lane Return เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถเลือกออปชั่นเสริมได้ทั้งระบบ Active Cruise Control, ระบบเตือนเปลี่ยนเลน Lane Change Warning, ระบบเตือนการชนท้ายและรถเคลื่อนผ่านด้านหลัง Rear Collision Warning and Crossing Traffic Warning และระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ Reversing Assistant เป็นต้น
BMW 2 Series Gran Coupe2020 มาพร้อมกับ 3 ทางเลือกของเครื่องยนต์คือ 218i ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,500 ซีซี ทวินเทอร์โบ 140 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตัน-เมตร มีทั้งเกียร์แมนนวล 6 สปีดและ Steptronic 8 สปีดให้เลือกใช้ส่งกำลัง (ขับเลื่อนล้อหน้า) รุ่น 220d กับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร โดยมีเฉพาะเกียร์ Steptronic 8 สปีดส่งกำลัง (ขับเคลื่อนล้อหน้า) และสำหรับรุ่นแรงสุดมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ คือรุ่น M235i xDrive ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2,000 ซีซี ทวินเทอร์โบเป็นขุมกำลัง ในการสร้างพลังขับเคลื่อน 306 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร มีเกียร์ Steptronic 8 สปีดส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 เพื่อให้รถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.9 วินาที โดยนอกจาก M235i xDrive จะมีกำลังมากกว่ารุ่นอื่นแล้ว ภายนอกยังบ่งบอกถึงความแรงที่แตกต่างทั้งจากกระจังหน้าและชุดแอโรไดนามิกที่ดุดันกว่ารุ่นมาตรฐานด้วย
ในส่วนของระบบช่วงล่างทาง BMW ระบุว่าจะมีการปรับจูนแตกต่างกันในแต่ละรุ่นเครื่องยนต์ พร้อมกับมีช่วงล่าง M Sport ที่ลดความสูงของรถลง 10 มม. หรือช่วงล่างอแดปทีฟที่มาพร้อมกับการปรับควบคุมโช๊คอัฟแบบแปรผันเป็นออฟชั่นเสริม
การทดสอบเริ่มต้นที่โรงแรม Altis Balem ในเมืองลิสบอนโดยเส้นทางจะวนเป็นวงกลมออกผ่านไปนอกเมืองและวนกลับมาอีกฝั่ง ซึ่งเราจะได้ขับ 2 รุ่นคือBMW 2 Series Gran Coupe 220d และตัวแรงอย่างBMW 2 Series Gran Coupe 235i Xdrive ขับเคลื่อน4 ล้อ ระยะทางในการทดสอบทั้งหมดประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร โดยมีสภาพถนนที่หลากหลายทั้งในตัวเมืองที่มีรถหนาแน่นและถนนแคบ ทางไฮเวย์เพื่อให้ลองอัตราเร่ง และเส้นทางภูเขาที่มีโค้งซ้าย-ขวา และโค้งหักศอกให้ได้ลองสมรรถนะของระบบช่วงล่าง เรียกได้ว่าครบรสเลยทีเดียวครับ
เราเริ่มขับจากBMW 2 Series Gran Coupe 220d รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ซึ่งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนี้จะเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราอย่างแน่นอน เริ่มออกจากโรงแรมที่พักในตัวเมืองมุ่งหน้าขึ้นทางไฮเวย์ที่ค่อนข้างโล่งและถนนเรียบเราจึงได้ลองสมรรถนะของอัตราเร่งกันเล็กน้อย เพราะที่โปรตุเกสเค้ามีกล้องจับความเร็วจร้าเราเลยได้ลองกันแค่พอหอมปากหอมคอเท่านั้น อัตราเร่งของเครื่องยนต์ดีเซลลูกนี้ต้องบอกว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียวครับ วิ่งในเมืองมีความคล่องตัวสูงสามารถลัดเลาะตามช่องว่างได้อย่างสบาย อัตราเร่งช่วงออกตัวทำได้ดีแถมมีโหมด Ecoให้ได้ใช้ในยามวิ่งในเมืองและถ้าอยากสนุกก็มีโหมด Sport ให้เครื่องยนต์จะกระฉับกระเฉงมากขึ้นและช่วงล่างก็จะแน่นเฟริ์มขึ้น แต่มันก็ต้องแลกกับความแข็งกระด้างขึ้นมากกว่าใช้โหมดEcoนะครับ อัตราเร่งกลางถึงปลายทำได้ดีอีกเช่นกันบอกเลยว่าขับสนุกมากความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องและลื่นไหล(ขึ้นแบบผู้ดีๆครับผม) เส้นทางเขาเค้าโค้งด้วยความเร็วได้แบบสบายแน่นหนึบคนกริบควบคุมง่ายน้ำหนักพวงมาลัยก็กำลังดี
เผลอแปปเดียวขับเพลินๆก็มาถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนรถมากเป็นตัวแรงอย่างBMW 2 Series Gran Coupe 235i Xdrive ซึ่งเจ้านี้ขับเคลื่อ4ล้อนะครับ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ 306 แรงม้า เราออกจากจุดพักแผนที่ทีมงานเซ็ทให้มันหาย เลยเซ็ทใหม่เองมันดันพามาเรามาทางด่วนตัดกลางมาเลย แต่ก็ดีครับเราเลยได้ลองอัตราเร่งบนทางไฮเวย์ บอกเลยครับว่าแรงเอาเรื่องเลยฟิลลิ่งการขับสนุกกว่า 220d กดเป็นมาเลยครับผมยิ่งเปลี่ยนเป็นโหมดSport ยิ่งขับสนุกมากขึ้นเร่งแซงหายห่วง กดไปเพลินๆทะลุ 150 กิโลเมตร/ชั่วโมงแบบง่ายดาย ยังไปได้อีกนะครับแต่ยกดีกว่ากฎหมายที่นี่แรงปรับหลายบาท ช่วงล่างแน่นมากเค้าโค้งเนียนเพิ่มความมั่นใจได้ควบคุมง่าย แต่พอเข้ามาถึงในเมืองลิสบอนถนนในเมืองบ้านเค้าปูด้วยอิฐบล็อกทำให้สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนและแข็งกระด้าง เลยปรับเปลี่ยนเป็นโหมด Eco ดีขึ้นเห็นชัดเจนเลยนุ่มนวลและเงียบขึ้นเยอะครับ (น่าเสียดายที่รุ่น235i Xdrive คันนี้ไม่น่าจะมีโอกาสเข้ามาขายในไทย)
เนื่องจากเวลาเราเหลือก่อนจะบินกลับเมืองไทยเลยเดินเข้าไปบอกกับทีมงานของ BMW ว่าเราอยากลองขับรุ่น 218i เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,500 ซีซี ทวินเทอร์โบ 140 แรงม้า เพราะว่ารุ่นนี้จะเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราอีกหนึ่งรุ่น ทีมงานจัดให้ตามคำขอครับแต่ให้เวลา 1 ชั่วโมง เพราะมีรถรุ่นนี้อยู่คันเดียวเราไม่รอช้าครับกระโดดขึ้นรถขับออกไปทันที อัตราเร่งของ 218i ถึงแม้จะเครื่องแค่ 1,500 ซีซี แต่ก็ขับสนุกครับอัตราเร่งใช้ได้เลยทีเดียวอาจจะขับไม่สนุกเท่า 220d และ 235i แต่ไม่ได้อืดหนืดนะครับเพียงแต่มันขับสนุกไม่เท่า 2 รุ่นที่ขับก่อนหน้าก็เท่านั้น ถ้าพูดถึงการใช้งาน 140 แรงม้า มันก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรืออาจจะเกินพอด้วยซ้ำแถมราคาถูกกว่า 2 รุ่นก่อนหน้าอีกด้วย
สรุป รูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยวสะดุดตา บอดี้ไม่เล็กมากนั่งหลังสบาย เบาะคู่หน้านั่งสบายและกระฉับตัว เครื่องยนต์ที่จะเข้ามาขายในประเทศไทยจะเป็นรุ่น 218i เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ทวินเทอร์โบ 1,500 ซีซี ทวินเทอร์โบ 140 แรงม้า และ 220d เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ 190 แรงม้า ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี ระบบเอ็นเตอร์เทรนเม้นท์ และระบบเพื่อความปลอดภัย อัดแน่นมาให้แบบเต็มเปี่ยม พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ส่วนเรื่องราคาจำหน่ายในไทยเราต้องมารอลุ้นพร้อมกันเร็วๆนี้แน่นอน
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th