รีวิว XPANDER CROSS 2023 ช่วงล่างแน่น ห้องโดยสารเก็บเสียงดีเกินคาด ภายในวัสดุดี ใช้พวงมาลัยปาเจโร่ สปอร์ต ราคาน่าคิด

New Mitsubishi XPANDER CROSS เปิดตัวลงทำตลาดในประเทศไทยด้วยการปรับโฉมมาใหม่ ด้วยความพยายามจะตีกินตลาดให้กว้างขึ้น ด้วยการนิยามความอนเกประสงค์ของตัวรถให้ครอบคลุมทั้งกลุ่ม MPV และ SUV  ใส่มาทั้งชุดแต่งสไตล์ออฟโรด เพิ่มความดุดัน แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มออปชั่นการทำงานทั้งภายในและภายนอกมาอย่างเต็มที่ วางราคาขาย 946,000 บาท

รีวิว XPANDER CROSS ดีไซน์ปรับมาใหม่ บึกบึน ดุดัน 

มิติตัวรถมีความยาว 4,595 มิลลิเมตร (ยาวขึ้น 95 มิลลิเมตร) กว้าง 1,790 มิลลิเมตร (แคบลง 10 มิลลิเมตร) สูง 1,750 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,520/1,510 มิลลิเมตร ระยะยื่นหน้าหลัง 900/920 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 220 มิลลิเมตร วงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ถูกอัพเกรดด้วยชุดแต่ง Cross Design กระจังหน้าทรงไดนามิคชิลด์เหลี่ยม ดูแข็งแกร่งสไตล์ออฟโรด ไฟหน้าแบบใหม่ T-Shape LED และไฟ DRL ใหม่ พร้อมไฟตัดหมอก LED ด้านข้างดูเหมาะกับสายลุยและเสริมบุคลิกรถให้ดูแกร่งด้วยโป่งล้อสีดำด้าน ดูเข้าขากับสเกิร์ตข้างสีเดียวกัน คิ้วสีเมทัลลิก ล้อขนาด 6.5×17 นิ้ว ยาง 205/55/17 หลังคาติดตั้งราวหลังคาสีดำ กันชนท้ายทรงแกร่งเช่นเดียวกับด้านหน้า พร้อมไฟท้ายแบบ LED รูปลักษณ์โดยรวมผสมผสานทั้งความล้ำสมัย เพิ่มออปชั่นงานขายด้วยตัวถังสีทูโทน แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 20,000 บาท 

ภายในเน้นหรูหรา ฟังก์ชั่นเยอะ

ห้องโดยสารปรับเปลี่ยนใหม่หลายจุด ออกแบบด้วยแนวคิด Horizontal Axis เพื่อให้ผู้ขับใช้งานสะดวกจากความเรียบง่ายโปร่งสบาย แต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัย และให้อุปกรณ์มาตรฐานที่รองรับการใช้งานตามประเภทรถได้ครบถ้วน

เน้นขายความเงียบด้วยการเพิ่มวัสดุซับเสียงและฉนวนกันเสียงรอบห้องโดยสาร รวมทั้งผนังห้องเครื่องยนต์ และฉนวนกันเสียงใต้ฝากระโปรงหน้า ตกแต่งด้วยเบาะหนังที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนสีทูโทน ดำ-น้ำเงิน Black-Navy Blue 

พวงมาลัยยกของปาเจโร่ สปอร์ตมาใส่ เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นแบบ 4 ก้านหุ้มหนังดีไซน์ใหม่  มีสวิตช์ควบคุมความเร็ว สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์ ชุดมาตรวัด LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ 

จอกลางระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มีช่องเชื่อมต่อแบบ USB-A และ USB-C สำหรับเบาะแถว 2 รวมทั้งช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ 

เด่นอีกจุด คือ ระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระพร้อมสวิตช์ควบคุม นอกจากนั้นยังมี ชุดแอร์ดิจิตอลที่มาพร้อมกับแผ่นกรองอากาศ PM 2.5 ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ, เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Brake Auto Hold, เพิ่มกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, และระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ 

เครื่องยนต์เดิมแต่ปรับจูนใหม่

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 4A91 แบบ 4 สูบ DOHC MIVEC 16 วาล์ว 1,499 ซีซี กระบอกสูบ 75.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 84.8 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.0:1 กำลังสูงสุด 77 กิโลวัตต์ หรือ 105 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับ E20 ถังน้ำมันจุ 45 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ CVT Eco-Dynamic CVT อัตราทดเท่าเดิมทั้งเกียร์เดินหน้า ถอยหลัง และเฟืองท้ายเบอร์ 5.698

ช่วงล่างปรับใหม่ ช็อคอัพใหญ่ขึ้น

 Xpander Cross ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวช๊อกอัพ ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม ซึ่งทำการเพิ่มขนาดช๊อก หลัง พร้อมปรับค่า K ใหม่ เน้นไปที่ความแน่นแต่นุ่ม ลดการโคลงตัวของรถพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน EPS เพาเวอร์ไฟฟ้า เบรกหน้าดิสก์หลังดรัม พร้อม ABS, EBD และ BA 

ลองวิ่งทั้งทางเรียบ ขึ้นเขา ทางฝุ่น เอาอยู่

เส้นทางการวิ่งทดสอบ วางไว้ให้เผชิญกับสภาพถนนที่หลากหลาย เพราะต้องการขายความอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ที่พาผู้ใช้ไปได้ทุกที่ ทัศนวิสัยการขี่จัดว่าโล่งโปร่งสบาย มองเห็นมุมมองการขับขี่ได้ชัดเจน 

ตำแหน่งการจัดวางเบาะคนขับดูจะแปลกไปนิด คล้ายว่าจะมีตำแหน่งที่เตี้ยกว่าคู่แข่งในตลาด การปรับความสูงเบาะก็ดูจะทำไม่ได้ แม้ตัวทรงของเบาะจะใช้วัสดุดี นั่งสบาย แต่ตัวโครงสร้างแอบดันหลังมานิดหน่อยเลยทำให้รู้สึกไม่โอบกระชับมากนัก เบาะแถว 2 กว้างขวงนั่งสบาย มีแอร์เย็นๆ เป่าหน้า  ที่ไม่ใช่ ตัวดูดพัดลมเหมือนรุ่นอื่น ลดปัญหาเรื่องความเย็นไม่ทั่วถึง มีช่องเก็บของตรงเบาะคนโดยสารให้เก็บของจุกจิกได้เยอะ 

จากการได้ลองขับในหลายสภาพถนน สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน คือ การเก็ฐเสียงห้องโดยสาร คิดว่าทำออกมาได้ดีที่สุดในกลุ่ม ขับความเร็วสูงระดับ 120 กม./ชม.แทบจะไม่ได้ยินเสียงลม เสียงยาง เล็กลอดเข้ามาน้อยมาก อีกหนึ่งจุดที่ทำมาได้ดีกว่าเดิมคือ การเก็บเสียงจากห้องเครื่องยนต์ ถ้าใครเคยได้ลองขับในตัวเก่า จังหวะการกดเร่งแซง หรือ ใช้ความเร็วสูง จะรับรู็ได้ถึงความอื้ออึงของเสียงจากห้องเครื่องจนรำคาญ แต่ตัวนี้แก้มาได้ดี 

มาตรวัด LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ ควบคุมด้วยปุ่มบนพวงมาลัยฝั่งซ้าย ใช้งานง่าย จอกลางระบบสัมผัสขนาดใหญ่สะใจ 9 นิ้ว ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วลื่นไหลดี เชื่อมต่อ Apple CarPlay ด้วยสาย USB-A ของแท้ ส่วนช่องเชื่อมต่อสำหรับชาร์จไฟฟ้าทั้ง USB และ 12 โวลต์ มีให้เพียงพอสำหรับการใช้งานเวลาไปเป็นครอบครัว

การขับขึ้น-ลงเขา ช่วงล่างทำงานของตนเองได้ดีเยี่ยม อาการย้วย ๆ โยน ๆ มีออกมาน้อย ลดอาการ วิงเวียนศรีษะของคนในรถไปได้มาก อัตราเร่งก็นับว่าดี โดยเฉพาะช่วงออกตัว หรือแม้จะเป็นการลากตัวรถขึ้นเขาชันก็มอบกำลังได้ต่อเนื่อง เกียร์เซ็ตมาแนวนุ่มนวล ดูผู้ดีเชียวละ จนบางทีก็แบบว่าตอบสนองช้าไปนิด ต้องเรียนรู้จังหวะการกด การยกคันเร่งให้เหมาะอยู่สักพัก ก็พอจะจับได้ว่าควรขับแบบไหนถึงจะเหมาะ ช่วงลงเขาปรับเข้าโหมดเกียร์ L แอบตกใจว่ากำลังเครื่องไม่ได้ช่วยเป็น Engine เบรกให้เรามากนัก ต้องแตะเบรกช่วยอยู่บ่อย ๆ 

ความสนุกในทางฝุ่น ลุยได้นะ แต่เบาเถอะ

มิตซูบิชิ เหมาไร่บุญรอดหรือสิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย มาให้นักข่าวได้ลองระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งใหม่อย่าง AYC หรือ Active Yaw Control ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง ทำงานร่วมกับระบบเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น ASC -Active Stability Control ระบบควบคุมเสถียรภาพการตรงตัว, HSA – Hill Start Assist ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และ TCL – Traction Control System หรือระบบป้องกันการลื่นไถล TCL ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะทางเรียบเท่านั้น

พระเอก AYC

ระบบกันสะเทือนชุดนี้แน่นเชียวละ ตัวรถมีความสูงระบบ 220 มม. แต่การเข้าโค้งในทางฝุ่นด้วยความเร็วสูง ช่วงล่างยังเกาะไปตามโค้งได้ดี อาการโยนเอียง มีน้อย แต่มีนะ แต่มีในระดับที่เรารู้สึกได้ว่าปลอดภัย ถ้าเทียบกับรุ่นเดิม หรือคู่แข่งในตลาดน่าจะกิน เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ไม่ลง 

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ามีการตอบสนองดี แม่นยำ แต่ก็ไม่ได้คมกริบ อยู่ในระดับควบคุมรถได้มั่นใจ แอบคิดว่าเซ็ตมาเปื่อคุณสุภาพสตรีเสียมากด้วยซ้ำ  แปรผันการผ่อนแรงได้สอดคล้องกับความเร็ว  ระบบเบรกหน้าดิสก์ หลังดรัม ใช้เวลาปรับตัวกับการใ้ชน้ำหนักเบรกพอควร เกมือนจะต้องกดน้ำหนักลงไปมากกว่าปกติ  เพราะหลายจังหวะ แตะเบารถเหมือนจะยังไหลไปเรื่อยๆ อยู่ 

ทางฝุ่นที่สภาพถนนขรุขระตลอดเวลา ช่วงล่างดูดซับแรงสะเทือนได้ดีมาก ไม่เจอการกระแทกหรือ ปั๊มแรงๆ มากนัก  มีสเตชั่นให้ลองระบบ TCL โดยจอดสนิทบนเนินชันพื้นผิวเป็นฝุ่นดิน ลองกดคันเร่งหนักเพื่ออกตัว รถก็ดูจะไต่ขึ้นเนินได้สบายไม่มีอาการเป๋ ซ้าย ขวา ให้รู้สึก 

ส่วนพระเอกช่วงล่างอย่าง AYC การวางจุดให้สาดเข้าโค้งด้วยความเร็ว อันนี้ดูมีความตื่นเต้นระดับหนึ่ง เพราะตัวรถสูงแอบกังวลใจ แต่การเติมคันเร่งในโค้งกลับทำให้พอสัมผัสอาการรถได้ชัดเจนว่า เอาอยู่ ไม่มีอาการลื่นไถลแหกโค้ง เป็นระบบที่เติมเข้ามาเพื่อความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน 

ทั้งนี้ AYC มีการทำงาน 5 ระดับ ถ้าทำถึงระดับ 5 แล้วรถยังไม่กลับมาอยู่ในการควบคุม ก็ยังมีระบบ ASC -Active Stability Control ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยไปอีกขั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของรถ

รถครอบครัวที่ดูจะนิยมความแตกต่าง

สรุปรวม XPANDER CROSS 2023 วางตัวเองมากินตลาดค่อนข้างกว้าง เมื่อไปเทียบกับกลุ่มเดียวกันในตลาด ไม่ได้แพ้ใคร ในเรื่องใด แต่ในอีกมุมดูจากราคา 946,000 บาท คงสโคปลงมาในกลุ่มที่ชื่นชอบรถกลุ่มนี้ หรือสไตล์นี้จริงๆ อาจจะต้องมีฐานะในระดับหนึ่ง เพราะอาจจะไม่ใช้รถคันเดียว หรือคันแรกของครอบครัว ความกว้างขวาง วัสดุดี งานประกอบเนี๊ยบ ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ อัตราประหยัดน้ำมันพอประมาณ น่าจะเป็นทางเลือกของครอบครัวที่ต้องการอะไรสไตล์นี้ได้ดีอยู่เชียว  

เรื่อง  : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ภาพ : ฝ่ายภาพ GRANDPRIX

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th