ไฮลักซ์ รีโว่ คาราวานทริป กรุงเทพ – อิตาลี Day 13 : 15 มิ.ย. 2559ท่องเที่ยวเมืองคาซการ์
หลังจากเดินทางต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 12 วัน กับระยะทางกว่า 7,200 กิโลเมตร วันนี้จะเป็นวันแรกที่คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ จะได้หยุดพักกันหนึ่งวันที่เมืองคาชการ์ (Kashgar)
คาชการ์ (Kashgar) หรือคาสือ (Kashi) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่สุดพรมแดนทางตะวันตกของจีน เป็นจุดบรรจบแห่งอารยธรรมโบราณบนเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่มากว่า 2,000 ปี เมื่อกองคาราวานในยุคทางสายไหมเดินทางมาถึงที่นี่ได้จะถือว่าปลอดภัยแล้ว เนื่องจากได้ผ่านพ้นเส้นทางทะเลทรายช่วงที่ยากที่สุดมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง ในอดีตเป็นเมืองที่เคยผ่านการถูกยึดครองทั้งจากอังกฤษ รัสเซีย ชนชาติอาหรับ และจีน
เมืองโอเอซิสแห่งนี้ตั้งอยู่บนแอ่งที่ราบทาริม (Tarim) บนขอบทะเลทรายตากลามากัน (Taklamakan) อันกว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากทะเลทรายซาฮาร่า (Sahara) ที่นี่อาจเป็นเพียงแห่งเดียวในโลก ที่ผู้มาเยือนจะมีโอกาสได้เห็นชาวมุสลิมคีบตะเกียบและกินก๋วยเตี๋ยวกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่สามารถเชื่อมต่อไปยังปากีสถานบนเส้นทางคาราโครั่มไฮเวย์ (Karakoram Highway) ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างคาชการ์กับกรุงอิสลามาบัด (Islamabad) ในปากีสถานอีกด้วย โดยวันนี้ทีมคาราวานจะพักการขับรถ และเดินทางสำรวจเมืองด้วยรถบัสพร้อมกับไกด์ท้องถิ่นแทน เริ่มที่แรกกันที่ตลาดค้าส่งหลักอันขึ้นชื่อประจำเมือง (Kashgar Western & Asian Bazaar for International trade) มีสินค้าแทบจะทุกประเภทตั้งแต่เครื่องเทศ เสื้อผ้าพื้นเมือง ผ้าพันคอ รองเท้า เครื่องหนัง ขนม ของเล่น ฯลฯ ทีมคาราวานซื้อของไป ถ่ายรูปไปด้วย ซึ่งก็ได้ของติดไม้ติดมือกันมาพอสมควร เพราะของที่นี่ราคาถูกมาก ผู้คนก็น่ารักยิ้มแย้มแจ่มใจ และดูมีไมตรีให้กับคนต่างถิ่นเป็นอย่างดี
จากนั้นได้เวลาไปสำรวจเขตเมืองเก่ากันบ้าง โดยเมืองเก่าของคาชการ์นั้นมีอยู่สองที่ ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ฝั่งหนึ่งเป็นเมืองเก่าที่ไม่ได้รับการบูรณะ ส่วนอีกฝั่งเป็นเมืองเก่าที่สร้างขึ้นมาภายหลัง และได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A (สถานที่ท่องเที่ยวในกลุ่มที่ดีที่สุดของจีน) ซึ่งจุดแรกที่ทีมคาราวานเข้าไปชมคือฝั่งที่เป็นเมืองเก่าจริงๆ ไม่ได้รับการบูรณะใดๆ จากทางการ สภาพจึงค่อนข้างทรุดโทรมและผุพังอย่างเห็นได้ชัด บางส่วนก็ถูกรัฐบาลรื้อถอนออก ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมากที่ไม่ได้รับการอนุรักษ์และดูแลอย่างเหมาะสม ภายในเมืองเก่าแห่งนี้ยังมีคนอาศัยอยู่จริง ส่วนมากจะเป็นเด็ก ผู้หญิง และคนชรา เนื่องจากผู้ชายจะออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวกันเสียส่วนใหญ่
หลักจากนั้นเราข้ามมายังเมืองเก่าแห่งที่สองซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวหลักระดับ 5A ของเมืองคาชการ์ ถึงแม้จะถูกสร้างขึ้นมาภายหลังแต่ก็ได้รับการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังให้เป็นจุดท่องเที่ยวหลัก ภายในเป็นตึกรามที่หน้าตาคล้ายๆ กัน ตั้งเรียงรายอยู่ตลอดทาง มีร้านอาหารที่ได้รับการตกแต่งและดูแลอย่างดี ผู้คนยิ้มแย้ม มีถนนเส้นหลักสำหรับรถวิ่ง และตรอกซอกซอยเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมเมืองและสัมผัสวิถีชีวิตวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่ ซึ่งหลังจากที่เดินชมอยู่ครึ่งวัน เราพอจะนิยามเมืองนี้ได้ว่าเป็นเมืองจีนที่ไม่มีความเป็นจีน หลังจากนั้นทีมคาราวานได้ไปเยี่ยมชมสุสานอาบัค โฮจา (Apak Hoja) อนุสรณ์สถานที่อุทิศให้กับอาบัค โฮจา นักบวชซูฟีย์ในสำนักชบันดีผู้มีชื่อเสียงที่สุดในซินเจียง มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ศพของท่านได้ถูกฝังไว้ที่นี่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวอีกหลายคน ตัวสุสานที่ทำด้วยหินอ่อน ด้านในมีโรงศพพร้อมชื่อของแต่ละคน
จากนั้นไปเยี่ยมชมมัสยิดอิดกาห์ มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในจีน รองรับคนได้ถึงหนึ่งหมื่นคน คำว่า “อิดกาห์” เป็นภาษาฟาร์ซี หมายถึง สถานที่แห่งเทศกาล ทุกวันศุกร์ชาวมุสลิมเผ่าอุยกูร์จะมารวมตัวประกอบพิธีศาสนกิจกันที่นี่ โดยสถาปัตยกรรมของมัสยิดแห่งนี้เป็นสไตล์เอเชียกลางขนานแท้
ก่อนจะหมดวัน ทีมคาราวานไปเดินเล่นชมวิวกันที่จตุรัสก๋วงฉ่าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปปั้นท่านประธานเหมา เจ๋อ ตุง อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่เตือนให้ทีมรู้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราอยู่ในประเทศจีน เพราะวันพรุ่งนี้คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ จะเดินทางไกลข้ามชายแดนจีนเข้าสู่ประเทศคีร์กีซสถานกันแล้ว มาลุ้นไปพร้อมๆ กันว่าพรมแดนแห่งเอเชียกลางนั้น จะพบเจอกับอะไรบ้าง#hiluxrevocaravantrip
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th